1. ชวนไปกินปลาที่ตงกั่ง ตลาดปลาทูน่าที่ใหญ่สุดของไต้หวัน
ในสังคมไต้หวัน ปลา (魚) นับเป็นสัญลักษณ์ของความสมบูรณ์พูนสุข โดยคำว่า 魚 ออกเสียงว่า "อวี๋" พ้องเสียงกับคำว่า 餘 ที่หมายถึงความเหลือเฟือ ปลาจึงเป็นเมนูที่ขาดไม่ได้ในการจัดสำรับอาหารมงคลประจำเทศกาลตรุษจีน และเป็นเมนูที่มักจะถูกผู้ใหญ่คอยกำชับอยู่เสมอด้วยว่า ห้ามทานจนหมดเกลี้ยง เพราะว่าจะได้ "มีเหลือกินเหลือใช้ทุกๆ ปี"
ตงกั่งเป็นแหล่งปลาทูน่าและปลากระโทงดาบที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ในภาพเป็นบลูฟินทูน่าหรือปลาทูน่าครีบน้ำเงินที่ชาวประมงจับได้ขึ้นท่า ณ ท่าเทียบเรือประมงตงกั่ง
ไต้หวันเป็นเกาะที่ห้อมล้อมไปด้วยน้ำทะเล ที่น่าสนใจคือมีกระแสน้ำอุ่นคูโรชิโอะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกไหลผ่านตลอดปี เป็นแหล่งสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติ อุตสาหกรรมการประมงจึงเจริญก้าวหน้า ทำให้ชาวไต้หวันสามารถซื้อหาอาหารทะเลที่อุดมไปด้วยสารอาหารจำพวกกรดไขมันชนิดที่ร่างกายเราต้องการและสร้างไม่ได้ อย่าง EPA และ DHA ได้อย่างง่าย ๆ จากตลาดปลาซึ่งมีเกือบทุกเมือง
ปลาทูน่าครีบน้ำเงินส่วนที่เป็นท้องเรียกว่าโอโทโร่ มีปริมาณน้ำมันสูง เนื้อนุ่ม มีรสชาติ กลมกล่อม ชุ่มฉ่ำและนุ่มลิ้นเหมือนกับเนยที่แทบละลายในปาก
แต่วันนี้ เราจะแนะนำตลาดปลาที่น่าสนใจให้เพื่อนผู้ฟังได้รับทราบ เผื่อว่า ท่านจะสนใจไปเที่ยวและกินปลาสดอร่อย ราคาไม่แพงได้ นั่นคือตลาดปลาหัวเฉียว (華僑市場) หรือตลาดปลาตงกั่ง ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเรือประมงตงกั่ง (東港) พูดถึงตงกั่ง เดิมเป็นหมู่บ้านประมงเล็ก ๆ ทุกวันนี้กลายเป็นฐานมั่นอุตสาหกรรมการประมงชายฝั่งที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวันไปแล้ว และเป็นแหล่งที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวกันมาก ปลาที่จับกันที่นี่มีทุกชนิด แต่ที่แตกต่างไปจากท่าเรือประมงอื่น ก็คือ ที่นี่เป็นแหล่งปลาทูน่าและปลากระโทงดาบที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน โดยเฉพาะบลูฟินทูน่าหรือปลาทูน่าครีบน้ำเงิน ซึ่งเป็นปลาที่นิยมและเป็นที่ต้องการมากที่สุดในการทำซาชิมิแบบญี่ปุ่น ส่วนที่เป็นท้องเรียกว่าโอโทโร่ เนื่องจากมีปริมาณน้ำมันสูง เนื้อนุ่ม มีรสชาติ กลมกล่อม ชุ่มฉ่ำและนุ่มลิ้นเหมือนกับเนยที่แทบละลายในปาก ราคาคิดเป็นคำเลยทีเดียว แต่ไปกินกันถึงแหล่งที่ตลาดปลาตงกั่ง ยังถือว่าเป็นราคากันเอง ควักจ่ายได้สบาย ๆ โดยปลาบลูฟินทูน่าที่จับได้ที่นี่ ร้อยละ 80 ส่งออกไปยังญี่ปุ่น ซึ่งเป็นชาติที่นิยมกินปลามากที่สุดชาติหนึ่ง
การประมูลปลา ภารกิจประจำวันของชาวประมงที่ตลาดปลาตงกั่ง
เนื่องจากมีชื่อเสียงในการจับปลาบลูฟินทูน่า มีนักกินปลาและนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังตลาดปลาตงกั่งมากขึ้น ดังนี้ เทศบาลเมืองผิงตงจึงได้จัดงาน “เทศกาลท่องเที่ยววัฒนธรรมปลาทูน่าครีบน้ำเงินเมืองผิงตง” ช่วงเมษายน-กรกฎาคม เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2001 เป็นต้นมา โดยนำอุตสาหกรรมประมงมาผนวกกับการท่องเที่ยว สร้างกระแสนิยมให้กับตงกั่งในอีกรูปแบบหนึ่ง
