RTI Radio Taiwan International 
RTI Radio Taiwan International 
1. ไต้ฝุ่นเนสาททำให้ภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักมาก เกิดน้ำท่วมและดินสไลด์ สร้างความเสียหายหนักในหลายพื้นที่
ช่วงสุดสัปดาห์ที่แล้ว พื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไต้หวันเกิดฝนตกหนักติดต่อกัน 2 วัน ทั้งนี้เพราะได้รับอิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่นเนสาทที่เคลื่อนตัวผ่านไปทางตอนล่างของเกาะไต้หวันบวกกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ทวีกำลังขึ้น ทำให้ตั้งแต่นครเถาหยวน นิวไทเป ไทเป จีหลงและเมืองอี๋หลานมีฝนตกหนักมาก จนเกิดอุทกภัยในหลายพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีเหตุดินสไลด์ ทำให้ต้องอพยพประชาชนออกไปยังสถานที่ปลอดภัย เคราะห์ดีที่เป็นความเสียหายด้านทรัพย์สิน ไม่มีคนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
พื้นที่เพาะปลูกที่เมืองอี๋หลานได้รับความเสียหายมากที่สุด ส่วนใหญ่เป็นไร่ขิง
อย่างไรก็ตามเจ้าของรถยนต์ที่เอารถไปจอดไว้ในลานจอดรถใต้สะพานไป๋หลิง เขตซื่อหลิน กรุงไทเป ซึ่งลานจอดรถแห่งนี้อยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำ ที่ผ่านมา เมื่อมีพายุไต้ฝุ่นหรือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วม ทางการจะประกาศให้รีบไปย้ายรถออกจากลานจอดรถทุกแห่งที่อยู่ริมแม่น้ำ แต่ครั้งนี้ เนื่องจากแจ้งเตือนในระยะเวลากระชั้นชิด ปรากฏว่ามีเจ้าของรถหลายสิบคนไม่ได้ไปย้ายรถออกมา ทางการจึงต้องใช้วิธียกไปไว้ที่สูง แต่ย้ายออกมาไม่ทันน้ำไหลทะลักเข้าท่วมอย่างรวดเร็ว ท่วมขึ้นมากเกินครึ่งตัวถังรถ เจ้าของรถไม่พอใจจะฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากทางการ ในฐานะที่เปิดลานจอดรถให้ประชาชนเอารถเข้าไปจอดแล้วได้รับความเสียหาย
รถยนต์ที่จอดไว้ในลานจอดรถใต้สะพานไป๋หลิง เขตซื่อหลิน กรุงไทเป เจ้าของรถขับออกมาไม่ทัน ถูกน้ำท่วมกว่า 50 คัน
ฝนตกคราวนี้ นับว่าหนักมาก ๆ กรมอุตุนิยมวิทยาไต้หวันเปิดเผยว่า ตั้งแต่คืนวันที่ 15-17 ตุลาคม ปริมาณน้ำฝนที่ฉิงเทียนกังบนภูเขาหยางหมิงซานในกรุงไทเป มีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 1,349 มิลลิเมตร ซึ่งมากที่สุดในไต้หวัน รองลงมาคือเขตต้าถงเมืองอี๋หลานก็มากกว่า 1,000 มิลลิเมตร นอกจากฝนตกหนักแล้ว อากาศยังเย็นลงด้วย โดยคืนวันที่ 17 ภาคเหนืออุณหภูมิลดลงต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส กลายเป็นหน้าหนาวทันที สำหรับพืชผลทางการเกษตรนั้น พบว่าที่เมืองอี๋หลานเสียหายหนักที่สุด ส่วนใหญ่เป็นไร่ขิง ต่อไปขิงคงราคาแพงขึ้น
อุทยานภูเขาหยางหมิงซาน ชานกรุงไทเป มีปริมาณน้ำฝน 1,349 มิลลิเมตร มากที่สุดในไต้หวัน ส่งผลให้เกิดเหตุดินสไลด์ต้องปิดอุทยานชั่วคราว (Upmedia)
