นายหวงหรงฟา(黃榮發)เจ้าของฟาร์มเกษตรจู๋เกิง(竹耕農場) ตำบลจู๋ฉี เมืองเจียอี้ ปลูกขนุนรสชาติหวานกรอบอร่อย ปัจจุบันได้รับฉายา “ราชาปลูกขนุน” เขารับกิจการเกษตรต่อจากคุณพ่อในพื้นที่ 13 เฮกตาร์(81.25ไร่) ก่อนหน้านี้ฟาร์มเกษตรแห่งนี้ปลูกส้มเขียวหวานและส้มเช้ง แต่เนื่องจากติดเชื้อหวงหลงปิ้ง (Huanglongbing Diseases) ต่อมาหันมาปลูกลิ้นจี่ แต่เนื่องจากดูแลไม่ทั่วถึง มักต้องพ่นยาฆ่าแมลงเป็นจำนวนมาก ไม่สามารถเก็บลิ้นจี่ให้เสร็จในเวลารวดเร็ว ผลกำไรน้อย จนคิดเลิกอาชีพเกษตรกรรม แต่ต่อมาฮึดสู้หันไปปลูกขนุนที่ไม่ต้องใช้คนในการดูแลมากมาย และเริ่มศึกษาหาความรู้อย่างจริงจัง เพื่อเสาะหาสายพันธุ์ขนุนที่อร่อย เขาทำทุกวิถีทาง เช่น ไปซื้อขนุนที่ตลาด แอบเก็บขนุนที่คนอื่นปลูก หรือแม้แต่เดินทางไปต่างประเทศเพื่อนำพันธุ์ขนุนอร่อยๆ กลับมาปลูกในไต้หวัน ปลูกได้ขนุนหลากหลายสายพันธุ์
ขนุนยวงใหญ่ หวาน กรอบ อร่อย
เขาได้ใช้เวลา 3 ปี ปลูกต้นขนุน 3000-4000 ต้น และทดลองกินขนุนที่ปลูกได้หลายๆ รอบ หากพบต้นขนุนที่ออกผลมีรสหวานก็จะใช้พ่นสีแสดงเครื่องหมายไว้ ส่วนต้นไหนออกผลไม่หวานก็จะไม่พ่นสี เมื่อสังเกตต้นขนุนที่ทำสัญลักษณ์ไว้พบว่า ต้นไหนที่มีรสหวานยังไงก็ออกผลรสหวาน ส่วนต้นขนุนที่ไม่หวานยังไงก็ไม่หวาน จะไม่เกี่ยวข้องกับการใส่ปุ๋ยหรือความอุดมสมบูรณ์ของพื้นดิน จึงสรุปว่าขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของขนุน เพราะฉะนั้นเขาก็เลยใช้กิ่งของต้นขนุนที่มีรสหวานทาบไปยังต้นขนุนที่ไม่หวาน ทำอย่างนี้ผ่านไปหลายครั้งหลายหน ในที่สุดต้นขนุนที่ปลูกได้เป็นหนึ่งไม่มีสองคือเป็นต้นขนุนที่มีรสหวานอย่างเดียว
นายหวงหรงฟา ผู้ได้รับฉายา "ราชาปลูกขนุน"
ผู้ที่ทำอาชีพเกษตรในไต้หวัน หากต้องการเปิดตัวสินค้าเกษตร ส่วนใหญ่มักจะนำผลผลิตไปขายที่ตลาดนัดการเกษตร หรือไม่ก็เข้าร่วมนิทรรศการเกี่ยวกับการเกษตร แต่นายหวงหรงฟา กลับทำในสิ่งตรงข้ามกับเกษตรกรรายอื่นๆ คือเอาขนุนตั้งไปตั้งที่แผงตลาดนัดเกษตร จากนั้นแกะผลขนุนแจกให้ผู้คนได้ชิมฟรีโดยไม่ขายเลย เชิญชวนผู้บริโภคและผู้ตั้งแผงใกล้เคียงมาชิมอย่างเดียว มีผู้บริโภคบางคนบอกว่า ส่วนใหญ่ได้กินขนุนที่รสชาติไม่หวานและมีกลิ่นแรง แต่เมื่อได้ชิมขนุนของเขากลับพบว่ามีความหวานมาก บางคนใช้วิธีชิมไป บีบจมูกไปด้วย แต่ต่อมาแย่งชิมกันใหญ่ และยังถามว่าซื้อขนุนแบบนี้ได้ที่ไหน นายหวงก็เลยรีบตอบว่า “ต้องไปที่สวนผมจึงจะได้กินขนุนอร่อย” แต่ถ้าไม่สะดวกสามารถส่งไปถึงที่บ้านได้ นายหวงฟาใช้วิธีการโฆษณาขาย “ไม่หวานไม่ต้องจ่ายเงิน” ได้ดึงดูดลูกค้าเขียนใบสั่งซื้อมากมาย อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนที่สั่งซื้อแล้วไม่ยอมจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่าไม่หวาน ในจำนวนนี้มีอยู่รายหนึ่ง สั่งซื้อขนุนบ่อยครั้ง ทุกครั้งก็จะบอกว่าไม่หวาน เขาได้ส่งขนุนไปถึงที่บ้านของลูกค้าคนนี้ฟรีรวมทั้งหมด 16 ลูก ในที่ลูกค้าคนนี้เริ่มมีน้ำใจยอมที่จะจ่ายตังค์และกลายเป็นลูกค้าประจำ อีกทั้งยังแนะนำญาติสนิทมิตรสหาย 40-50 คนมาเยี่ยมเยือนและซื้อขนุนที่สวน
ซังขนุนทอด อร่อยไม่แพ้เฟรนฟรายซ์
การปลูกขนุนหวานของเขาเป็นที่รู้จักของผู้คนมากขึ้น เขาบอกว่าต้องขอบคุณความผู้บริโภคและการช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณ ทำให้สามารถเดินมาถึงจุดเป้าหมายในวันนี้ ปัจจุบันไม่เพียงแต่ปรุงอาหารกะหรี่ที่ใช้ขนุนเป็นวัตถุดิบ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคไม่น้อย มีการร่วมมือกับโรงงานทำผลิตภัณฑ์ขนุน อย่างเช่นไอศครีมขนุน เหล้าขนุน หรือน้ำขนุน เป็นต้น ส่วนซังขนุนก็นำมาทอด รสชาติสุดแสนอร่อย มีคนบอกว่า อร่อยกว่าเฟรนช์ฟรายส์เสียอีก ส่วนเมล็ดขนุนก็ไม่ทิ้งเช่นกัน เอามาต้มซุปกระดูกหมู รสชาติไม่แพ้เกาลัดด้วย แต่ส่วนที่ผู้บริโภคชอบมากที่สุดคือยวงขนุน เพราะทั้งหวาน ทั้งหอม นายหวงหรงฟาบอกว่า ตัวเองไม่กล้าที่จะบอกว่าประสบความสำเร็จสูง แต่คิดว่าได้ทำในสิ่งที่มีความอิสระ ทำในสิ่งที่ชอบ พัฒนาในสิ่งที่ตัวเองฝันได้
กะหรี่ขนุนราดข้าว สุดแสนอร่อย