สโมสรผู้ฟัง วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคม 2565

RTI Radio Taiwan International RTI Radio Taiwan International

มะม่วงทับทิมจากไถหนาน แต่ละลูกหนัก 550 กรัม ราคา 2 ลูก 1,000 เหรียญไต้หวัน

1. เกาะไต้หวันกลายเป็นมันเทศเผา มิ.ย. เป็นต้นมา คนไม่สบายจากอากาศร้อนเข้า รพ. แล้วกว่า 600 ราย เสาร์นี้ถึงวันอังคารร้อนสุดขั้ว อุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้สูงกว่า 40°c เตือนระวังโรคลมแดด มีโอกาสเสียชีวิตสูง 63%

          อากาศทั่วไต้หวันร้อนอบอ้าวมาตั้งแต่เดือนมิถุนายนแล้ว ปีนี้อากาศร้อนจัดกว่าทุกปี ไม่เฉพาะไต้หวันเท่านั้น ประเทศอื่นทั่วโลก แม้แต่ซีกโลกเหนือก็ร้อนจัดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน และมีคนเสียชีวิตจากอากาศร้อนไปแล้วจำนวนไม่น้อย สำหรับในไต้หวันหลังเข้าสู่หน้าร้อนเมื่อเดือนมิถุนายน จนถึงวันที่ 19 ก.ค. 65 มีคนเจ็บป่วยจากอากาศร้อนจนต้องเข้ารักษาที่โรงพยาบาลแล้ว 620 ราย เฉพาะเดือนมิถุนายนมี 277 ราย และ 19 วันแรกของเดือนกรกฎาคม มีจำนวน 343 คน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วหลายราย

^{เสาร์นี้ถึงวันอังคาร ไต้หวันร้อนสุดขั้ว อุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้สูงกว่า 40°c เตือนระวังโรคลมแดด (ภาพจาก The Liberty Times)}

          นี่ขนาดยังไม่ถึงช่วงหน้าร้อนจริง ๆ ช่วงร้อนสุดขั้วของปีนี้ จะเริ่มจากวันต้าสู่ (大暑) ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 12 ใน 24 ฤดูกาลของจีน ปีนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคมนี้ ถือเป็นช่วงเข้าสู่ฤดูร้อนกันอย่างจริงจัง กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันประกาศเตือน ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 21 กรกฎาคมเป็นต้นไป จนถึงวันอังคารที่ 26 กรกฎาคมนี้ ทั่วไต้หวันจะเหมือนกับอยู่ในเตาอบ อุณหภูมิจะสูง 38-39°c อุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้จะสูงกว่า 40°c โดยเฉพาะที่เมืองอี๋หลาน เมื่อวันที่ 19 ที่ผ่านมา อุณหภูมิสูงถึง 38.2°c ฮัวเหลียน 38.5°c พื้นที่อื่น ๆ ก็เช่นกัน สัญญาณไฟเตือนภัยสีเหลือง (อุณหภูมิสูงกว่า 36°c ขึ้นไป) ได้แก่ซินจู๋ ไทจง จางฮั่ว เจียอี้ ไถหนาน เกาสงและไถตง สัญญาณไฟเตือนภัยสีส้ม-เหลือง (อุณหภูมิสูงกว่า 36 ขึ้นไปต่อเนื่องกัน 3 วัน หรืออุณหภูมิ 38°c) ได้แก่ หนานโถว ผิงตง อี๋หลานและฮัวเหลียน ส่วนสัญญาณไฟเตือนภัยสีส้ม (อุณหภูมิสูงกว่า 38°c ขึ้นไปต่อเนื่องกัน 3 วัน) ได้แก่ ไทเป หยุนหลิน

^{เสาร์นี้เป็นวันต้าสู่ วันที่ร้อนสุดในฤดูร้อนปีนี้ ในไทเป อุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้สูงถึง 42°c พ่อแม่ไปเด็ก ๆ ไปคลายร้อนด้วยการเล่นน้ำในสวนสนุก}

          ช่วงอากาศร้อน การทำกิจกลางแจ้งต้องระวัง เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหนุ่มไต้หวันอายุ 20 ปีเศษ ปั่นจักรยานนานกว่า 1 ชั่วโมง เป็นลมหมดสติ ถูกหามส่งโรงพยาบาล แพทย์ตรวจวัดอุณหภูมิที่ทวารหนักสูงถึง 40.2°c คงเป็นเพราะขี่จักรยานท่ามกลางอากาศร้อน สะโพกเสียดสีกับเบาะรถจักรยานเป็นเวลานาน เป็นเหตุให้ป่วยเป็นโรคลมแดด โชคดีที่แพทย์ช่วยชีวิตไว้ทัน อย่างไรก็ดี แพทย์เตือนว่า ความเสี่ยงเสียชีวิตจากโรคลมแดดสูงถึง 63% จะชะล่าใจไม่ได้