ช่วงเมษายน-กรกฎาคมของทุกปี จะเป็นช่วงที่ชาวประมงทำรายได้งามจากฤดูกาลจับปลาทูน่า ในภาพเป็นบรรยากาศในตลาดปลาตงกั่ง
ความมีชื่อเสียงของตงกั่งที่ต้องกล่าวถึงอีกหนึ่งอย่างคือ ที่นี่นอกจากจับปลาทูน่าและปลากระโทงดาบเป็นอันดับหนึ่งของไต้หวันแล้ว ยังเป็นแหล่งเพาะเลี้ยงกุ้งซากุระที่อร่อยอีกด้วย มีการก่อตั้งกลุ่มผลิตและแปรรูปกุ้งซากุระของชาวประมง อาศัยการเพาะเลี้ยงกุ้งและลูกปลาด้วยตัวเอง มีการกำหนดกฎระเบียบในการจับปลา เช่น ฤดูกาลที่สามารถจับปลาได้ ปริมาณที่อนุญาตให้จับ เพื่อรักษาทรัพยากรทางทะเลให้เกิดความยั่งยืน การร่วมกันอนุรักษ์กุ้งซากุระ ไม่เพียงส่งผลให้ราคาในท้องตลาดเพิ่มขึ้นหลายเท่า แต่ยังเป็นการแสดงให้เห็นว่าคนกับทะเล สามารถมีประโยชน์ร่วมกัน แบ่งปันกัน ทำให้เกิดความยั่งยืนมากขึ้น
ภายในตลาปลา มีปลาดิบ สด คุณภาพดีและราคาถูก วางขายกันมากมาย
สำหรับตลาดปลาตงกั่ง ภายในตลาดมีแผงร้านค้าไม่ต่ำกว่า 400 แผง เมื่อเดินเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าว จะพบกับปลาสด ๆ และอาหารทะเลหลากหลายชนิดวางขายบนแผงอย่างละลานตา เวลาซื้อยังสามารถถามรายละเอียดจากเจ้าของร้านได้ด้วย ไม่ว่าจะชื่อ รสชาติ วิธีการปรุง หรือจะซื้ออาหารทะเลสดแล้วให้ร้านอาหารปรุงเป็นเมนูต่าง ๆ ให้เราได้ลิ้มรสอาหารที่สดใหม่จากทะเลสู่โต๊ะอาหารได้เช่นกัน ตลาดปลาตงกั่งเปิดให้บริการจนถึงสองสามทุ่ม จากนั้นแสงไฟในตลาดจะค่อย ๆ ดับลง ก่อนที่ตลาดปลาที่จะกลับมาเปิดตลาดอีกครั้งหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง คือราวตีสองในแต่ละวัน ที่นี่จะเริ่มต้นความคึกคักด้วยการซื้อขายสินค้าปลาที่จับด้วยอวนลาก แผงค้าปลาในตลาดสด ร้านอาหาร และร้านจัดโต๊ะจีน ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ต้องใช้ปลาเป็นวัตถุดิบในปริมาณมากจะแห่กันไปหาซื้อปลาที่นี่แต่เช้าตรู่ พนักงานเริ่มงานแล่และตัดแต่งปลา ตั้งแต่การตัดหัวปลา ทำความสะอาดปลาและควักเครื่องใน แล้วจึงแล่ปลาออกเป็นชิ้น ๆ เช่น ท้องปลาเหมือนที่เห็นในตลาดทั่วไป ก่อนจะบรรจุลงห่อและส่งขาย วัตถุดิบจำนวนมากถูกนำมาจัดการเบื้องต้นก่อนที่จุดนี้ ก่อนจะส่งต่อไปยังร้านค้าร้านอาหารต่าง ๆ และจะเห็นการทำงานแบบนี้ได้เฉพาะในตลาดค้าส่งปลาเท่านั้น
ภายในตลาปลา มีปลาดิบ สด คุณภาพดีและราคาถูก วางขายกันมากมาย
หากมีโอกาส แนะนำไปเที่ยวและชิมปลาแสนอร่อย ลิ้มลองและดื่มด่ำไปกับรสชาติของซาชิมิอย่างมีความสุขโดยแท้จริงได้นะครับ ส่วนวิธีการเดินทาง หากนั่งรถไฟ ให้ไปลงสถานีผิงตง จากนั้นนั่งรถบัสโดยสารของการขนส่งผิงตงสายตงกั่งจนสุดสาย ลงรถเดินประมาณ 10 นาที หรือใครที่ไปรถไฟความเร็วสูง ลงสุดสายที่จั่วอิ๋ง เกาสง หรือรถไฟลงสถานีเกาสง ต่อรถบัสโดยสารของบริษัทขนส่งหลายสายไปลงที่ตงกั่ง แผนที่ Google Maps : https://goo.gl/maps/9Vpx3WmGRBKz1xys9
