1. หยุดยาวเนื่องในโอกาสครบรอบวันรำลึกสันติภาพ 28 ก.พ. ชาวไต้หวันเดินทางท่องเที่ยวอย่างคึกคัก
ปีนี้มีวันหยุดยาวถึง 9 ช่วง สุดสัปดาห์นี้คือช่วงที่ 2 เป็นวันหยุดยาวเนื่องในโอกาสวันรำลึกสันติภาพ 28 ก.พ. หยุดติดต่อกัน 4 วัน คือระหว่าง 25-28 ก.พ. คาดว่า ผู้คนในไต้หวันจะเดินทางท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก ทั้งในประเทศและระหว่างประเทศ กรมทางหลวงไต้หวันได้เตรียมมาตรการรองรับการจราจรที่จะแออัดมากกว่าปกติ โดยในช่วงระหว่าง 4 วันดังกล่าว นอกจากจะปรับลดค่าใช้ทางด่วนลง 20% และคิดอัตราเดียวกันตลอดทางแล้ว ในช่วงเวลา 00.00-05.00 น. จะยกเว้นค่าใช้ทางด่วนทุกสายด้วย
บนทางด่วนมักจะรถติดในวันหยุดยาว ในภาพเป็นทางด่วนสาย 1
กรมทางหลวงคาดการณ์ว่า ช่วงวันหยุดยาว 25-28 ก.พ. ปริมาณการจราจรบนทางด่วนจะมากกว่าปกติ 1.5 เท่า จากข้อมูลในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพบว่า ช่วงวันหยุดยาวเนื่องในโอกาสวันรำลึกสันติภาพ การเดินทางของประชาชนส่วนใหญ่มีจุดประสงค์เพื่อการท่องเที่ยว โดยช่วงสองวันแรกจะเป็นการเดินทางจากภาคเหนือไปยังภาคใต้ และสองวันหลังจะเป็นการเดินทางกลับขึ้นมาทางภาคเหนือ ดังนั้นเพื่อควบคุมปริมาณรถยนต์บนทางด่วนจะมีการจำกัดรถยนต์ที่จะเข้าสู่ทางยกระดับเชื่อมต่อทางด่วนในบางช่วงรวมถึงการกำหนดจำนวนผู้โดยสารบนรถยนต์ส่วนบุคคลรวมผู้ขับขี่ตั้งแต่ 3 คนขึ้นไปเป็นต้น
ตามจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในวันหยุดมักจะเต็มไปด้วยผู้คน
สำหรับสภาพอากาศสุดสัปดาห์อากาศยังคงหนาวเย็น ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปริมาณไอน้ำในอากาศสูง ส่งผลให้เกิดฝนตกได้ง่าย วันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ ลมหนาวอ่อนกำลังลง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศอบอุ่นขึ้น ภาคกลาง ภาคใต้ ส่วนใหญ่มีเมฆมาก แต่ช่วงเช้าตรู่และตอนกลางคืนอากาศจะหนาวเย็น ขอให้สวมใส่เสื้อผ้าให้อบอุ่นอยู่เสมอ
ภาพมุมสูงทางด่วนสาย 1 ข้างบนเป็นทางด่วนยกระดับสายอู๋กู่-หยางเหมย (แรงงานไทยมีส่วนร่วมสร้าง) ช่วยแก้ปัญหารถติด
2. เคยเห็นหรือยัง? บ้านทรงประหลาดในหลงถาน เถาหยวน 35 ปียังสร้างไม่เสร็จ กลายเป็นแลนด์มาร์กดึงดูดสายตาของผู้คนที่สัญจรไปมา
ใครที่มีโอกาสผ่านไปถนน 5 แยกในตัวเมืองของเขตหลงถาน นครเถาหยวน คงแปลกใจไม่น้อยที่มีบ้านทรงประหลาดและแปลกตาอย่างยิ่ง สูง 8 ชั้น ตั้งตระหง่านอยู่ จะว่าเป็นบ้านสไตล์จีนก็ไม่ใช่ คฤหาสน์หรือปราสาทแบบยุโรปก็ไม่เชิง นี่เป็นบ้านประหลาดที่บางคนดูแล้วบอกเหมือนบ้านฝี ที่เจ้าของบ้านออกแบบและก่อสร้างเองมานานถึง 35 ปีแล้ว ยังสร้างไม่เสร็จ ทุกวันนี้ยังสร้างต่อเติมไปเรื่อย ๆ ทุ่มงบไปแล้วร่วม 100 ล้านเหรียญไต้หวัน หลายคนบอกว่าโง่จัง ใช้เงินตั้งเยอะ สร้างเสร็จก็ไม่มีใครกล้าอยู่ แต่เจ้าของบ้านไม่สนใจคำพูดเยอะเย้ยถากถางของผู้คน บอกตัดสินใจทำอะไรแล้วต้องให้สำเร็จ แม้จะลำบากและใช้เวลานาน ยืนหยัดที่จะสร้างต่อไป บอกว่าจะไม่เลิกล้มกลางคันเด็ดขาด
บ้านทรงประหลาดและแปลกตาสูง 8 ชั้น ตั้งอยู่หัวมุมถนนห้าแยกในหลงถาน 35 ปีแล้วยังสร้างไม่เสร็จ
เจ้าของบ้านทรงแปลกประหลาดดังกล่าว คือนายเย่ฟาเปา (葉發苞) แม้จะไม่ได้จบสถาปัตย์หรือการออกแบบก่อสร้างบ้านแต่ตัวเขาเองเดิมขายวัสดุก่อสร้างและเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้างอยู่แล้ว เคยสร้างและขายบ้านมาแล้วจำนวนมาก แต่ไม่เป็นที่ถูกใจสักหลัง เขาจึงมีความตั้งใจอย่างแรงกล้าที่จะสร้างบ้านทรงที่มีเอกลักษณ์ แบบไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ตั้งแต่เมื่อประมาณ 35 ปีที่แล้ว ได้ซื้อที่ดินขนาด 100 ผิง (ประมาณ 330 ตร. ม.) ที่หัวมุมถนน 5 สายมาบรรจบกันในเขตหลงถาน หวังสร้างตึกในฝันขนาด 10 ชั้นให้สมาชิกในครอบครัวและพี่น้องได้อยู่ร่วมกัน โดยยึดหลักว่าจะสร้างตึกสไตล์จีนผสมผสานสถาปัตยกรรมบาโรกของยุโรป แต่เนื่องจากออกแบบเอง และนึกอยากจะสร้างแบบไหนก็ทำตามอำเภอใจ บางครั้งเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศได้ไอเดียแบบบ้านใหม่ ๆ กลับมาแล้วก็จะลงมือสร้างตามในอาคารของตน ทำให้ยิ่งสร้างยิ่งมีทรงแปลกประหลาด คานและเสาในอาคารออกแบบเป็นแบบบ้านทรงจีน แต่ภายนอกกลับเป็นปราสาทสไตล์ยุโรป ดูแล้วไม่เพียงแปลกประหลาด ยังตาลายด้วย จึงได้ชื่อว่าเป็นบ้านทรงแปลกหรือบ้านผี ดึงดูดสายตาผู้คนที่ขับรถผ่านไปมา จนกลายเป็นแลนด์มาร์กของเมืองหลงถานก็ว่าได้
ภาพบ้านทรงประหลาดที่หลงถานถ่ายเมื่อปี 2552 (ภาพจาก udn.com)
บ้านประหลาดหลงถานที่ว่านี้ สร้างมา 35 ปีแล้ว ยังสร้างไม่เสร็จ ขณะนี้สร้างถึงชั้นที่ 8 ทุ่มเงินก่อสร้างไปแล้ว ร่วม 100 ล้าน เหรียญไต้หวัน ญาติพี่น้องและคนที่รู้จักต่างก็เกลี้ยกล่อมเขาอย่าเสียเงินไปกับสิ่งก่อสร้างที่แปลกและดูเหมือนตลกนี้อีกเลย แต่นายเย่ฟาเปาบอกว่า ตั้งใจทำอะไรแล้วต้องทำให้สำเร็จ ไม่สนใจคำเยาะเย้ยของคนอื่น อย่างไรก็ตาม ตึกนี้แม้จะสร้างตามอำเภอใจ แต่เหตุการณ์แผ่นไหวรุนแรงหลายครั้งที่ผ่านมา อย่างเหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบร้อยปี ขนาด 7.8 ที่เมืองหนานโถว เมื่อ 21 ก.ย. 2542 ตึกในกรุงไทเปถล่มไปหลายหลัง แต่ตึกประหลาดที่หลงถามไม่สะทกสะท้านแต่อย่างใด ใครทำงานอยู่แถวหลงถานหรือผ่านไปแถวนั้น เคยเห็นหรือยัง? หากยัง ลองสังเกตดู แล้วแสดงความเห็นด้วยนะครับ...