2. ฤดูกาลของลูกพลับมาถึงแล้ว อย่าพลาดชิม ลูกพลับไต้หวันหวาน กรอบ และฉ่ำน้ำ อร่อยแถมเป็นประโยชน์ต่อหญิงวัยเจริญพันธุ์อย่างยิ่ง
ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายนของทุกปี เป็นฤดูที่ลูกพลับสุกงอมและออกสู่ท้องตลาด โดยเฉพาะช่วงที่มีผลผลิตมากที่สุดคือช่วงปลายเดือนตุลาคม-ต้นพฤศจิกายน หากช่วงเวลานี้ ใครมีโอกาสเดินทางไปที่เมืองเจียอี้ ที่ตำบลฟันลู่ (番路鄉) ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกลูกพลับที่สำคัญของไต้หวันด้วยพื้นที่เพาะปลูก 700 กว่าเฮกตาร์ (4,375 ไร่) โดยเฉพาะที่ถนนต้าหัว (大華公路) จะได้เห็นทิวทัศน์สองข้างถนนเต็มไปด้วยต้นลูกพลับที่มีลูกพลับสีเหลืองอมส้มเต็มต้น เป็นแนวสุดลูกหูลูกตา มองไกล ๆ เหมือนกับใครเอาโคมไฟสีเหลืองอมส้มไปแขวนไว้บนต้นไม้ และปัจจุบันสวนลูกพลับที่นี่ยังเปิดเป็นสวนเกษตรเชิงท่องเที่ยว ฤดูกาลนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเก็บลูกพลับสดและถ่ายรูปเช็คอินกันมากมาย
ลูกพลับหวาน แหล่งเพาะปลูกอยู่ที่เจียอี้ นิยมรับประทานสด มีรสหวาน กรอบและมีน้ำชุ่มฉ่ำ อร่อยมาก (ภาพจาก health.gvm.com.tw)
ลูกพลับ ได้ชื่อว่าเป็นผลไม้จีนโดยแท้ เพราะมีถิ่นกำเนิดจากภาคเหนือของจีน คนจีนมีการรับประทานลูกพลับมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น และต่อมาได้แพร่กระจายพันธุ์เข้าไปในญี่ปุ่น ในปัจจุบันก็ได้กลายเป็นผลไม้ยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นไปแล้ว ผลลูกพลับจะมีอยู่หลายรูปทรง ทั้งแบบกลม แบบกรวย กลมแบน ส่วนผลอ่อนของลูกพลับจะเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีเหลืองอมส้ม จำแนกตามรสชาติได้ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือ ลูกพลับหวาน ผลสุกสีส้มอมเหลือง สามารถรับประทานสด ๆ ได้ รสหวาน มีทั้งแบบกรอบกับแบบนิ่ม และลูกพลับฝาด รสฝาด เนื้อนิ่ม ผลสุกเนื้อสีส้มอมแดง โดยในไต้หวันและจีนนิยมนำมาทำเป็นลูกพลับแห้ง (柿餅) จะช่วยลดความฝาดลงและสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้น อีกทั้งแพทย์จีนยังนำไปใช้เป็นส่วนผสมของการต้มยาจีนบางชนิดด้วย โดยต้องตากแดดประมาณ 7-10 วันขึ้นไป ลูกพลับฝาดที่ปลูกในไต้หวันมีทั้งแบบลูกกลม และลูกรี ๆ ก้นแหลม ๆ ไม่นิยมทานสดแบบผลไม้ทั่วไป แต่นิยมนำไปแปรรูปเป็นลูกพลับแห้ง ไอศกรีมลูกพลับ ชาลูกพลับและลูกพลับกรอบ เป็นต้น
ลานตากลูกพลับในฟาร์มเกษตรที่เมืองซินจู๋ ซึ่งนำลูกพลับฝาดมาแปรรูปเป็นลูกพลับแห้ง รสชาติจะเปลี่ยนเป็นหวานขึ้น ได้รับความนิยมไม่แพ้ลูกพลับสด
