1. ผ่อนคลายแล้ว แรงงานต่างชาติเดินทางเข้าไต้หวัน ไม่บังคับต้องพักในห้องพักมีห้องน้ำในตัว ห้องพักไม่ต้องลงทะเบียนหรือได้รับการรับรองจากกองแรงงานอีกต่อไป
กรณีที่แรงงานต่างชาติเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน จะต้องสังเกตอาการเป็นเวลา 7 วันในห้องพักเดี่ยวที่มีห้องน้ำในตัว ซึ่งน้อยนักที่หอพักโรงงานจะมีห้องพักเดี่ยวที่มีห้องน้ำในตัวตามเงื่อนไข เท่ากับเป็นการบังคับให้ต้องไปอยู่ที่ห้องพักโรงแรม ทำให้เสียค่าใช้จ่าย กระทรวงแรงงานประกาศผ่อนคลายมาตรการสังเกตอาการตนเองช่วง 7 วันของแรงงานต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวัน ไม่ว่าจะเดินทางมาใหม่หรือเดินทางกลับจากการลากลับไปพักร้อนหรือไปเยี่ยมครอบครัว โดยหลักการ แนะนำให้พักในห้องพักเดียวที่มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่บังคับเป็นเพียงข้อแนะนำ โดยไม่จำเป็นต้องไปกักตัวสังเกตอาการที่ห้องพักโรงแรมอีกต่อไป มาตรการผ่อนคลายดังกล่าว ช่วยลดค่าใช้จ่ายของนายจ้างและแรงงานต่างชาติลงได้อย่างมาก
สื่อประชาสัมพันธ์จากกรมพัฒนากำลังแรงงาน กระทรวงแรงงาน
เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ในไต้หวันคลี่คลายลงและมีแนวโน้มในทางที่ดีขึ้น อัตราการติดเชื้อของแรงงานต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันมีเพียง 0.2% และเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกแก่นายจ้างและแรงงานต่างชาติ หลังเสนอต่อศูนย์บัญชาการควบคุมโรคแล้วได้รับอนุญาต กระทรวงแรงงานประกาศว่า ตั้งแต่ 15 มีนาคมเป็นต้นไป ผ่อนคลายมาตรการสังเกตอาการตนเองของแรงงานต่างชาติที่เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน ก่อนการเดินทาง ยังต้องรับวัคซีนครบ 2 เข็ม แต่ไม่ต้องอัปโหลดหลักฐานหรือใบรับรองฉีดวัคซีน นอกจากนี้ ก่อนการเดินทาง ไม่ต้องลงทะเบียนสถานที่กักตัวสังเกตอาการตนเอง และหอพักหรือบ้านพักนายจ้างที่จะใช้เป็นห้องพักสังเกตอาการตนเอง ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบหรือผ่านการรับรองจากกองแรงงานท้องที่ก่อนอีกต่อไป
กระทรวงแรงงานผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด โดยหลักการให้พักในห้องพักเดียวที่มีห้องน้ำในตัว แต่ไม่บังคับเป็นเพียงข้อแนะนำ หมายความว่าไม่จำเป็นต้องไปกักตัวสังเกตอาการที่ห้องพักโรงแรมอีกต่อไป
ประกาศกระทรวงแรงงานแนะนำว่า โดยหลักการยังควรสังเกตอาการตนเอง 7 วัน ในห้องพักเดี่ยวที่มีห้องน้ำในตัว หากในหอพักมีห้องพักเดี่ยวแต่ไม่มีห้องน้ำในตัว มีเพียงห้องน้ำรวม และสามารถทำความสะอาดฆ่าเชื้อห้องน้ำรวมทุกครั้งที่ใช้แล้ว อนุญาตให้ใช้หอพักหรือบ้านพักนายจ้างได้ โดยไม่บังคับต้องไปพักที่ห้องพักโรงแรมอีกต่อไป ในระหว่างสังเกตอาการหากมีอาการถึงตรวจ ATK