:::

บันทึกชีวิตในไต้หวัน : เริ่มต้นใหม่ที่ไต้หวัน ซินจู๋เปิดคอร์สสอนทำพอดแคสต์ให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ สานฝันผู้จัดรายการ ครอบครัวคิงคองเผย การศึกษาคือเหตุผลที่ทำให้ย้ายประเทศมาไต้หวัน

  • 05 March, 2023
บันทึกชีวิตในไต้หวัน
ซินจู๋เปิดคอร์สสอนทำพอดแคสต์ให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ สานฝันผู้จัดรายการ

      บันทึกชีวิตในไต้หวันสัปดาห์นี้ นำเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่มาฝากคุณผู้ฟัง โดยศูนย์บริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เมืองซินจู๋ เปิดคอร์สสอนทำพอดแคสต์สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ สานฝันผู้จัดรายการ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - สิ้นเดือนมีนาคม เพื่อให้ผู้ตั้งถิ่นฐานสามารถฝึกทำช่องพอดแคสต์ด้วยตนเองที่บ้าน นอกจากนี้ ยังมีเรื่องราวดีๆเกี่ยวกับการเริ่มต้นชีวิตใหม่ในไต้หวันของครอบครัวคิงคอง ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวฮ่องกง ที่พาครอบครัวย้ายถิ่นฐานมาอยู่ไต้หวัน และเรื่องราวของครูเฉินเฟย ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีน ที่ก่อนหน้านี้เข้าอบรมหลักสูตรวิชาชีพสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในนครนิวไทเปที่จัดขึ้น ณ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายซวงซี  จนสอบได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาการทำขนมและอาหารจีน และได้กลับมาสอนทำอาหารให้แก่นักเรียนภาคค่ำในโรงเรียนมัธยม คลิกฟังสาระดีๆที่นี่เลยค่ะ


ครอบครัวคิงคอง แบ่งปันประสบการณ์ย้ายถิ่นฐานมาไต้หวัน (ภาพจาก ศูนย์บริการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงไทเป )

เริ่มต้นใหม่ที่ไต้หวัน ครอบครัวคิงคองกับเหตุผลการย้ายถิ่นฐานมาอยู่ไต้หวัน

     เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ศูนย์บริการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กรุงไทเป จัดอบรมหลักสูตรครอบครัวศึกษาและประชาสัมพันธ์ข้อกฎหมายน่ารู้สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวัน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ ได้เชิญคุณเจียงหมิงเอิน(江恩明) ที่มีฉายาบนโลกเซลเชียลว่า “คุณพ่อคิงคอง” และคุณเฉินฉี่อิง(陳啟茵) ภรรยาของเขา ซึ่งทั้งคู่เป็นครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวฮ่องกง ให้มาเป็นวิทยากรในครั้งนี้ เพื่อแบ่งปันประสบการณ์และเรื่องราวต่างๆในชีวิตต่างแดน ให้แก่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่เพิ่งย้ายมาไต้หวัน 

     คุณเจียงหมิงเอิน หรือคุณพ่อคิงคอง เล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่จะย้ายมาไต้หวัน เขาทำงานด้านการท่องเที่ยวที่ฮ่องกงมากว่า 10 ปี ส่วนคุณเฉินฉี่อิงหรือคุณแม่คิงคองทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์มาเป็นเวลากว่า 10 ปี โดยคุณเจียงหมิงเอินพาครอบครัวย้ายมาอยู่ไต้หวันเมื่อปี 2017 เปิดร้านขายอาหารฮ่องกงเล็กๆในไต้หวัน และยังมีช่องพอดแคสต์ ชื่อช่อง “吃飽太閒” ที่หมายถึง ว่างมาก อีกทั้งเขายังมีแฟนเพจเฟสบุ๊กของตัวเอง ชื่อเพจ “KING KONG爸媽移民臺灣大作戰” หมายถึง เรื่องราวการย้ายถิ่นฐานมาอยู่ไต้หวันของครอบครัวคิงคอง ซึ่งเขามักจะแชร์เรื่องราวในชีวิตประจำวันและสิ่งที่ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ต้องประสบพบเจอกับการย้ายถิ่นฐานใหม่  ตั้งแต่ขั้นตอนการยื่นเรื่องขอเป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ การหาทำเลบ้านเช่าในไต้หวัน  ค่าใช้จ่ายในไต้หวัน ตลอดจนเรื่องราวการเปิดร้านอาหารฮ่องกงในไต้หวัน ซึ่งภายหลังพวกเขาก็ได้นำเรื่องราวจากประสบการณ์ชีวิตผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวันของตนมาเขียนเป็นหนังสือที่มีชื่อเดียวกับชื่อแฟนเพจ และตีพิมพ์เมื่อปี 2021

