
ผลการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9 รายการในไต้หวัน เมื่อวันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2565 พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ภายใต้การนำของประธานาธิบดีไช่อิงเหวินออกมายอมรับว่า เป็นความปราชัยครั้งที่ย่อยยับที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรค และประกาศลาออกจากหัวหน้าพรรคทันที
นายเจี่ยง ว่านอัน หลานชายของอดีตประธานาธิบดีเจียงจิงกัว ผู้ว่าการกรุงไทเปคนใหม่
คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศว่า ผลการนับคะแนนอย่างเป็นทางการของการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น 9 รายการครั้งนี้ ชาวไต้หวันออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งค่อนข้างน้อย ในส่วนของผู้ว่าการ 6 นคร ใช้สิทธิเลือกตั้งเพียง 59.86% ตำแหน่งผู้ว่าการอีก 15 เมือง (เทศบาลเจียอี้ เนื่องจากมีผู้สมัครป่วยเสียชีวิต 1 ราย ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเป็น 18 ธ.ค. 65) มีผู้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งเพียง 64.20 % ส่วนการลงประชามติที่รัฐบาลรณรงค์ผลักดัน ประเด็นเห็นด้วยหรือไม่ที่จะให้ผู้มีอายุ 18 ปีบริบูรณ์มีสิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและถอดถอน แต่ไม่ผ่านการลงประชามติ มีผู้ไปใช้สิทธิ์ 58.79% การนับคะแนนเสียงเลือกตั้งแล้วเสร็จในเวลา 23.40 นาที แม้จะมีประชาชนบางรายทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง แต่ไม่มีข้อขัดแย้งเกี่ยวกับผลการเลือกตั้งแต่อย่างใด โดยภาพรวมเรียบร้อย ราบรื่นและประสบความสำเร็จ แสดงถึงชาวไต้หวันเคารพกฎหมายและมีความเป็นประชาธิปไตยสูง
นายโหวโย่วอี๋ ผู้ว่าการนครนิวไทเป รั้งตำแหน่งต่ออีก 1 สมัย โดยชนะคู่แข่งแบบถล่มทลาย 460,000 คะแนน
ด้านการเลือกตั้งผู้ว่าการ 6 นคร ก๊กมินตั๋ง (KMT) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ชนะ 4 ที่นั่ง โดยรักษาตำแหน่งผู้ว่าการเดิมไว้ได้ คือนครนิวไทเปและนครไทจง ยังทวงคืนตำแหน่งผู้ว่าการกรุงไทเปและนครเถาหยวน พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) รักษาตำแหน่งผู้ว่าการนครเกาสงและนครไถหนานไว้ได้เพียง 2 นคร
นายจางซ่านเจิ้ง อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับฉายาว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ไม่ถนัดการหาเสียง ชนะคู่แข่งกลายเป็นผู้ว่าการนครเถาหยวนคนใหม่
ส่วนผลการเลือกตั้งเมืองอื่น ๆ พรรครัฐบาลได้เพียง 3 ที่นั่ง ได้แก่เมืองเจียอี้ ผิงตงและเผิงหู ส่วนพรรคก๊กมินตั๋งชนะ 9 เมือง ได้แก่ จีหลง อี๋หลาน ฮัวเหลียน ไถตง เมืองซินจู๋ หนานโถว จางฮั่ว หยุนหลิน และเหลียนเจียง ขณะที่ตำแหน่งผู้ว่าการเทศบาลเมืองซินจู๋ตกเป็นของผู้สมัครจากพรรค TPP (Taiwan People Party) ส่วนเหมียวลี่และจินเหมินเป็นของผู้สมัครอิสระ สำหรับเทศบาลเจียอี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปเป็น 18 ธันวาคม 2565 เนื่องจากมีผู้สมัครป่วยเสียชีวิต 1 ราย
นายเซี่ยกั๋วเหลียง (ขวามือ) ชนะคู่แข่งนายไช่ซื่ออิ้งจากพรรคดีพีพี (ซ้ายมือ) อย่างขาดลอย ทวงคืนตำแหน่งผู้ว่าการเมืองจีหลง
สาเหตุที่พรรครัฐบาลพ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างย่อยยับในครั้งนี้ นักวิเคราะห์ทางการเมืองส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ผลงานการบริหารประเทศ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ไม่เป็นที่พึงพอใจของประชาชน แม้เศรษฐกิจของไต้หวันจะโตสวนกระแส แต่เฉพาะบางสาขา เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์ ฯลฯ ขณะที่อุตสาหกรรมอื่นย่ำแย่ นอกจากนี้ราคาที่ดินและบ้านแพงขึ้น รัฐบาลประธานาธิบดีไม่สามารถทำตามสัญญาขณะหาเสียงเลือกตั้ง ให้คนหนุ่มสาวมีกำลังซื้อบ้านเป็นของตนเองได้ ทำให้คนหนุ่มสาวผิดหวังและสาเหตุสำคัญที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจรัฐบาลมากที่สุด น่าจะได้แก่การควบคุมโรคที่พูดมากกว่าทำ โดยเฉพาะเรื่องไม่มีการเตรียมรับมือแต่เนิ่น ๆ ทั้งที่สภานิติบัญญัติอนุมัติงบประมาณป้องกันโรคมากถึง 840,000 ล้านเหรียญ แต่อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่ต้องใช้ในการป้องกันโรค เช่น วัคซีนป้องกันโควิด-19 ชุดตรวจ ATK และหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ ในระยะแรกประชาชนต้องตากแดดตากฝนต่อแถวยาวรอซื้อ รอรับการฉีดวัคซีน เป็นสภาพการณ์ที่พบเห็นได้ทุกที่ นอกจากนี้ ยังมีข้อถกเถียงประเด็นวัคซีน ประชาชนส่วนใหญ่เห็นว่า รัฐบาลปกป้องวัคซีนเกาตวน (MVC) ที่ผลิตในไต้หวันมากเกินไป ทั้งที่วัคซีนยี่ห้อนี้ ไม่มีรายงานวิเคราะห์ประสิทธิภาพการป้องกันระยะ 2 และไม่ผ่านการทดลองในระยะที่ 3 ขณะที่รัฐบาลไม่กระตือรือร้นในการนำเข้าวัคซีนคุณภาพสูงจากต่างประเทศ และดูเหมือนจะขัดขวางเสียด้วยซ้ำที่ภาคเอกชนรวมตัวกันซื้อวัคซีนบริจาคให้รัฐบาลจำนวน 15 ล้านโดส และกรณีที่นายเฉินสือจง อดีตผู้บัญชาการศูนย์ควบคุมโรคลาออกกลางคัน ทั้งที่สถานการณ์โควิดในไต้หวันอยู่ในช่วงขาขึ้น เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงไทเป ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประชาชนไม่พอใจ นำไปสู่ความพ่ายแพ้ของการเลือกตั้งครั้งนี้ แม้ในช่วงโค้งสุดท้าย พรรครัฐบาลจะงัดนโยบายต้านจีนป้องไต้หวันมาหาเสียงอย่างที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว แต่ประชาชนส่วนใหญ่เฉื่อยชา ไม่ตอบสนองในประเด็นนี้...
วัคซีนเกาตวน (MVC) หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้พรรคดีพีพีแพ้การเลือกตั้ง
ท่านสามารถดูผลการเลือกตั้งอย่างละเอียดได้จากเว็บไซต์ Rti ที่ : https://election.rti.org.tw/2022/th/results