ในไต้หวันแหล่งเพาะปลูกลูกพลับที่สำคัญที่สุดอยู่ที่เมืองเจียอี้ รองลงมาคือไทจง ซินจู๋ และเหมียวลี่ โดยลูกพลับหวาน หรือที่เรียกว่าเถียนซื่อ (甜柿) ผลจะกลมแบน และบางสายพันธุ์จะเป็นสี่เหลี่ยม แหล่งเพาะปลูกอยู่ที่ เขตซี่ติ่ง (隙頂 ) กับฟันลู่ (番路) เมืองเจียอี้ ระดับความหวานประมาณ 17-19 นิยมรับประทานสด จะหวาน กรอบและมีน้ำชุ่มฉ่ำ อร่อยมาก พื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูกพลับหวานต้องสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 800-1,200 เมตร และช่วงที่ลูกพลับใกล้สุก สภาพอากาศในช่วงกลางวันและกลางคืนต้องมีอุณหภูมิต่างกันตั้งแต่ 9 องศาเซลเซียสขึ้นไป ส่วนลูกพลับที่มีรสฝาดจะมีผลกลม ปลูกมากที่ซินจู๋และเหมียวลี่
ลูกพลับในไต้หวันสุกงอมแล้ว อย่าพลาดชิม ลูกพลับไต้หวันหวาน กรอบ และฉ่ำน้ำ แถมเป็นประโยชน์ต่อหญิงวัยเจริญพันธุ์อย่างยิ่ง (ภาพจาก chinatimes.com)
สำหรับประโยชน์ของลูกพลับซึ่งถือเป็นผลไม้ที่เหมาะกับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์อย่างยิ่ง เนื่องจากอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก วิตามิน A และ C ในปริมาณมากกว่าแอปเปิลเขียวถึง10 เท่า แพทย์แผนจีนและนักโภชนาการแนะนำว่า ผู้หญิงที่มีอาการความดันต่ำ เลือดน้อย หรือประจำเดือนเพิ่งผ่านไป ควรรับประทานลูกพลับเพื่อบำรุงโลหิต นอกจากนี้ เนื่องจากลูกพลับยังอุดมไปด้วยสารอาหารจำพวกโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต ช่วยลดอาการอยากอาหาร อีกทั้งเส้นใยอาหารและกรดอินทรีย์ปริมาณมากในลูกพลับ ยังช่วยให้กระบวนการย่อยอาหารของกระเพาะและลำไส้ทำงานได้ดี รวมถึงช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้ อีกทั้งกรดแทนนิกในลูกพลับยังช่วยลดอาการอักเสบและลดการดูดซึมไขมันของร่างกาย ซึ่งทำให้ลดการสะสมของไขมันได้ด้วย
ลูกพลับหวานนิยมรับประทานสด แต่ต้องเลี่ยงทานตอนท้องว่างและต้องปอกเปลือก (ภาพจาก epochtimes.com)
ลูกพลับตากแห้งที่ฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยวเว่ยเว่ยเจีย ตำบลซินผู่ เมืองซินจู๋
อย่างไรก็ตาม การกินลูกพลับสดมีข้อควรระวังดังนี้
1) หลีกเลี่ยงการรับประทานตอนท้องว่าง
2) หลีกเลี่ยงการรับประทานหลังทานกุ้ง ปูและหอย ควรเว้นไปทานในวันถัดไป เพราะกรดแทนนิกในลูกพลับจะจับตัวกับโปรตีนที่ได้จากอาหารทะเลเหล่านี้ อาจทำให้อาเจียน อาหารไม่ย่อยหรือท้องเสียได้
3) หลีกเลี่ยงรับประทานหลังทานอาหารที่มีกากใยอาหารมาก ๆ
4) ไม่ควรทานลูกพลับที่ยังไม่สุก
5) ควรปอกเปลือกก่อนรับประทานเพื่อลดการรับกรดแทนนิกที่อยู่ในเปลือกลูกพลับปริมาณมากเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียง เช่น กระเพาะอาหารระคายเคือง อาการคลื่นไส้ และอาเจียน
อัญชันมีโอกาสไปชมการตากลูกพลับที่ฟาร์มเกษตรเชิงท่องเที่ยวเว่ยเว่ยเจีย ตำบลซินผู่ เมืองซินจู๋ ถือโอกาสถ่ายภาพมาให้เพื่อนๆได้ชมกันค่ะ