     คุณเจียงหมิงเอินเล่าถึงเหตุผลที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่ไต้หวันว่า ชื่นชอบการศึกษาและวัฒนธรรมของไต้หวัน ซึ่งการศึกษาที่ฮ่องกงส่วนใหญ่ยังคงเป็นแบบท่องจำ ส่วนการศึกษาไต้หวันเน้นการค้นหาและส่งเสริมพรสวรรค์ของเด็ก ภายใต้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ที่สร้างสรรค์ ไม่สร้างแรงกดดันให้เด็กมากจนเกินไป และนี่จึงเห็นเหตุผลที่ทำให้คุณเจียงหมิงเอินตัดสินใจพาภรรยาและลูกย้ายมาไต้หวัน เพื่อให้ลูกของเขาได้เติบโตและเรียนรู้อย่างมีความสุขในสภาพแวดล้อมสังคมและระบบการศึกษาของไต้หวัน 

     คุณเจียงหมิงเอินเผยว่า ตอนมาไต้หวันแรกๆ ต้องปรับตัวอยู่พอสมควร ทั้งอาหารการกินและที่อยู่อาศัย แต่โชคดีที่ในตอนนั้นได้รู้จักกับคริสตจักรไต้หวัน ที่ให้การช่วยเหลือทั้งทางด้านชีวิตและจิตใจอย่างเป็นมิตร ทำให้เขารู้สึกอบอุ่นและซาบซึ้งถึงน้ำใจที่ได้รับเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบัน คุณเจียงหมิงเอินก็ได้ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวฮ่องกงที่ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ไต้หวัน รวมถึงให้คำแนะนำการปรับตัวและการทำงาน เปิดร้านในไต้หวัน เพื่อให้พี่น้องที่มาจากชาติเดียวกันกับเขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ในไต้หวันอย่างมีความสุข


ครูเฉินเฟย ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่สอนทำอาหาร (ภาพจาก globalviewcatv)

เฉินเฟย ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีนสอบได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านอาหาร กลัวสู่รั้วโรงเรียนเพื่อสอนผู้อื่น

     เฉินเฟย (陳菲) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวจีน แต่งงานมาอยู่ไต้หวันได้ 10 กว่าปีแล้ว ก่อนหน้านี้เข้าอบรมหลักสูตรวิชาชีพสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในนครนิวไทเป ที่จัดขึ้น ณ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายซวงซี โดยเธอสอบผ่านหลักสูตรและได้รับประกาศนียบัตรวิชาชีพสาขาการทำขนมและอาหารจีน ระดับ C ปัจจุบัน เธอได้กลับเป็นอาจารย์สอนทำอาหารให้แก่นักเรียนภาคค่ำในโรงเรียนมัธยมปลายซวงซี เธอสอนทุกอย่างที่ร่ำเรียนมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำขนมปัง ขนมคุ้กกี้ พายสับปะรดไต้หวัน ตลอดจนการบะหมี่เกี๊ยว นักเรียนแต่ละคนต่างกล่าวชื่นชมและขอบคุณเธอที่ตั้งใจสอนพวกเขา

     เฉินเฟย มาจากเมืองเจียงซี ที่ตั้งอยู่ในประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ หลังจากแต่งงานมาอยู่ไต้หวัน เธอก็ทำงานในร้านขายอาหารเล็กๆของสามี คืนวันผ่านไป เธอเริ่มรู้สึกหลงใหลในการทำอาหาร ทุกครั้งที่ศูนย์บริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เปิดหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับการทำอาหาร เธอก็มักจะสมัครเป็นคนแรกๆเสมอ หลังจากที่เรียนมาระยะหนึ่ง เธอก็สอบได้ประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านอาหาร เธอเล่าว่า ด้วยความที่เธอมีความสนใจในด้านการทำขนมปังด้วย เธอจึงสอบได้ประกาศนียบัตรด้านนี้อีก 1 ใบ ภายหลังจึงได้รับเชิญจากทางโรงเรียนให้กลับไปสอนให้กับนักเรียน 

     เฉินเฟยเล่าว่า รู้สึกยินดีและดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการตอบแทนสังคม โดยเฉพาะในด้านการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากต่อการเรียนรู้ของเด็ก การทำอาหารทำให้เด็กนักเรียนเหล่านี้ค้นพบสิ่งที่ตนเองชอบอีกทั้งยังสร้างความมั่นใจให้กับตัวพวกเขาเอง ซึ่งเธอเองก็ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่างจากเด็กนักเรียน เฉินเฟยเล่าว่า ความจริงบางเมนู เธอก็เพิ่งจะเคยทำเป็นครั้งแรก แต่เมื่อต้องมาสอนให้กับนักเรียน เธอจึงมักจะฝึกทำที่บ้านก่อนหลายรอบ ซึ่งความตั้งใจและการทุ่มเทให้กับการเรียนการสอนของเธอ เรียกได้ว่าเป็นที่ประจักษ์แก่ครูที่เป็นเพื่อนร่วมงานและนักเรียนอย่างชัดเจน

     โดยนักเรียนเล่าว่า ครูเฉินเฟยเป็นเหมือนคุณแม่ผู้แสนใจดี ที่ไม่เคยบ่นและเคยเหน็ดเหนื่อยกับการต้องคอยพูด คอยสอนซ้ำๆ ซึ่งนอกจากสอนทำอาหารแล้ว ครูเฉินเฟยยังแสดงความห่วงใยการเรียนและชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ทำให้พวกเขารู้สึกว่า ครูเฉินเฟยนอกจากจะเป็นครูแล้ว ยังเป็นเหมือนเพื่อนอีกคนหนึ่งที่คอยรับฟังพวกเขาเสมอ

