
ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลตรุษจีนปีนี้เป็นปีแรกในรอบสามปีหลังรัฐบาลไต้หวันประกาศคลายล็อกมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ประชาชนจึงเฉลิมฉลองตรุษจีนกันอย่างเต็มที่ประกอบกับอากาศหนาวเย็นมาก ทำให้เกิดการระบาดของโนโรไวรัส (Norovirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่ทำให้เกิดการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ไวรัสชนิดนี้ระบาดได้ง่ายและรวดเร็วแม้ร่างกายได้รับเชื้อในปริมาณเพียงเล็กน้อย ที่สำคัญทนต่อความร้อนและน้ำยาฆ่าเชื้อต่าง ๆ ได้ดี ดังนั้นเมื่อเกิดการปนเปื้อนของโนโรไวรัสในอาหารและน้ำดื่ม จะทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาเจียน และสามารถติดต่อกันได้ง่าย ในสภาพอากาศที่หนาวเย็น อีกทั้งทำให้เกิดโรคทั้งในเด็กและผู้ใหญ่
นายแพทย์หลินอิ้งหรัน (林應然) นายกสมาคมการสาธารณสุขมูลฐานเปิดเผยว่า ในปีนี้เริ่มเกิดการระบาดของโนโรไวรัสตั้งแต่ช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีนพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา อาการที่พบบ่อยหากได้รับเชื้อโนโรไวรัสภายใน 24 – 48 ชั่วโมง ได้แก่ ถ่ายเหลวเป็นน้ำ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ ไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามร่างกาย และอ่อนเพลีย โดยเชื้อโนโรไวรัสสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านทางอาหารและน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสดังกล่าว และพบบ่อยในน้ำดื่ม น้ำแข็ง ผักผลไม้สด หอยนางรม เป็นต้น นอกจากนี้ยังอาจติดเชื้อจากการที่เด็กจับหรือสัมผัสกับสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัสแล้วเอานิ้วเข้าปากและสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งของผู้ป่วยโดยตรง
กองอนามัย นครเกาสงเปิดเผยว่า เฉพาะช่วงครึ่งแรกของเดือนม.ค.ปีนี้พบผู้ป่วยมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เตือนประชาชนหากมีอาการท้องเสีย อาเจียนและมีไข้ ซึ่งเป็นอาการสำคัญของการติดเชื้อโนโรไวรัสต้องรีบไปพบแพทย์ทันที และให้เฝ้าระวังการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อน (คลัสเตอร์) ภายในครอบครัว
สำหรับการป้องกันโนโรไวรัส เนื่องจากในปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนสำหรับป้องกันเชื้อโนโรไวรัสนี้ แนวทางการป้องกันการติดเชื้อจึงใช้วิธีการป้องกันโรคติดต่อโดยทั่วไปคือ การดูแลสุขอนามัย กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ จะช่วยลดปัญหาการติดเชื้อนี้ได้ สำหรับในครอบครัวที่มีผู้ป่วยต้องแยกเสื้อผ้าคนป่วยซักต่างหากและต้องรีบซักให้สะอาดโดยเร็ว เช็ดทำความสะอาดพื้นที่ปนเปื้อนด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของคลอรีน ผู้ป่วยต้องงดการประกอบอาหารเพราะสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้หลังจากมีอาการเป็นระยะเวลา 3 วัน เด็กควรงดไปโรงเรียนหรือสถานที่รับเลี้ยงเด็กเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อและหลีกเลี่ยงการเดินทางจนกว่าจะหายเป็นปกติ