
เหตุการณ์รุนแรงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจบุกเข้าไปในมหาวิทยาลัยฮ่องกง 2 วันติดต่อกัน ยิงแก้สนำตานับพันลูกเข้าใส่กลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย เป็นที่จับตามองจากประชาคมโลก ในวันนี้ (13 พ.ย. 62) ปธน. ไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันได้เรียกร้องผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัวว่า ทางการฮ่องกงควรยุติการกระทำดังกล่าว ไม่ควรใช้ความรุนแรงมาตอบคำถามข้อเรียกร้องของประชาชน และไม่ควรใช้วีการเพื่อรักษาหน้าของทางการปักกิ่ง โดยใช้เลือดเนื้อของนักศึกษาเป็นเครื่องเซ่นสังเวย นอกจากนี้ ปธน. ไช่ฯ ยังเรียกร้องให้ประชาคมโลกที่ยืนหยัดในคุณค่าแห่งประชาธิปไตยต้องก้าวออกมา จับตาสถานการณ์ที่เลวร้ายลงในฮ่องกง ส่วนนายกรัฐมนตรีซูเจินชังก็ระบุผ่านเฟสบุ๊กว่า การปิดล้อมมหาวิทยาลัยฮ่องงกงของตำรวจ สร้างความตะลึงให้แก่ชาวโลก ขอเรียกร้องให้ทางการฮ่องกงเปิดการเจรจากับนักศึกษา รับฟังข้อเรียกร้องของประชาชน มิเช่นนั้น อำนาจที่อาศัยกระบอกปืนจะมีจุดจบโดยประชาชนอย่างแน่นอน
ส่วนทางด้านพรรคดีพีพี พรรครัฐบาลไต้หวัน ได้ประนามอย่างรุนแรงต่อการใช้กำลังต่อกลุ่มผู้ชุมนุม โดยเห็นว่า ทางการฮ่องกงปล่อยให้ตำรวจใช้กำลังทำร้ายประชาชนตามอำเภอใจ สร้างความโกรธแค้นให้แก่ผู้คน ยากที่จะยอมให้อภัยได้ เป็นความเสื่อมเสียอย่างแรงกล้าในภูมิภาคเอเชีย
นายหลินเฟยฝาน รองเลขาธิการพรรคดีพีพี ระบุว่า 《外:191113-09林飛帆(男)19"》:『"ทางการปักกิ่งไม่เพยีงแต่ฉีก "แถลงการณ์ร่วมจีน-อังกฤษ" ทิ้งโดยพลการ เข้าแทรกแซงสถานการณ์ในฮ่องกงละเมิดคำมั่น "50 ปีไม่เปลี่ยนแปลง" เท่านั้น แต่ทางการปักกิ่งยังใช้กำลังอาวุธเข้าปราบปราม มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายล้างสถานะ "หนึ่งประเทศสองระบอบ" ในฮ่องกงอย่างเห็นได้ชัด เสมือนเหตุการณ์เทียนอันเหมินได้เกิดขึ้นอีกครั้ง"