กัวไถหมิง หรือ เทอร์รี กัว มหาเศรษฐีชื่อดังประธานบริษัทหงไห่ พริซิชั้น (บริษัทแม่ของฟ็อกซ์คอนน์ ผู้รับจ้างประกอบเครื่องมือถือไอโฟนให้แก่บริษัทแอ็บเปิ้ล) แถลงในวันที่ 16 เมษายน จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ปธน. ไต้หวัน ปี 2020 โดยจะเข้าร่วมกระบวนการสรรหาตัวแทนพรรคก๊กมินตั๋งเพื่อชิงตำแหน่ง ปธน. สมัยหน้า
ต่อกรณีนี้ ปธน. ไช่อิงเหวินให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุกรีนพีซของไต้หวันในวันที่ 19 ว่า กัวไถหมิงเป็นผู้ที่ประสบความสําเร็จในธุรกิจ มีฐานใหญ่ของบริษัทอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ขณะนี้วางแผนขยายไปยังประเทศอื่น แต่ ปธน. ไช่เคยได้ยิน นักบริหารคนหนึ่งบอกว่า การบริหารบริษัทไม่เหมือนกับการบริหารประเทศ บริษัทคำนึงถึงกำไรเป็นเป้าหมายใหญ่ที่สุด แต่การบริหารประเทศ จะต้องทำให้ประชาชนรู้สึกว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่ ต้องมีความยุติธรรมมีความเป็นธรรม ทั้ง 2 อย่างนี้มีความแตกต่างกัน
ปธน. ไช่กล่าวด้วยว่า การเลือกตั้งในปีหน้าถือเป็นจุดแบ่งที่สำคัญในการตัดสินว่า ไต้หวันจะคงสถานะปัจจุบันมีอธิปไตยเป็นอิสระ หรือถูกบีบบังคับให้รวมประเทศ ปธน. บอกว่า “แน่นอน ผู้เหมาะสมในการดำรงตำแหน่ง ปธน. ในปี 2020 จะต้องมีคุณสมบัติเหมือนตน หรือก็คือตัว ปธน. เอง จะต้องมีความสามารถในด้านการต่างประเทศ สามารถเรียกเสียง สนับสนุนและมีความเชื่อมั่นจากนานาชาติ ปธน. กล่าวว่าในช่วงนี้ผู้สนับสนุนพรรคดีพีพี (พรรครัฐบาล) มีความรู้สึกกังวลมากว่าพรรคดีพีพีจะผ่านพ้นอปุสรรคหรือไม่ ปธน. รู้สึกว่าผู้สนับสนุนต้องการให้รวมพลังสามัคคีอย่าแตกแยก ซึ่งการสามัคคีก็คือจะต้องคำนึงถึงประโยชน์โดยรวม ภายใต้สภาพเช่นนี้อย่าได้ยึดมั่นบางอย่างจนเกินไป ควรมีการพิจารณาทบทวน
ทางด้าน นรม. ซูเจินชางของไต้หวัน ได้กล่าวถึงกรณี กัวไถหมิงจะร่วมชิงตำแหน่ง ปธน. ว่า “คนที่อิจฉามากที่สุด น่าจะเป็นแจ็ค หม่า ของกลุ่มอาลีบาบา ที่ได้เห็นคนประสบความสำเร็จในธุรกิจจะได้ร่วมชิงตำแหน่งผู้นำประเทศ นรม. ซู กล่าวว่าในสมัยที่เขาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการนครนิวไทเป ได้เห็นผลงานของกัวไถหมิงเปลี่ยนค่ายทหารให้เป็นสวนอุตสาหกรรมไฮเทคภายใน 100 วัน จึงรู้สึกประทับใจมาก นรม. รู้สึกยินดีที่คนมีความสามารถเสนอตัวทำงานเพื่อประเทศ แต่ผลจะเป็นอย่างไร ต้องรอให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ”