และไม่ต้องอัปโหลดผลตรวจไปยังเว็บไซต์ศูนย์บริการแรงงานต่างชาติประจำท่าอากาศยานของกรมพัฒนากำลังแรงงาน กระทรวงแรงงาน อย่างไรก็ตาม เพื่อสานต่อภารกิจในการให้บริการอบรมสิทธิประโยชน์จากศูนย์บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จ แรงงานต่างชาติในภาคการผลิตที่เดินทางมาใหม่ หรือว่างเว้นไม่ได้เดินทางเข้าในไต้หวัน 5 ปีขึ้นไป รวมผู้อนุบาลในองค์กร นายจ้างยังต้องลงทะเบียนข้อมูลที่เว็บไซต์ศูนย์บริการแรงงานต่างชาติประจำท่าอากาศยานของกรมพัฒนากำลังแรงงาน กระทรวงแรงงาน ก่อนการเดินทาง 3 วัน กรณีที่เป็นผู้อนุบาลในครัวเรือน ต้องลงทะเบียนก่อนการเดินทาง 5 วัน
การเดินทางเข้าไต้หวันของแรงงานต่างชาติ กลับไปสู่สภาพการณ์หรือระเบียบกฎเกณฑ์การเดินทางเข้าไต้หวันก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2563
สำหรับแรงงานต่างชาติที่เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวหรือกลับไปพักร้อน ก่อนเดินทางกลับเข้าไต้หวัน นอกจากไม่ต้องลงทะเบียนก่อนการเดินทางเหมือนแรงงานที่เดินทางมาใหม่แล้ว ยังผ่อนคลายมาตรการรับส่งที่สนามบิน อนุญาตให้นายจ้าง บริษัทจัดหางานหรือผู้รับมอบหมายให้ไปรับที่สนามบินเองเช่นเดียวกับแรงงานต่างชาติภาคการผลิตที่เดินทางมาใหม่ เพื่อไปส่งยังหอพักหรือสถานที่สังเกตอาการตนเองได้ ยกเว้นผู้อนุบาลในครัวเรือนที่เดินทางมาใหม่ จะมีรถบัสโดยสารไปรับที่สนามบิน เพื่อส่งไปรับการอบรมเป็นเวลา 3 วัน 2 คืนที่ศูนย์บริการจุดเดียวเบ็ดเสร็จต่อไป
ภาพบรรยากาศแรงงานต่างชาติเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน (ภาพจาก CNA)
นอกจากนี้ ยังเลิกการจัดทำแผนป้องกันโรคโควิดของบริษัทจัดหางานต่างประเทศและรายการตรวจสอบ (เช็คลิสต์) ซึ่งบริษัทจัดหางานจะต้องจัดทำ ผ่านการรับรองของกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ซึ่งที่ผ่านมา แต่ละบริษัทจัดหางานจะต้องจัดทำแผนดังกล่าว 1 ชุด ยื่นขอลงทะเบียนต่อสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศผู้ส่งออกแรงงาน ต่อไปไม่ต้องจัดทำอีกต่อ
ภาพบรรยากาศแรงงานต่างชาติเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน (ภาพจากกรมพัฒนากำลังแรงงาน)
ประกาศผ่อนคลายมาตรการป้องกันโรคสำหรับแรงงานต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันฉบับนี้ แม้จะยังเสนอให้แรงงานต่างชาติพักในห้องเดี่ยวที่มีห้องน้ำในตัว เพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 7 วัน แต่เป็นเพียงข้อเสนอ ไม่ได้บังคับ อีกทั้งก่อนการเดินทางไม่ต้องลงทะเบียนสถานที่หรือหอพักที่ใช้สำหรับสังเกตอาการตนเอง ไม่ต้องผ่านการตรวจสอบ รวมถึงไม่ต้องอัปโหลดผลตรวจ ATK และใบรับรองรับวัคซีน เท่ากับว่ากลับไปสู่สภาพการณ์หรือระเบียบกฎเกณฑ์การเดินทางเข้าไต้หวันก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อปี 2563 แต่ในประกาศไม่ได้บอกตรง ๆ ว่ายกเลิกหมดแล้ว บอกเพียงข้อเสนอโดยหลักการ ปล่อยให้เป็นดุลพินิจของนายจ้างและแรงงานกันเอง
