ไต้หวันเจ๋ง! รักษาความสดลิ้นจี่โดยใช้คลื่นความโน้มถ่วง
ลิ้นจี่สายพันธุ์ “อวี้เหอเปา玉荷包” ในไต้หวันเป็นลิ้นจี่อร่อย รสหวาน เปลือกบาง เมล็ดเล็ก แต่มีปริมาณผลิตน้อยและราคาแพง หลังเก็บผลจะดำง่ายทำให้ขายได้ราคาไม่ดี แหล่งปลูกที่สำคัญอยู่ในนครเกาสง ที่ผ่านมา นครเกาสงแถลงว่า การขายลิ้นจี้บนแพลตฟอร์มอี-คอมเมิร์ซฤดูกาลนี้หมดแล้ว และยังได้แถลงความสำเร็จการเกษตรอัจฉริยะ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรรักษาความสดของลิ้นจี่ โดยใช้เทคโนโลยีคลื่นความโน้มถ่วง(gravitational wave) รักษาความสดลิ้นจี่ได้ยาวนานขึ้นอย่างน้อย 5 วัน ทำให้ลิ้นจี้ที่เก็บไว้ 1 สัปดาห์ยังมีรสชาติไม่ต่างจากลิ้นจี่เพิ่งเก็บจากต้น
เฉินจวิ้นจี้ (陳駿季) รองประธานคณะกรรมการการเกษตรชื่นชมผลงานความสำเร็จการเกษตรอัจฉริยะของนครเกาสง มีความสำคัญต่อการยกระดับประสิทธิภาพ ความปลอดภัยด้านอาหาร และลดความเสี่ยงให้แก่เกษตรกรผู้ปลูก ลิ้นจี่แต่ละผล เป็นผลผลิตของเกษตรกรที่ต้องทะนุถนอม พร้อมกล่าวด้วยว่าประสบการณ์และสำเร็จนี้สามารถขยายไปยังเมืองอื่นได้
ไช่เจิ้งซวีน (蔡政勳) ผู้จัดการใหญ่ของบริษัท ควนเหว่ยเทคโนโลยี (QUADLINK TECHNOLOGY, INC.) ซึ่งเป็นผู้ร่วมโครงการบอกว่า เทคโนโลยีหยุดยั้งการเจริญเติบโตจุลินทรีย์รักษาความสด โดยใช้คลื่นความโน้มถ่วง มีการปล่อยคลื่นความโน้มถ่วงในขณะที่เก็บลิ้นจี้ไว้ในคลังแช่เย็น เป็นการรักษาความชุ่มชื้นลิ้นจี่ โดยที่น้ำในลิ้นจี้จับตัวเป็นน้ำแข็งทรงกลม ไม่มีความแหลมคม จึงไม่ทำลายผนังเซลล์ของเนื้อผลไม้ และยังรักษาสีและคงรูปร่างเดิมของลิ้นจี่ไว้ด้วย
สวี่หลุนเจ้า (許倫肇) ประธานสหกรณ์ฟางจิ้ง (芳境) บอกว่า ลิ้นจี่อวี้เหอเปา ระยะผลผลิตสั้นมาก ความเร่งรีบในการเก็บรักษาความสด มีประโยชน์ต่อการขนส่งสู่ท้องตลาด