^{วันเสาร์ที่ 23 กรกฎาคมนี้ พื้นที่ไทเปและนิวไทเป อุณหภูมิที่ร่างกายรู้สึกได้สูงถึง 42°c}

          แพทย์แนะนำว่า หน้าร้อนควรดื่มน้ำสะอาดที่เป็นน้ำเย็นในอุณหภูมิปกติบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงดื่มน้ำที่แช่เย็นหรือเย็นจัด เพราะจะทำให้หลอดเลือดหดตัว ประสิทธิภาพการดูดซึมลดน้อยลง สำหรับผู้ที่ขี่รถจักรยาน หรือรถจักรยานไฟฟ้า รถมอเตอร์ไซค์ แนะนำใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำเย็น พาดหรือคล้องไว้ที่คอ จะช่วยลดความร้อนลงได้มาก

^{เกาะไต้หวันมีรูปร่างลักษณะคล้ายมันเทศ หน้าร้อนปีนี้ร้อนจัด ภาพแสดงอุณหภูมิสูงจากกรมอุตุฯ ดูคล้ายเป็นมันเทศเผา}

2. ไก่ไต้หวันเอาใจยาก อากาศหนาวออกไข่น้อย อากาศร้อนจัดก็ออกไข่น้อยเช่นกัน ทำราคาไข่ไก่พุ่งไม่หยุด

          อากาศร้อนจัดยังทำให้ไก่ออกไข่น้อยลง ในขณะที่ความต้องการไข่ไก่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องมาจากการท่องเที่ยวในประเทศคึกคักขึ้น และราคาอาหารสัตว์ที่พุ่งสูงขึ้น ส่งผลให้ราคาขายส่งไข่ไก่ปรับเพิ่มขึ้น 2 เหรียญไต้หวันต่อ 600 กรัม เพิ่มเป็น 50.5 เหรียญต่อ 600 กรัม (ประมาณ 8-9 ฟอง) และราคาหน้าฟาร์มก็จะปรับขึ้นอีก 2 เหรียญไต้หวัน เป็น 42.5 เหรียญไต้หวันต่อ 600 กรัม โดยปริมาณผลผลิตลดลงเหลือ 113,000 ลังต่อสัปดาห์ (ลังละ 12 กิโลกรัมหรือประมาณ 200 ฟอง) แม้จะสอดคล้องกับความต้องการในช่วงฤดูร้อนซึ่งมีปริมาณ 110,000 ถึง 115,000 ลังต่อสัปดาห์ แต่ก็อยู่ในภาวะล่อแหลม

^{อากาศร้อนจัด ไก่ไข่ออกไข่น้อย ทำราคาไข่ไก่ราคาพุ่งสูงต่อเนื่อง}

          คณะกรรมการการเกษตรคาดการณ์ว่า ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายนนี้ ราคาธัญพืชที่เป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารสัตว์จะร่วงตกลง ซึ่งจะส่งผลให้ราคาอาหารสัตว์ปรับลดลง นอกจากนี้ช่วงปลายเดือนสิงหาคม การท่องเที่ยวในประเทศจะเริ่มกลับสู่ระดับปกติ เนื่องจากสถานศึกษาทยอยเปิดภาคเรียน ความต้องการบริโภคไข่ไก่จะลดลง รวมถึงสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวก็จะเริ่มบรรเทาลง คาดการณ์ว่า ราคาไข่ไก่จะมีโอกาสปรับลดลงและเสถียรมากขึ้น

^{ไก่ไข่ออกไข่น้อย ราคาขายส่งไข่ไก่ปรับเพิ่มขึ้น 2 เหรียญไต้หวันต่อ 600 กรัม เพิ่มเป็น 50.5 เหรียญต่อ 600 กรัม (ประมาณ 8-9 ฟอง)}

3. สภาพอากาศแปรปรวนทำผลไม้ไต้หวันหลายชนิดมีผลผลิตน้อย ชาวสวนผลไม้ไต้หวันปรับตัวหันมาผลิตผลไม้เกรดพรีเมียม ราคาสูง