ภาพบรรยากาศแรงงานต่างชาติเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน
2. ปี 2565 ไต้หวันอนุมัติเงินบำเหน็จชราภาพแก่อดีตแรงงานต่างชาติเพิ่มขึ้นเท่าตัวของปีก่อน กว่า 6,000 ราย 95% เป็นแรงงานไทย
กองทุนประกันภัยแรงงานเปิดเผยข้อมูลการยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพของชาวต่างชาติในปี 2565 ว่า ชาวต่างชาติที่เคยเป็นสมาชิกกองทุนประกันแรงงานและมีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ยื่นขอและได้รับอนุมัติเงินบำเหน็จ/บำนาญชราภาพจำนวน 6,125 ราย ในจำนวนนี้ มีเพียง 323 ราย ได้รับอนุมัติเงินบำนาญชราภาพแบบเป็นรายเดือน นอกนั้น 5,802 รายยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพแบบเป็นก้อนครั้งเดียว เฉลี่ยรายละ 65,361 เหรียญไต้หวัน สูงสุด 600,000 เหรียญ ทั้งนี้ ผู้ยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพแบบเป็นก้อนครั้งเดียวส่วนใหญ่เป็นแรงงานไทย และตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหน้านี้ที่มี 3,197 รายถึงเท่าตัว
ที่ทำการสำนักงานใหญ่กรมประกันภัยแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในกรุงไทเป
ตามกฎหมายมาตรฐานแรงงานของไต้หวัน ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกกองทุนประกันภัยแรงงาน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานท้องถิ่นหรือแรงงานต่างชาติ เมื่ออายุถึงเกณฑ์ สามารถยื่นขอเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญชราภาพได้ กล่าวคือต้องมีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป สำหรับผู้เกิดก่อนหรือในปี พ.ศ. 2500 และผู้ที่เกิดปี พ.ศ. 2501 จะต้องมีอายุครบ 61 ปีขึ้นไป ผู้เกิดปี 2502 ต้องมีอายุครบ 62 ปี ผู้เกิดในปี 2503 จะต้องมีอายุครบ 63 ปี ผู้ที่เกิดในปี 2504 จะต้องมีอายุครบ 64 ปี และผู้ที่เกิดในปี พ.ศ. 2505 และหลังจากนั้น จะต้องมีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป จึงจะมีสิทธิ์ยื่นคำร้องขอรับเงินบำเหน็จชราภาพ จะยื่นขอไว้ก่อนไม่ได้
ภายในที่ทำการสำนักงานใหญ่กรมประกันภัยแรงงาน กระทรวงแรงงาน ในกรุงไทเป
สาเหตุที่แรงงานไทยเป็นผู้ยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพมากที่สุด กองทุนประกันภัยแรงงานกล่าวว่า อาจเนื่องมาจากแรงงานไทยเป็นชาติแรกที่ได้รับอนุญาตเดินทางมาทำงานในไต้หวัน 28 ตุลาคม 2532 อายุโดยเฉลี่ยมากกว่าชาติอื่น ส่วนแรงงานอีก 3 ชาติ ได้แก่แรงงานฟิลิปปินส์ เวียดนามและอินโดนีเซีย อายุจะน้อยกว่า ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะยื่นขอ ประกอบกับในบรรดาแรงงานทั้ง 4 ชาติ มีเพียงสำนักงานแรงงานไทยแห่งเดียวที่ให้บริการแรงงานไทยยื่นขอและได้รับเงินสวัสดิการนี้ โดยจัดทำเอกสารและขั้นตอนในการยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพ ตลอดประชาสัมพันธ์ให้แรงงานไทยได้รับรู้ รวมถึงกระทรวงแรงงานไทยได้สั่งการให้สำนักงานแรงงานจังหวัดทุกจังหวัดและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือแรงงานไทย โดยไม่คิดค่าบริการใด ๆ ขณะที่สำนักงานแรงงานอีก 3 ประเทศ ยังไม่ได้ลงมือทำในเรื่องนี้ ทำให้แรงงานชาติอื่นแม้ว่าจะมีอายุถึงเกณฑ์ยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพแต่ยังไม่ทราบและไม่สามารถยื่นขอรับเงินบำเหน็จชราภาพดังกล่าวเช่นเดียวกับแรงงานไทย
ไต้หวันเป็นประเทศเดียวที่มีสวัสดิการจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพแก่แรงงานต่างชาติ
แรงงานไทยที่ยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพ เนื่องจากเดินทางกลับประเทศแล้ว เมื่ออายุถึงเกณฑ์ในการยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพ จะต้องเตรียมเอกสารสำหรับการยื่นขอ และต้องแปล รับรองผ่านกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศไทย และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป ประจำประเทศไทย ส่วนใหญ่ทำเองไม่เป็น จึงเป็นโอกาสให้กลุ่มบุคคลบางกลุ่มทำธุรกิจช่วยอดีตแรงงานไทยยื่นขอสิทธิประโยชน์ดังกล่าว และหักค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 20-50% ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ไม่เต็มจำนวนที่พึงได้รับ
แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว นครเถาหยวน
เนื่องจากแรงงานต่างชาติที่เดินทางมาทำงานในไต้หวันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง และอดีตแรงงานต่างชาติมีอายุถึงเกณฑ์ที่จะยื่นขอเงินบำเหน็จชราภาพก็เพิ่มมากขึ้นตามลำดับ ก่อนหน้านี้เคยมีกลุ่ม NGO เสนอแนะว่า แรงงานต่างชาติที่ทำงานครบสัญญาและเดินทางกลับประเทศ จ่ายเงินบำเหน็จชราภาพเป็นก้อนครั้งเดียวให้แก่แรงงานต่างชาติที่เป็นสมาชิกกองทุนฯ ตามอายุงานก่อนการเดินทางกลับประเทศ และเคยมี ส.ส. และนายจ้างเสนอว่า ควรจะคืนเบี้ยประกันภัยแรงงานก่อนเดินทางกลับประเทศหรือเอาประกันเฉพาะอุบัติภัยก็พอ แต่คำนึงถึงความเสมอภาค ความเป็นธรรมและสิทธิประโยชน์โดยรวมของแรงงานต่างชาติ กระทรวงไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว
แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว นครเถาหยวน
อัตราเงินบำเหน็จชราภาพ จะได้ตามอายุงานซึ่งสามารถรวมสะสมได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนายจ้างเดียวกันหรือต่อเนื่องกัน อายุงาน 1 ปีจะได้ 1 เดือนของค่าจ้างที่แจ้งเอาประกัน เช่นแรงงานไทยมาทำงานที่ไต้หวัน 3 ครั้ง รวม 9 ปี จะได้ 9 เดือนของค่าจ้างที่แจ้งเอาประกันในขณะนั้น โดยเป็นค่าเฉลี่ยของค่าจ้างที่แจ้งเอาประกันใน 60 เดือน ส่วนที่ไม่ครบปี จะได้รับตามสัดส่วน