3. ปี 2564 ชาวไต้หวันมีอายุขัยเฉลี่ย 80.86 ปี ชาวกรุงไทเปอายุยืนสุด เฉลี่ย 84.17 ปี หากไม่รวมโรคมะเร็ง อายุโดยเฉลี่ยของคนไต้หวันจะเพิ่มอีก 3.84 ปี
กระทรวงมหาดไทยของไต้หวันประกาศตารางชีพแบบย่อประจำปี 2564 ปรากฏว่า ชาวไต้หวันมีอายุขัยโดยเฉลี่ย 80.86 ปี โดยเพศหญิงมีอายุขัยโดยเฉลี่ย 84.25 ปี ผู้ชาย 77.67 ปี ตัวเลขนี้ สูงกว่าอายุขัยเฉลี่ยของของโลกเพศชาย 7.5 ปีและเพศหญิง 9.3 ปี
บรรยากาศผู้คนออกกำลังกายในสวนสาธารณะ
กระทรวงมหาดไทยออกแถลงการณ์กล่าวว่า ผลจากผู้สูงวัยมีจำนวนมากขึ้น ปี 2564 ยอดจำนวนการเสียชีวิตในไต้หวันอยู่ที่ 184,457 คน ขณะที่ยอดจำนวนเด็กเกิดใหม่ 153,820 คน ตายมากกว่าเกิด 30,000 กว่าคน กระนั้นก็ตาม อายุขัยโดยเฉลี่ยของชาวไต้หวันยังคงเพิ่มขึ้นเป็น 80.86 ปี และหากลดความเสี่ยงจากโรคเนื้องอกชนิดร้ายแรงหรือมะเร็ง ซึ่งกลายเป็นอันดับ 1 ของ 10 โรคร้ายที่คร่าชีวิตชาวไต้หวันลงได้ จะช่วยให้ชาวไต้หวันจะมีอายุยืนยาวขึ้นเฉลี่ย 3.84 ปี
เมืองต่าง ๆ ในไต้หวันมีรถจักรยานสาธารณะบริการในราคาถูกและเพียงพอ จุดคืนก็เยอะ ทำให้การเดินทางระยะใกล้สะดวกและได้ออกกำลังกายด้วย
หากดูจากเขตพื้นที่ เมืองในไต้หวันที่มีอายุยืนยาวที่สุดได้แก่ กรุงไทเป มีอายุขัยโดยเฉลี่ยสูงถึง 84.17 ปี จากนั้นเรียงตามลำดับจากเหนือลงใต้ ได้แก่นครนิวไทเป เถาหยวน ไทจง ไถหนานและเกาสง ส่วนเมืองที่ประชากรอายุยืนยาวน้อยสุดในไต้หวัน ได้แก่เมืองไถตง เฉลี่ย 76.64 ปี อายุสั้นกว่าชาวกรุงไทเป 7.5 ปี
การออกกำลังกายที่เหมาะสมและเป็นประจำ ช่วยให้คนสูงวัยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง (ภาพจาก Shutterstock)
สาเหตุที่ชาวไต้หวันมีอายุยืนยาวขึ้น กระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า จากการวิเคราะห์ มาจากความเจริญก้าวหน้าด้านการแพทย์ ประชาชนให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของอาหาร มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และนิยมออกกำลังกายมากขึ้น อย่างในกรุงไทเป มีระบบขนมวลชนที่สะดวกรวดเร็ว ประชาชนจำนวนมาก ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็ไปมาสะดวก และระหว่างขึ้นลงรถไฟฟ้า รถโดยสารประจำทาง ส่วนใหญ่จะใช้เดินเพราะห่างกันไม่ไกล รวมทั้งมีสวนสาธารณะจำนวนมาก มีศูนย์ออกกำลังกายของรัฐทุกเขตพื้นที่และมีจักรยานสาธารณะราคาถูก และมีแทบทุกที่ ประกอบกับมีโรงพยาบาลได้มาตรฐานโลกมากมาย รวมถึงมีคุณชีวิตที่ดี ทำงานช่วงเช้า 09.00 น. ตื่น 07.30 น. ทานอาหารเช้าแล้วค่อยออกจากบ้าน ยังทันไปทำงานสบาย ๆ
กรุงไทเปมีพื้นที่เพียง 271.8 ตร.กม. แต่มีสวนสาธารณะและพื้นที่สีเขียวมากถึง 932 แห่ง พื้นที่รวม 15,467,000 ตร.ม. ชาวกรุงไทเปเฉลี่ยมีพื้นที่สีเขียว 5.82 ตร.ม./คน