          ช่วงฤดูร้อน ในไต้หวันมีผลไม้ออกสู่ท้องตลาดหลากหลายชนิด อาทิ สับปะรด มะม่วง แก้วมังกร อะโวคาโด ฝรั่ง ชมพู่ ลิ้นจี่และลำไย สามารถหาซื้อมารับประทานกันได้ในราคาไม่แพง แต่ในช่วงสองสามปีมานี้ ผลจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ทำให้ผลไม้แทบทุกชนิดมีผลผลิตลดลง ส่งผลให้ราคาแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะมะม่วงและลิ้นจี่ ที่ผลผลิตลดลงอย่างมาก ในปีนี้ก็เช่นกัน ลิ้นจี่และมะม่วงติดดอกออกผลน้อยลง ทำให้ราคาแพงจนไม่กล้าซื้อมารับประทาน เกษตรกรเจ้าของสวนผลไม้เปิดเผยว่า แม้ผลไม้จะราคาแพงแต่ไม่ได้ทำให้รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้น เพราะผลผลิตมีน้อยมาก สู้ผลผลิตมาก ราคาพอประมาณ ไม่ได้ เพราะรายได้จากการขายผลผลิตจะมากกว่า

^{ไต้หวันมีผลไม้มากมาย เฉพาะมะม่วงมีสายพันธุ์ใหม่ ๆ กว่า 130 ชนิด แต่ละปีมีผลผลิตประมาณ 500 ล้านลูก หรือถ้าจะเฉลี่ยต่อประชากรแล้ว คนไต้หวันกินมะม่วง 21 ลูก/คน/ปี} 

          เกษตรกรเจ้าของสวนผลไม้บางราย หัวไว ทยอยปรับตัวหันมาผลิตผลไม้เกรดพรีเมียม ไม่ต้องปลูกมากแต่เน้นคุณภาพเยี่ยม จำหน่ายได้ราคาดีและมักถูกจองตั้งแต่ผลไม้ยังไม่สุกเต็มที่ เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อไต้หวันรายงานข่าว มะม่วงทับทิม 2 ลูก จำหน่ายในราคา 1,000 เหรียญไต้หวัน แต่ละลูกหนัก 550 กรัม สีสันสวยงาม ผิวเกลี้ยงไร้รอยตำหนิ เป็นผลผลิตของเกษตรกรที่เขตหนานฮั่ว นครไถหนาน

^{มะม่วงทับทิมจากไถหนาน แต่ละลูกหนัก 550 กรัม ราคา 2 ลูก 1,000 เหรียญไต้หวัน}

          หลินเมี่ยว (林妙) หัวหน้าฝ่ายการตลาด สหกรณ์การเกษตรหนานฮั่วเปิดเผยว่า สหกรณ์การเกษตรหนานฮั่วได้คัดสรรมะม่วงทับทิมเกรดพรีเมียม เพื่อป้อนกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ ในปีนี้ผลผลิตมะม่วงทุกสายพันธุ์ก็น้อยกว่าปกติอยู่แล้ว ราคาจึงค่อนข้างแพง มะม่วงทับทิมมีรสชาติหวานและมีกลิ่นมะม่วงหอมอบอวล บรรดาติ่งมะม่วง หากได้ลองลิ้มชิมรสสักครั้งจะติดใจแบบมิรู้ลืม...

^{ผลไม้เกรดพรีเมียมได้รับการดูแลดีเป็นพิเศษ คุณภาพเยี่ยม จำหน่ายได้ราคาดีและมักถูกจองตั้งแต่ผลไม้ยังไม่สุกเต็มที่ (ภาพจาก สถานีทดลองและขยายพันธุ์พืชไถหนาน)}

          คณะกรรมการการเกษตรไต้หวันเปิดเผยว่า ปัจจุบันไต้หวันมีพื้นที่เพาะปลูกมะม่วงรวมทั้งสิ้น 16,109 เฮกตาร์ (ประมาณ 100,681 ไร่) โดยแหล่งเพาะปลูกสำคัญหรือร้อยละ 40 อยู่ในนครไถหนาน และส่วนใหญ่เป็น มะม่วงพันธุ์อ้ายเหวิน เนื่องจากเมื่อสุกเต็มที่จะมีสีแดงสด จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มะม่วงทับทิม แต่ละลูกน้ำหนักประมาณ 500 กรัม นอกจากมะม่วงพันธุ์อ้ายเหวินแล้ว ไต้หวันยังเพาะปลูกมะม่วงอีกหลายสายพันธุ์ อาทิ พันธุ์จินหวง (金煌) อวี้เหวิน (玉文) เฮยเซียง (黑香) เป็นต้น

^{เกษตรกรใส่ถุงป้องกันศัตรูพืชให้กับมะม่วงทับทิมอย่างทะนุถนอม}