      ครูเย่จวิ้นซื่อ (葉俊士) ครูใหญ่โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายซวงซี ทางโรงเรียนตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม โดยการอนุญาตให้ใช้พื้นที่โรงเรียนเปิดห้องเรียนทำอาหาร ยกตัวอย่างเช่น หลักสูตรวิชาชีพสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ที่ทำให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จำนวนไม่น้อยได้มีโอกาสได้เรียนเทคนิคการทำอาหารและองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ซึ่งครูเฉินเฟยเอย ก็ผ่านการอบรมในหลักสูตรนี้ จนสามารถสอบผ่านได้รับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพด้านอาหาร และกลับมาสอนให้รักเรียนในโรงเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้ ครูเฉินเฟยได้สอนนักเรียนทำพายสับปะรดไต้หวันและนำไปขาย ทำให้นักเรียนได้รายได้พิเศษ ครูใหญ่จึงซาบซึ้งและขอบคุณการอุทิศตนเพื่อสังคมของครูเฉินเฟย

เมืองซินจู๋เปิดหลักสูตร สอนทำพอดแคสต์สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่

     ศูนย์บริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เมืองซินจู๋เปิดคอร์สสอนทำพอดแคสต์สำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ สานฝันผู้จัดรายการ เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - สิ้นเดือนมีนาคม เชิญชวนผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่สนใจ กรอกใบสมัครอบรมหลักสูตรวิธีทำพอดแคสต์ด้วยตนเอง  ได้ที่ https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLScLWaGin6xwZg670wy7Hv7dr_OITIemMWMMCt1f_2lKVBccOg/viewform

     ศูนย์บริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เมืองซินจู๋  เผยว่า เมืองซินจู๋มีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ประมาณ 24,000 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จากเวียดนาม รองลงมาคืออินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เพื่อบรรลุเป้าให้ช่วยเหลือผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในไต้หวันได้เร็วยิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมให้สังคมเกิดความเข้าใจความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเชื่อมต่อกับโลกยุคข้อมูลข่าวสาร ทางศูนย์บริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เมืองซินจู๋ จึงได้จัดทำหลักสูตรวิธีทำพอดแคสต์ด้วยตนเองเป็นครั้งแรก ให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ฝึกทำรายการในช่องพอดแคสต์เป็นของตัวเอง ให้พวกเขาสามารถใช้พื้นที่ตรงนี้แบ่งปันมุมมองและความคิดของตน นำไปสู่การสร้างความเข้าใจในความแตกต่าง และให้พี่น้องผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ได้สนุกกับชีวิตในไต้หวัน

     สำหรับหลักสูตรวิธีทำพอดแคสต์ด้วยตนเอง ได้เชิญอาจารย์หวงรุ่ยเหริน (黃瑞仁) อาจารย์หลิวมั่นสู้ (劉曼肅) และอาจารย์หวงอวี้เหมาย (黃玉美) ผู้ที่มีประสบการณ์การทำพอดแคสต์ มาเป็นอาจารย์สอน จะมีการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฎิบัติ โดยภาคทฤษฎี ประกอบไปด้วย การทำความเข้าใจกับพอดแคสต์  แนะนำสภาพแวดล้อมและวิธีการอัดเสียง แนะนำโปรแกรมและอุปกรณ์ที่ใช้ในการอัดเสียง วิธีการเขียนผังรายการ การวิเคราะห์การตลาด  ขั้นตอนการทำรายการ ผู้จัดรายการมีหน้าที่อะไร เทคนิคการสัมภาษณ์ ส่วนภาคปฎิบัติ ให้ทำรายการมานำเสนอ 

     หลักสูตรวิธีทำพอดแคสต์ด้วยตนเอง จะเรียนทั้งหมด 5 วัน ได้แก่วันเสาร์ที่ 6 - 13 - 20 พฤษภาคม วันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน และวันเสาร์ที่ 1 กรกฎาคม เรียนตั้งแต่เวลา 9.00 น.-16.00 น.  โดยวันอังคารที่ 16 พฤษภาคม ทางหลักสูตรจะพานักเรียนที่เข้าร่วมหลักสูตรเดินทางไปทัศนศึกษาเยี่ยมชมสถานีวิทยุเรดิโอไต้หวันอินเตอร์เนชันแนล หรืออาร์ทีไอด้วย สำหรับสถานที่เรียน อยู่ที่ศูนย์บริการผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ เมืองซินจู๋  ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 71 ชั้น 3 ถนนเจิ้งสืออี เขตจู๋เป่ย เมืองซินจู๋ เบอร์โทรติดต่อ 03-6570832 รับจำนวนกัด ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมได้ตั้งแต่วันนี้ - 31 มี.ค. 66

 

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง