
กรณีที่กองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) ประกาศซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศบริเวณรอบเกาะไต้หวัน ซึ่งเป็นปฏิบัติการคุมน่านฟ้าและน่านน้ำไต้หวันด้วยกำลังทหารทุกเหล่าทัพ (聯合封控) ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคมเป็นต้นไปนั้น กระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) แถลงในช่วงค่ำวานนี้ (9 ส.ค.) ระบุว่า ณ เวลา 17.00 น.ของวันที่ 9 ส.ค. พบเครื่องบิน 45 ลำ เรือรบ 10 ลำ ป้วนเปี้ยนในช่องแคบไต้หวัน ในจำนวนนี้มีเครื่องบินรบ 16 ลำบินข้ามเส้นกึ่งกลางช่องแคบ ประกอบด้วยเครื่องบินรบ Su-30 จำนวน 8 ลำ เครื่องบินรบ J-16 จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินรบ j-11 จำนวน 4 ลำ คาดว่าเป็นซ้อมรบร่วมทางทะเลของกองทัพจีน
กระทรวงกลาโหมย้ำว่า กองทัพไต้หวันนอกจากใช้ระบบติดตามและสอดแนมการเคลื่อนไหวของฝ่ายตรงข้ามอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการรับมืออย่างเหมาะสมโดยยึดหลักการ "รักษาเส้นกึ่งกลาง รักษาน่านน้ำ รักษาอธิปไตย”เพื่อธำรงไว้ซึ่งสถานภาพปัจจุบัน ใช้ความสงบนิ่งและความมีสติ เพื่อปกป้องความปลอดภัยให้แก่ประเทศชาติ
ไต้หวันซ้อมยิงปืนใหญ่ฮาวอิตเซอร์ด้วยกระสุนจริงต้านข้าศึกยกพลขึ้นบก (ภาพจาก Military News Agency)
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมากองทัพไต้หวันจัดซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ภายใต้ชื่อ ปฏิบัติการสายฟ้าฟาด(天雷) ที่บริเวณริมชายฝั่งทะเลตำบลฟางซาน เมืองผิงตงทางภาคใต้ของไต้หวัน เพื่อต่อต้านการยกพลขึ้นบกของฝ่ายข้าศึก โดยเป็นการซ้อมยิงปืนใหญ่ฮาวอิตเซอร์ (Howitzer) จำนวน 38 กระบอก โดยใช้กระสุนจริง ซึ่งเป็นปืนใหญ่สนามขนาด 155 ม.ม. ที่ซื้อจากสหรัฐฯ ใช้การยิงแบบวิถีกระสุนโค้งไปยังเป้าหมาย เป็นอาวุธระยะไกลคาบเกี่ยวระหว่างปืนใหญ่กับปืนครก
พลตรีโหลวเหว่ยเจี๋ย(樓偉傑) ผู้บัญชาการหน่วยสงครามการเมือง (Political Warfare) กองพลทหารราบที่ 8 เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้เรามีการประกาศกำหนดการและขอบเขตของการซ้อมรบเอาไว้แล้ว ไม่เกี่ยวกับการซ้อมรบของฝ่ายจีน และการซ้อมรบของจีนไม่ได้ทำให้เราต้องปรับเปลี่ยนกำหนดเวลาและขอบเขตแต่อย่างใด
กองทัพไต้หวันยังเปิดเผยว่าการซ้อมปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ซึ่งเป็นการยิงปืนใหญ่สนามด้วยกระสุนจริง มีการประกาศให้ประชาชนทราบตั้งแต่วันที่ 22กรกฎาคมที่ผ่านมา แม้เมื่อวานนี้สภาพอากาศไม่ดี แต่ยังคงมีการจัดซ้อมรบตามปกติ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความแน่วแน่ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคและสภาพแวดล้อมที่ยากลำบากของกองทัพไต้หวันในอันที่จะปกป้องความปลอดภัยให้แก่ประเทศชาติ