บรรยากาศในตลาดปลาหัวเฉียวหรือตลาดปลาตงกั่ง
2. นักปั่นน่องเหล็กพลาดไม่ได้! เถาหยวนเตรียมเปิดสะพานสำหรับจักรยานข้ามแม่น้ำริมทะเลเขตต้าหยวนในเดือนเมษายนปีนี้
หลังจากหยุดยาว 4 วันเนื่องในโอกาสวันรำลึกสันติภาพ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาแล้ว เข้าสู่เดือนมีนาคมเดือนนี้ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์เลยต้องทำงานกันเต็มเดือน แต่ในช่วงต้นเดือนเมษายนจะมีวันหยุดยาวติดต่อกันถึง 5 วัน คือระหว่างวันที่ 1- 5 เมษายน ซึ่งเป็นวันหยุดเนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง เทศบาลเมืองต่างๆเร่งประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอย่างขนานใหญ่ เถาหยวนซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านของไต้หวัน เพราะเป็นสถานที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ซึ่งก็คือท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวน แต่ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้แต่ชาวไต้หวันเองมักจะมองข้าม หากพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวทางภาคเหนือ คนไต้หวันก็จะนึกถึงไทเป จีหลงหรืออี๋หลาน ภาคกลางก็จะเป็น ไทจงหรือหนานโถว ภาคใต้ก็ไถหนาน เกาสงและผิงตง ภาคตะวันออกก็จะเป็นฮัวเหลียนและไถตง จะเห็นได้ว่าไม่ค่อยมีใครนึกถึงเถาหยวนเท่าไหร่ เทศบาลนครเถาหยวนจึงเร่งหาทางดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์และสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติหลายแห่ง หนึ่งในจำนวนนี้ได้แก่ เส้นทางจักรยานที่เชื่อมต่อไปยังชายทะเล โดยเมื่อเร็วๆนี้ได้เปิดใช้สะพานสำหรับจักรยานที่สร้างข้ามแม่น้ำบริเวณจุดที่ไหลลงทะเล สามารถชมทิวทัศน์ชายทะเลและพื้นที่ชุ่มน้ำซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของนกกว่า 200 ชนิด มีกำหนดเปิดใช้อย่างเป็นทางการในเดือนเมษายนนี้
สะพานสำหรับจักรยานที่สร้างข้ามแม่น้ำบริเวณจุดที่ไหลลงทะเล สามารถชมทิวทัศน์ชายทะเลจะเปิดใช้เดือนเมษายนนี้
เทศบาลนครเถาหยวนเปิดเผยว่า สะพานแห่งนี้ได้รับรางวัล Taiwan Real Estate Excellent Award ประเภทการออกแบบที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ โดยตัวสะพานที่มีความยาว 200 เมตร กว้าง 4 เมตร มีเลนจักรยาน 1 เลน กว้าง 2.5 เมตรและทางเท้ากว้าง 1.5 เมตร สะพานแห่งนี้มีตอม่อเพียง 3 ต้นเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการไหลของน้ำในแม่น้ำให้น้อยที่สุด นอกจากนี้ยังเตรียมจะสร้างระเบียงอนุรักษ์ระบบนิเวศและสวนสาธารณะพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ในเดือนกรกฎาคมปีหน้า สำหรับนักปั่นสายอนุรักษ์ ควรหาโอกาสมาเยือนสักครั้ง
ตัวสะพานมีความยาว 200 ม. กว้าง 4 ม. มีเลนจักรยาน 1 เลน กว้าง 2.5 ม. และทางเท้ากว้าง 1.5 ม. ห้ามรถยนต์ขับขึ้นไป
เถาหยวนมีชายทะเลยาว เหมาะสำหรับปั่นจักรยานเลียบชายฝั่งชมวิวกินลม ช่วยคลายเครียดและออกกำลังไปในตัวด้วย