ตึกสไตล์จีนผสมผสานสถาปัตยกรรมบาโรกของยุโรป ยิ่งสร้างยิ่งแปลก
3. ชาวไต้หวันโอดไข่ไก่แพงและขาดตลาดยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์
ช่วงสองสัปดาห์มานี้ ประเด็นที่คนไต้หวันให้ความสนใจและบ่นกันมากที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือ ปัญหาไข่ไก่ขาดตลาด จนซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่งต้องประกาศให้ลูกค้าซื้อไข่ไก่ได้ไม่เกินคนละ 2 แพ็กหรือ 20 ฟองเหมือนเมื่อต้นปีที่แล้ว ซึ่งเป็นช่วงแรกที่เกิดปัญหาไข่ขาดตลาดและราคาแพงขึ้น ในครั้งนั้นรัฐบาลบอกว่า เป็นเพราะค่าอาหารสัตว์แพง ไก่ติดเชื้อไข้หวัดนก และแม่ไก่ไข่บางส่วนยังไม่โตเต็มที่ ทำให้การเปลี่ยนรุ่นแม่ไก่ขาดช่วง เป็นผลให้ปริมาณไข่ไก่ที่ป้อนตลาดลดน้อยลง ในตอนนั้นราคาไข่ไก่ถีบตัวขึ้นจากแพ็กละ (10 ฟอง) 45-50 เหรียญไต้หวัน เป็น 65-75 เหรียญไต้หวัน ต่อมารัฐบาลใช้วิธีลดภาษีอาหารสัตว์และให้เงินอุดหนุน รวมถึงนำเข้าไข่ไก่จากต่างประเทศทำให้สภาพการณ์ขาดแคลนไข่ไก่คลี่คลายลง แต่ราคาไข่ไก่ไม่ได้ปรับลดลง
ชาวไต้หวันบ่นรัฐแก้ปัญหาไม่ได้ ไข่ไก่แพงแถมขาดตลาดยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ (ภาพจาก businesstoday.com.tw)
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงช่วงปลายปีที่แล้วซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว ปีนี้อากาศหนาวเป็นพิเศษ ผลผลิตไข่ไก่ก็เริ่มลดน้อยลงอีก จนกระทั่งถึงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องมีการเปลี่ยนรุ่นแม่ไก่ เนื่องจากการเปลี่ยนรุ่นไก่ไม่ราบรื่นเพราะแม่ไก่รุ่นใหม่มีน้อย หรือบางส่วนโตไม่ทัน เพราะในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.ปีนี้ มีฟาร์มไก่ 74 แห่งติดเชื้อไข้หวัดนก ทำให้ต้องฆ่าไก่ทิ้งถึง 1,030,000 ตัว ส่งผลผลผลิตไข่ไก่ลดลงอีก ทำให้เกิดปัญหาไข่ไก่ขาดตลาดอีกครั้ง
ไข่ไก่ในซูเปอร์มาร์เก็ตแทบทุกแห่งถูกแย่งซื้อเกลี้ยงแผง
ปัจจุบันไต้หวันมีผลผลิตไข่ไก่วันละ 113,000 – 114,000 ลัง แต่ละลังมีไข่ 200 ฟอง อย่างไรก็ตามปริมาณความต้องการบริโภคไข่ไก่มีมากถึงวันละ 120,000 ลัง หรือยังขาดแคลนวันละ 6,000-7,000 ลัง ทำให้ตอนนี้คนที่ชอบกินไข่ต้มใบชาลำบากไปตาม ๆ กัน เพราะร้านสะดวกซื้อส่วนใหญ่เลิกขายแล้ว นอกจากนี้คนที่ทานอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะอาหารเช้าของคนไต้หวันที่เมนูอาหารเช้าส่วนใหญ่มักใช้ไข่ไก่เป็นวัตถุดิบ ตอนนี้ต้องจ่ายเพิ่มอีกอย่างน้อย 20 เหรียญไต้หวัน ท่ามกลางที่ข้าวของทุกอย่างตบเท้าขึ้นราคากันอย่างถ้วนหน้า มนุษย์เงินเดือนต่างโอดครวญไปตาม ๆ กัน เสียงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาดังระงม และสังคมพุ่งเป้าไปที่ นายเฉินจี๋จ้ง (陳吉仲) ประธานคณะกรรมการการเกษตร ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงว่า ทำไมแก้ปัญหาไม่ได้และปล่อยให้ยืดเยื้อเป็นปี จนเมื่อกลางดึกของวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา นายเฉินจี๋จ้งต้องออกมาโพสต์เฟซบุ๊กขอโทษ และในวันรุ่งขึ้น รัฐบาลได้ประกาศให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ ลดหย่อนภาษีนำเข้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ โดยขยายเวลาลดหย่อนภาษีนำเข้า 5% จากเดือนเมษายน ไปจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน นอกจากนี้ยังจะช่วยเหลือให้ฟาร์มเลี้ยงไก่ปรับปรุงโรงเรือนเลี้ยงไก่ เพื่อป้องกันการระบาดของโรคไข้หวัดนก ขณะเดียวกัน จะนำเข้าไข่ไก่จากต่างประเทศ คาดการณ์ว่าในช่วงต้นเดือนมีนาคมนี้ สถานการณ์ไข่ไก่ขาดแคลนจึงจะคลี่คลายลง
ม.ค.-ก.พ. ปีนี้ มีฟาร์มไก่ 74 แห่งติดเชื้อไข้หวัดนก ต้องฆ่าไก่ทิ้งไป 1,030,000 ตัว ทำให้ผลผลิตไข่ไก่ลดลงและนำไปสู่วิกฤตไข่ไก่ขาดตลาด (ภาพจาก newsmarket.com.tw)