แรงงานไทยในโรงงานผลิตล้อแมกซ์
สำหรับแรงงานต่างชาติที่เคยหลบหนีถูกส่งกลับ หรือติดคดีเคยถูกจำคุก มีสิทธิ์ขอรับเงินบำเหน็จชราภาพได้ตามอายุงาน ช่วงก่อนกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมายหรือก่อนก่อคดีได้เช่นเดียวกับแรงงานทั่วไป ทั้งนี้เพราะกองทุนประกันภัยแรงงานจ่ายเงินบำเหน็จชราภาพ โดยดูจากเคยเป็นสมาชิกกองทุน เคยจ่ายเบี้ยประกันภัยแรงงานและมีคุณสมบัติในการยื่นขอหรือไม่ ไม่เกี่ยวกับการหลบหนีกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เคยทำผิดคดีหรือเคยถูกจำคุก
3. ไม่เข็ด! 2 แม่เฒ่าชาวไทยวัย 77 และ 63 ปี เปิดร้านอาหารบังหน้า ตั้งบ่อนชวนเพื่อนร่วมชาติเล่นไฮโล ถูกจับเป็นหนที่ 2 ในรอบ 4 เดือน รวบนักพนันคนงานไทย 9 คน หลังเคยโดนจับ 20 คนมาแล้วเมื่อ ต.ค. 65
เมื่อกลางดึกวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ตำรวจนครนิวไทเปได้ทลายบ่อนการพนันแห่งหนึ่งในพื้นที่ซู่หลิน กลางวันขายอาหารไทยบังหน้า แต่กลางคืนกลายเป็นบ่อนการพนัน จับนางชิวและนางโหล หญิงไทยที่มาแต่งงานและได้สัญชาติไต้หวันแล้ว 2 คน ร่วมกันเป็นเจ้ามือบ่อน พร้อมแรงงานไทยอีก 9 คน ส่งดำเนินคดีข้อหาลักลอบเล่นการพนันและฝ่าฝืนกฎหมายรักษาความเป็นระเบียบของสังคม โดยนางโหล เป็นเจ้าของร้านอาหารไทยดังกล่าว เคยถูกจับข้อหาตั้งบ่อนการพนันมาแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2565 เพิ่งจะถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 4 เดือน แต่อนุญาตให้จ่ายค่าปรับแทนการจำคุกได้ ในอัตราวันละ 1,000 เหรียญ ถูกปรับไป 120,000 เหรียญ แต่ยังไม่เข็ด คราวนี้ถูกจับอีกคงจะโดนหนัก
2 แม่เฒ่าชาวไทยวัย 77 และ 63 ปี เปิดร้านอาหารบังหน้า ตั้งบ่อนชวนเพื่อนร่วมชาติเล่นไฮโล ถูกจับเป็นหนที่ 2 ในรอบ 4 เดือน รวบนักพนันคนงานไทย 9 คน
โฆษกสถานีตำรวจซู่หลินกล่าวว่า สำนักงานตำรวจกำลังปฏิบัติการกวาดล้างอาชญากรรมตั้งแต่ต้นทาง สถานีตำรวจซู่หลินจัดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบลงพื้นที่คลุกคลีกับชาวบ้านเพื่อหาข่าว พบร้านอาหารไทยแห่งหนึ่งในพื้นที่ซู่หลิน กลางวันขายอาหารบังหน้า กลางคืนกลายเป็นบ่อนการพนัน มีแรงงานไทยในละแวกเดียวกันมาเล่นการพนันค่อนข้างมาก หลังจากตรวจสอบจนได้หลักฐานแน่ชัดแล้ว เมื่อกลางดึกประมาณ 23.00 น. ของวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา ตำรวจขอหมายค้นจากศาลจู่โจมร้านอาหารดังกล่าว พบนางชิวและนางโหลกับแรงงานไทยอีก 9 คน กำลังนั่งล้อมวงเล่นไฮโลกันอย่างหน้าดำคร่ำเคร่ง ถูกรวบตัวทั้งหมด ในจำนวนแรงงานไทยที่เป็นนักพนัน มี 2 คนเป็นแรงงานผิดกฎหมาย พร้อมยึดของกลางเป็นเงินเดิมพัน 80,000 เหรียญเศษ ค่าต๋งอีก 35,900 เหรียญ ชุดอุปกรณ์เล่นไฮโล อย่างจานรองพร้อมฝาเปิด ลูกเต๋าเป็นต้น ตำรวจส่งดำเนินคดีข้อหาลักลอบเล่นการพนันและฝ่าฝืนกฎหมายรักษาความเป็นระเบียบของสังคม
