
วารสาร Foreign Policy ของสหรัฐตีพิมพ์บทความ ปธน. ไช่อิงเหวินพาดหัวข้อ “Taiwan's Self-Made Democracy Still Needs U.S. Partnership” ปธน. ย้อนพูดถึงเบื้องหลัง “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” ซึ่งกำหนดกรอบการติดต่อไต้หวันกับสหรัฐฯ เป็นหลักประกันความสามารถในการป้องกันตนเองที่เพียงพอของไต้หวัน
ปธน. กล่าวว่าภายใต้เงาแห่งสงครามเย็น ไม่มีใครคิดว่าไต้หวันจะเป็นประภาคารประชาธิปไตยแห่งเอเชีย ไต้หวันสร้างค่านิยมประชาธิปไตย ยืนหยัดสู้ชะตาชีวิตด้วยความยากลำบาก และยังก้าวหน้าไปไม่หยุดยั้ง
ปธน. ไช่กล่าวว่า ภายใต้การสนับสนุนจากพันธมิตรประชาธิปไตยสหรัฐฯ ไต้หวันเปลี่ยนจากเผด็จการกลายเป็น ประเทศประชาธิปไตยที่มีพลังเต็มเปี่ยม ในปี 1996 มีการเลือกประธานาธิบดีโดยตรงเป็นครั้งแรก 4 ปีต่อมามีการถ่ายโอนอำนาจการปกโครงของพรรคการเมืองโดยสันติ ในปี 2016 เป็นปีแรกของการทลายกำแพงแก้ว ซึ่งมีประธานาธิบดีหญิงเป็นคนแรก และสัดส่วนสตรีในสภาฯ ของไต้หวันสูงที่สุดของโลกอีกด้วย