กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันแสดงความขอบคุณที่รัฐสภายุโรปลงมติผ่านญัตติปัญหาช่องแคบไต้หวันเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565 นับเป็นญัตติฉบับที่ 8 ในปีนี้ แสดงให้เห็นว่าฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติของสหภาพยุโรปพร้อมให้การสนับสนุนไต้หวันในการปกป้องสันติภาพเหนือช่องแคบ
นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันยังแถลงข่าวระบุว่า จากกรณีการซ้อมรบและแสดงท่าทียั่วยุจากพรรคคอมมิวนิสต์จีน รัฐสภายุโรปได้นำประเด็นสถานการณ์ความมั่นคงเหนือช่องแคบไต้หวันเข้าสู่วาระการประชุมเฉพาะ พร้อมทั้งลงมติผ่านญัตตินี้ แสดงให้เห็นว่าสมาชิกวุฒิสภายุโรปต่างให้ความสำคัญกับสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันอย่างมาก และประณามการยั่วยุทางการทหารของจีนว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบอีกด้วย
กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันกล่าวว่า หลังจากที่รัฐสภายุโรปลงมติผ่านรายงาน ความสัมพันธ์ทางการเมืองและความร่วมมือไต้หวัน-สหภาพยุโรปฉบับแรก เมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว(2564) ในครั้งนี้ รัฐสภายุโรปได้เสนอแนะ 26 ประการเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกัน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากจีน
ข้อเสนอแนะประกอบด้วย ความร่วมมือทางด้านการค้าและเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการเมือง การการเจรจาข้อตกลงเสริมความเหนียวแน่นห่วงโซ่อุปทาน และการร่วมมือขจัดข่าวปลอมในแนวลึก รวมทั้งแสดงความยินดีที่ลิทัวเนียก่อตั้งสำนักงานตัวแทนในไต้หวัน และกระตุ้นประเทศอื่นๆ ในอียู ที่ยังไม่มีสำนักตัวแทนไต้หวัน ทำการจัดตั้งสำนักงานตัวแทน
มติที่ประชุมยังได้เรียกร้องให้คณะกรรมาธิการเปลี่ยนชื่อสำนักงานเศรษฐกิจและการค้ายุโรป(EETO) เร่งให้อียูเตรียมการเจรจาข้อตกลงการลงทุนกับไต้หวัน (BIA)โดยเร็ว รวมทั้งเรียกร้องให้ อียู สนับสนุนไต้หวันให้มีบทบาทในองค์การอนามัยโลก(WHO)อีกด้วย
การลงมติญัตติสถานการณ์ช่องแคบไต้หวันของ อียู ในวันที่ 15 กันยายน ผ่านการพิจารณาอย่างเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 424 เสียง ไม่เห็นด้วย 14 เสียง และงดออกเสียง 46 เสียง รัฐสภายุโรปประณามปฏิบัติการทางทหารของกองทัพคอมมิวนิสต์จีนอย่างรุนแรง และต่อต้านการข่มขู่เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานภาพบนช่องแคบไต้หวัน รวมถึงเน้นย้ำว่าวิถีชีวิตประชาธิปไตยของชาวไต้หวันนั้นควรให้คนไต้หวันเป็นคนเลือกเอง
