
วันนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2566) ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินกล่าวในงานฉลองตรุษจีนประจำปีของมูลนิธิเพื่อการติดต่อแลกเปลี่ยนระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน (Straits Exchange Foundation:SEF) ว่า ปีนี้เป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยความท้าทาย รัฐบาลไต้หวันได้มีการจัดทำแผนต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของไต้หวัน รวมถึงส่งเสริมกลยุทธ์ทางอุตสาหกรรมทั้ง 6 อย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้รัฐบาลได้วางแผนงบประมาณราว 95,000 ล้านเหรียญไต้หวัน เพื่อยกระดับและแปรรูปอุตสาหกรรมท้องถิ่น ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนผลักดันนโยบายลดการปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากนี้รัฐบาลยังได้ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามแผนการลงทุนหลัก 3 แผน ซึ่งนโยบายดังกล่าวได้ดำเนินการนานกว่า 4 ปีแล้ว โดยสามารถดึงดูดผู้ประกอบการกว่า 1,300 รายให้กลับมาลงทุนในไต้หวัน รวมเป็นมูลค่าการลงทุน มากกว่า 1.9 ล้านล้านเหรียญไต้หวัน พร้อมกันนี้ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินยังเชิญชวนนักธุรกิจเดินทางสำรวจเมืองต่าง ๆ เพื่อแสวงหาโอกาสทองในการลงทุนทางธุรกิจ และรัฐบาลก็จะให้ความช่วยเหลือและคอยสนับสนุนด้วย การสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ช่วยเหลือนักธุรกิจชาวไต้หวันในการขยายเครือข่ายไปทั่วโลกคือพันธกิจหลักของรัฐบาลไต้หวันในปีนี้ หวังว่าทุกฝ่ายจะให้ความร่วมมือเพื่อให้เกิดความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและความเจริญก้าวหน้าของประเทศ
ในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันนั้น ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินกล่าวว่า การรักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนสองฝั่งช่องแคบไต้หวันนั้นเป็นความรับผิดชอบร่วมกันของทั้งสองฝ่าย และยังเป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวังไว้ นอกจากนี้ การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนที่ดีระหว่างจีนและไต้หวันก็เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นไปอย่างสันติและมั่นคง ไต้หวันยินดีร่วมมือกับรัฐบาลปักกิ่ง เพื่อหาแนวทางที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่าย บนพื้นฐานของเหตุและผล ความเสมอภาค และการเคารพซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ก็เพื่อส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค