RTI Radio Taiwan International 
RTI Radio Taiwan International 
จางซ่านจื้อ(張善政) ผู้ว่านครเถาหยวน เสนอนโยบาย เอื้อประโยชน์ต่อสตรี 5 ประการ สำนักสาธารณสุข นครเถาหยวน แถลงในการประชุมสภาจังหวัด สตรีที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านนครเถาหยวนอายุ 30 – 40 ปี จะอุดหนุนการแช่แข็งไข่ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ ในปีที่ 1 จะมีการให้เงินช่วยเหลือที่ 10,000 บาทสำหรับเงินบำรุงสุขภาพของการแช่แข็งไข่ ในปีที่ 2 และ 3 จะมีการให้เงินช่วยเหลือในการเก็บรักษาไข่ 6,000 เหรียญไต้หวันต่อปี โดยมีวงเงินสูงสุดที่ 22,000 เหรียญไต้หวัน สามารถยื่นคำขอได้หนึ่งครั้งตลอดชีวิต โดยคาดว่าจะเริ่มรับคำขอในช่วงกลางเดือนเมษายนนี้
นครเถาหยวนอุดหนุนแช่แข็งไข่
ตามข้อมูลทางสถิติระบุ ประมาณว่ามีผู้หญิงประมาณ 400 คนในเมืองเถาหยวนที่มีสิทธิ์และขอรับเงินอุดหนุน และต้องใช้เงินทุนต่อปีประมาณ 10 ล้านหยวน
หลิวอี๋เหลียน(劉宜廉) ผู้อำนวยการสำนักสาธารณสุข กล่าวว่าหลังจากที่เมืองเถาหยวนจัดการประชุมปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญ ได้ให้การอุดหนุนค่าบำรุงโภชนาการและเก็บรักษาไข่แช่แข็ง คาดว่าจะเริ่มรับสมัครในกลางเดือนเมษายน และมีผลย้อนหลังไปถึงเดือนมกราคมของปีนี้ พลเมืองที่มีสิทธิ์สามารถเข้ารับการรักษาในสถานเจริญพันธุ์ผสมเทียม 9 แห่งที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการในเมืองเถาหยวน โดยสถานพยาบาลต่างๆ เป็นตัวแทนลงทะเบียน หลังจากได้รับการอนุมัติจากสำนักอนามัยแล้ว จะโอนเงินอุดหนุนเข้าในบัญชีของประชาชน
หลิวอี๋เหลียนยังกล่าวด้วยว่า สถิติกระทรวงมหาดไทย อายุของการแต่งงานครั้งแรกและการคลอดบุตรคนแรกในไต้หวันเพิ่มขึ้นทุกปี อายุเฉลี่ยของการแต่งงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นจาก 27 ปีในปี 1996 เป็น 30 ปีในปี 2021ส่วนการคลอดบุตรคนแรกเพิ่มขึ้นจาก 23 ปีในปี 1981 เป็น อายุ 31 ในปี 2021 นอกจากนี้ เนื่องจากอายุที่มากขึ้นจะส่งผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ แผนการแช่แข็งไข่สามารถให้ผู้ที่ยังไม่มีคู่สมรสแต่มีแผนการแต่งงานและต้องการมีบุตรในอนาคต หรือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการวางแผนมีบุตรเนื่องจากการรักษาโรค ก็สามารถมีบุตรได้ในอนาคต
เมืองซินจู๋ทุ่มงบ 25.6 ล้าน TWD อุดหนุนแช่แข็งไข่ หวังเพิ่มอัตราการเกิด