หน้าแปลนไฮโลที่ตำรวจยึดได้
จากการสอบปากคำสอบ หญิงไทยสูงวัยทั้งสองให้การว่า พวกตนมาแต่งงานตั้งรกรากและสละสัญชาติ ได้บัตรประชาชนไต้หวันแล้วตั้ง 30 ปีที่แล้ว ในช่วง 2-3 ปีมานี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ทำให้การทำมาหากินฝืดเคือง เพื่อลดภาระแรงกดดันค่าเช่าร้าน จึงหารายได้เสริมด้วยการเปิดบ่อนไฮโล โดยเก็บค่าตั๋วเป็นรายหัว คนละ 50-100 เหรียญ ตำรวจตรวจพบว่า เพื่ออำพรางไม่ให้เป็นที่จับตาของตำรวจ กลางวันจะขายอาหาร กลางคืนเปิดบ่อน และเพื่อป้องกันมีคนแปลกปลอมเข้ามาในบ่อน มีการจัดช่องทางเข้าออกบ่อนที่ต่างกัน และนักพนันจะต้องยืนยันตัวตนผ่านโทรศัพท์มือถือก่อนจึงจะเข้าไปในบ่อนเล่นไฮโลได้
อุปกรณ์เล่นไฮโลอย่างจานรองพร้อมฝาเปิด ลูกเต๋า ที่ตำรวจยึดได้
เท่าที่ทราบ นางโหล เคยถูกจับข้อหาเปิดบ่อนไฮโลพร้อมนักพนันที่เป็นแรงงานไทยอีก 19 คนมาแล้วเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2565 เพิ่งจะถูกศาลลงโทษจำคุก 4 เดือน แต่อนุญาตให้จ่ายค่าปรับแทนการจำคุกได้ ในอัตราวันละ 1,000 เหรียญ ถูกปรับไป 120,000 เหรียญ แต่ยังไม่เข็ด
เมื่อต้นเดือนตุลาคม 65 เคยจับไปแล้ว 1 ครั้ง ในครั้งนี้น ตั้งต้นผ้าป่าไปด้วย เล่นไฮโลไปด้วย
โฆษกสถานีตำรวจซู่หลินเตือนว่า การพนันทำให้เสียการเสียงาน เสียสุขภาพและเสียอนาคต ครอบครัวแตกแยก กลายเป็นบุคคลล้มละลาย และนำไปสู่การก่อคดีอาชญากรรม การทวงหนี้ ส่งผลกระทบต่อความสงบสุขของสังคม ไม่ว่าจะชาวไต้หวันหรือต่างชาติ หากกระทำผิดกฎหมาย จะกวาดล้างอย่างเด็ดขาด เตือนอย่าท้าทายกฎหมาย
4. จับอีกแล้ว ตำรวจทลายสาวเวียดนามตั้งคลินิกเถื่อนใจกลางนครไทจง รักษาหัวนมดำให้เป็นสีชมพู รับบริการกดสิวแถมฟรีฟอกฟันขาว
นางสาวเจิ่นอายุ 31 ปี เป็นชาวเวียดนามที่เดินทางมาเยี่ยมญาติแต่อยู่เลยกำหนด ตั้งคลินิกเถื่อนในห้องเช่าใจกลางเมืองไทจง ดึงดูดลูกค้าโดยโฆษณาผ่านทางเฟซบุ๊กและติ๊กต็อก รับบริการสักคิ้ว รักษาสิว เปลี่ยนหัวนมดำให้เป็นสีชมพูและฟอกฟันขาว ฯลฯ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครนิวไทเป พร้อมด้วยตำรวจหน่วยปฏิบัติการตรวจสอบสินค้านำเข้าและส่งออกที่ผิดกฎหมาย ขณะตรวจสอบคดีต้องสงสัยคดีหนึ่ง พบข้อความโต้ตอบระหว่างแรงงานหญิงเวียดนามผิดกฎหมายรายหนึ่งกับนางสาวเจิ่นสอบถามราคาค่าบริการ ทราบว่านางสาวเจิ่นให้บริการทางการแพทย์อย่างผิดกฎหมาย ตำรวจยังไม่มีปฏิบัติการตรวจจับแต่อย่างใด แต่ตั้งคณะทำงานจับตาและตรวจสอบหาหลักฐาน จนกระทั่งมีหลักฐานชัดเจนแล้วจึงยื่นขอหมายค้นจากศาล พร้อมด้วยตำรวจและเจ้าหน้าที่กองอนามัยไทจง เข้าตรวจค้นในห้องเช่า จับนางสาวเจิ่น พร้อมยึดของกลางเป็นอุปกรณ์และสารฟอกฟันขาว แบบจำลองหัวซิลิโคนเป็นต้น ควบคุมตัวไปบันทึกปากคำข้อหาให้บริการทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต
ตำรวจจับสาวเวียดนามตั้งคลินิกเถื่อนใจกลางนครไทจง รักษาสิวแถมฟรีฟอกฟันขาว
ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครนิวไทเปแถลงว่า นางสาวเจิ่นเดินทางมาไต้หวันด้วยวีซ่าเยี่ยมญาติที่เป็นผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 แต่ไม่เดินทางกลับประเทศตามกำหนด ทำธุรกิจและให้การรักษาทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม โฆษณาหาลูกค้าผ่านทางสื่อโซเชียลอย่างเฟซบุ๊กและติ๊กต็อก โดยโพสต์รูปภาพและคลิปผลงานและการรักษาลูกค้าเป็นประจำ โฆษณาให้บริการถึงบ้าน ราคากันเอง แต่ไม่เปิดเผยต้องสอบถามกันเอง โดยอ้างว่า เก็บค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่ารักษาและค่ารถ เช่นค่าบริการฟอกฟันขาวมาตรฐาน 12,000-16,000 เหรียญ ทำครอบฟันเซรามิกซี่เดียว 1,200 เหรียญ รับประกัน 1 ปี ค่ารถไปให้บริการเก็บต่างหากเที่ยวละ 200-500 เหรียญแล้วแต่ระยะทาง และยังรับบริการกดหรือรักษาสิว ขณะให้ปากคำ นางสาวเจิ่นอ้างว่า เธอแค่ให้บริการกดสิวแก่ลูกค้า และแถมฟรีฟอกฟันขาว ไม่ได้มีพฤติกรรมทางการแพทย์ใด ๆ ส่วนเฟซบุ๊กที่โพสต์โฆษณาหาลูกค้าเป็นของทันตแพทย์ชาวเวียดนามคนหนึ่งที่มีคลินิกทันตกรรมตั้งอยู่ในกรุงฮานอย โดยตนทำหน้าที่หาลูกค้าเก็บค่านายหน้า นางสาวเจิ่นกล่าวว่า เพิ่งจะเปิดให้บริการ โดยบริการลูกค้าไปแล้วเพียง 4 รายก็ถูกตำรวจตรวจพบและจับกุม
ตำรวจจับสาวเวียดนามตั้งคลินิกเถื่อนใจกลางนครไทจง รักษาสิวแถมฟรีฟอกฟันขาว
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนิวไทเปประชาสัมพันธ์เตือนภัยชาวต่างชาติว่า หลีกเลี่ยงใช้บริการด้านการแพทย์กับผู้ที่ไม่มีคุณสมบัติ ป้องกันเกิดข้อพิพาท หากเกิดความเสียหาย นอกจากไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ได้แล้ว ที่สำคัญยังทำลายสุขภาพ เนื่องจากกระบวนการรักษาทางการแพทย์จากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้ทำโดยศัลยแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมศัลยกรรมอาจ ทำให้เกิดอักเสบ เป็นหนองและไม่สวยงามอย่างคิด จนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต นอกจากนี้ การฟอกฟันขาว ครอบหรือติดเหล็กดัดฟัน จัดฟันกับบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต และไม่ได้ทำโดยทันตแพทย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทันตกรรมนั้น มีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อในช่องปาก จนเกิดอันตรายอย่างร้ายแรงจากการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานได้
แบบจำลองหัวซิลิโคนที่ตำรวจยึดได้ในคลินิกเถื่อนของนางเจิ่น