เกาหงอัน(高虹安) ผู้ว่าเมืองซินจู๋ ร่วมกับสมาคมสูตินรีแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ วางแผนทดลองโครงการ “ตั้งครรภ์อย่างมีความสุข祝你好孕” จัดสรรงบประมาณ 25.69 ล้านเหรียญไต้หวันสำหรับการให้เงินอุดหนุนแช่แข็งไข่ (Egg Freezing) เพื่อให้หญิงที่อยู่ในวัยทำงานแต่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตรขณะนี้ หรือหญิงที่แต่งงานแล้วแต่มีบุตรยาก สามารถวางแผนมีบุตรได้ในอนาคต อีกทั้งยังเป็นการทำตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากเธอมองว่า เมืองซินจู๋เป็นเมืองเทคโนโลยี พนักงานได้รับเงินเดือนสูง แต่การทำงานก็มีแรงกดดันสูง ส่งผลให้สตรีตั้งครรภ์เมื่ออายุมากขึ้นด้วย
เมืองซินจู๋ทุ่มงบ 25.6 ล้าน TWD อุดหนุนแช่แข็งไข่
สำหรับเงินที่ให้การอุดหนุนแบ่งเป็น 2 รายการ ได้แก่ การเจาะเลือดตรวจฮอร์โมนแอนตี้มูลเลอเรียน (Anti-Mullerian Hormone: AMH) สำหรับหญิงอายุ 25-40 ปี ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเมืองซินจู่ก่อนวันที่ 1 ม.ค. 2566 จำนวน 2,000 คน และการแช่แข็งไข่ สำหรับหญิงอายุ 25-40 ปี และเป็นพลเมืองอาศัยที่อยู่ในเมืองซินจู๋ครบ 1 ปี จำนวน 1,000 คน
เฉินโฮ่วฉวน(陳厚全) ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขเมืองซินจู๋ชี้ว่า หญิงที่มีอายุเกิน 35 ปี มีโอกาสไม่ตั้งครรภ์ แท้ง คลอดก่อนกำหนดสูง นอกจากนี้ หญิงมีครรภ์ที่อายุยิ่งมาก ยิ่งมีอัตราคลอดลูกที่มีน้ำหนักน้อยสูง อัตราเกิดความผิดปกติของโครโมโซมก็สูงเช่นกัน จึงเชิญชวนให้คลอดลูกในวัยเจริญพันธุ์ แต่ถ้าแต่งงานช้า มีลูกช้า ก็ควรวางแผนตรวจรังไข่และแช่แข็งไข่ไว้สำหรับช่วงพร้อมที่จะมีลูก
ปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายในการตรวจร่างกาย ค่าแช่แข็งไข่และค่าเก็บรักษาทั่วไปอยู่ที่ 60,000-120,000 เหรียญไต้หวันขึ้นไป และกำหนดแช่แข็งไข่นานที่สุด 10 ปี ส่วนโครงการที่เมืองซินจู๋ให้เงินอุดหนุนแช่แข็งไข่คนละ 20,000 กว่าเหรียญไต้หวันและให้เงินอุดหนุนค่าดูแลการแช่แข็งไข่ 2,000 เหรียญไต้หวันต่อปี นานที่สุด 5 ปี
สำนักงานสาธารณสุขเมืองซินจู๋เผยว่า ชาวเมืองซินจู๋เข้ารับบริการแช่แข็งไข่กับหน่วยงานด้านเจริญพันธุ์ปีละประมาณ 4,000 คน ขณะนี้ ทางรัฐบาลเมืองซินจู๋ให้เงินอุดหนุนส่วนนี้ปีละ 1,000 คน คาดหวังให้หญิงโสดหรือหญิงที่แต่งงานแล้วแต่ไม่มีลูกสามารถไปรับบริการได้ อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศระบุ ไข่ที่ผ่านการแช่แข็งแล้วมีอัตราการนำมาใช้ 15-20% จึงแนะนำว่าสตรีเข้าเงื่อนไข ควรปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านเจริญพันธุ์ประเมินความเหมาะสมในการเก็บไข่แช่แข็งไว้ และทางสำนักงานสาธารณสุขเมืองซินจู๋ยังบอกด้วยว่า ในแต่ละปีองค์กรการเจริญพันธุ์เมืองซินจู๋ให้บริการเก็บไข่แช่แข็ง 4,000 ราย หลังหารือกันแล้วทางเทศบาลเมืองจะให้การอุดหนุนปีละ 1,000 คน เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่แต่งงาน แต่งงานแล้ว รวมทั้งกลุ่มผู้มีลูกยาก ได้รับประโยชน์
