RTI Radio Taiwan International 
RTI Radio Taiwan International 
1. เตือนภัยแก๊งหลอกไปทำงานเกษตร ติดแผงโซลาร์เซลล์ที่ไต้หวัน ตำรวจจับตาโฆษณาโจ๋งครึ่มผ่านเฟซบุ๊ก เจ้าของเพจระวังติดคุก ฐานมีส่วนรู้เห็นหรือปล่อยให้โฆษณาผิดกฎหมาย
นับตั้งแต่ไต้หวันเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวได้เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมา นักท่องเที่ยวไทย ซึ่งได้รับการยกเว้นวีซ่า ซื้อเพียงตั๋วเครื่องบินก็สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวที่ไต้หวันได้เป็นเวลา 14 วัน ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงเป็นช่องทางให้ขบวนการค้ามนุษย์และแก๊งหลอกคนไทยมาทำงานผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน ปัจจุบันถึงกับมีการโพสต์โฆษณาชวนเชื่อผ่านเฟซบุ๊กว่า รับสมัครคนไทยมาทำงานในลักษณะงานฝีน้อยจำนวนมาก ทั้งงานเกษตรและงานติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ค่าจ้างวันละ 1,000 เหรียญไต้หวันขึ้นไป อย่างมีเพจหนึ่งโพสต์ข้อความว่า รับคู่สามีภรรยาหรือชายเดี่ยวจำนวนมาก กินอยู่ฟรีกับเถ้าแก่ ค่าจ้างวันละ 1,000 เหรียญ มีคนดูแลตั้งแต่ไทยจนถึงไต้หวัน บินจริง ส่งถึงหน้างานจริง บางรายโฆษณาชักชวนอย่างโจ๋งครึ่มเลยว่า ไม่ผ่านการอนุญาต มาทำงานเป็นงานผิดกฎหมายแต่อยู่ได้ไม่มีปัญหา
โฆษณาชักชวนไปทำงานที่ไต้หวันอย่างผิดกฎหมาย เจ้าของเพจหรือแอดมินอาจโดนข้อหามีส่วนรู้เห็นหรือร่วมมือกันทำผิดกฎหมาย
เมื่อเดือนมกราคมช่วงก่อนตรุษจีนที่ผ่านมา มีสองสามีภรรยาคนไทยคู่หนึ่ง เดินทางมาไต้หวันในฐานะนักท่องเที่ยว โดยตั้งใจมาทำงานเกษตรตามคำโฆษณา มีคนติดต่อที่ไทยและมีคนรับส่งที่ไต้หวัน จ่ายค่าหัวคิวไปหลายหมื่น เมื่อลงเครื่องที่ท่าอากาศยานนานาชาติเถาหยวนแล้ว มีคนรับไปส่งที่เมืองอี๋หลาน ทำงานอยู่ได้เพียงสัปดาห์เดียว อาจเป็นเพราะไม่คุ้นกับงานเกษตรแบบไต้หวัน นายจ้างเห็นว่าทำงานไม่เป็นไปตามความต้องการเลิกจ้าง คนไทยทั้ง 2 อยากทำงานต่อแต่หางานอื่นทำไม่ได้ เงินที่พกติดตัวมาและค่าจ้างที่ได้ก็ใช้หมดแล้ว จำเป็นต้องเข้ามอบตัวขอเดินทางกลับประเทศ แต่ไม่มีเงินเสียค่าปรับและค่าเดินทาง และเข้ามอบตัวปลายเดือนมกราคม ก่อนเริ่มโครงการลดหย่อนโทษสำหรับชาวต่างชาติที่อยู่เลยกำหนดจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ก.พ. 66 เดือดร้อนไปถึงญาติพี่น้องที่ไทยต้องโอนเงินมาจ่ายค่าปรับและค่าตั๋ว เพิ่งได้เดินทางกลับประประเทศไปแล้วเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
ตรวจเข้ม! แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายที่ปั่นเฉียว หลบเลี่ยงสายตาตำรวจด้วยการรวมขันเช่ารถตู้เบนซ์รับส่งไปทำงาน แต่ไม่รอดถูกจับ
นอกจากตัวอย่างที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอีกหลายคนที่มาในลักษณะดังกล่าวแล้วผิดหวัง เพราะงานที่ทำจะแตกต่างงานเกษตรที่ไทย บางคนทนความหนาวเหน็บไม่ได้ นายจ้างมีงานให้ทำเฉพาะฤดูกาลเท่านั้น อาจไม่สามารถทำได้ตลอดทั้งปี กลายเป็นปัญหาใหญ่ รวมถึงผู้ที่เดินทางมาทำงานขายบริการ คิดว่ายอดจำนวนคนไทยผิดกฎหมายในไต้หวันจะเพิ่มมากขึ้น
ภาคเกษตรไต้หวันขาดแคลนแรงงานหนัก แต่เป็นงานตามฤดูกาล ไม่ใช่งานมั่นคงตลอดทั้งปี
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางสาวประภาวดี แก้วศิริพงษ์ ผอ. สำนักงานแรงงานไทย ไทเป กล่าวเตือนผ่านรายการว่า ไต้หวันไม่ได้เปิดให้ชาวต่างชาติมาทำงาน ไม่ว่าจะงานเกษตร งานติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์หรืองานอุตสาหกรรม โดยไม่ผ่านการอนุญาตของกระทรวงแรงงาน ขอให้ชาวไทยอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อที่โพสต์ในสื่อโซเชียลหรือคำชักชวนของนายหน้า และเตือนแอดมินหรือเจ้าของเพจอย่าปล่อยให้มีการโพสต์โฆษณาที่ผิดกฎหมาย อาจโดนข้อหาเป็นขบวนการเดียวกันหรือเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้โพสต์ข้อความที่ขัดต่อกฎหมาย ตำรวจไต้หวันมีการตรวจจับ กวาดล้างอย่างเข้มงวด ทำให้ต้องหลบหนีต่อไปและอยู่อย่างหวาดผวา หากต้องการมาทำงานที่ไต้หวัน แนะนำว่าควรเดินทางมาอย่างถูกกฎหมาย ปลอดภัยและมีหลักประกันมากที่สุด
ตำรวจจับตาเพจเฟซบุ๊กของแรงงานต่างชาติหลายเพจที่มีการโพสต์ข้อความโฆษณาชักชวนให้บุคคลอื่นทำผิดกฎหมาย
2. ไต้หวันขาดแคลนเลือด แรงงานต่างชาติจะบริจาคเลือดได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่มีเงื่อนไข ซึ่งเป็นกฎระเบียบที่ใช้กับคนทุกชาติ
เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้การบริจาคเลือดลดน้อยลง ทำให้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คลังเลือดทั่วไต้หวันประสบวิกฤตขาดแคลนเลือดอย่างหนัก แรงงานต่างชาติหลายคน รวมถึงแรงงานไทยด้วยสอบถามว่า ยินดีที่จะบริจาคเลือด จะไปบริจาคได้ที่ไหน? บางคนได้ยินเขาเล่าว่า ไต้หวันไม่รับบริจาคเลือดจากแรงงานต่างชาติ จริงไหม? คำตอบคือ แรงงานต่างชาติก็บริจาคเลือดได้ แต่มีเงื่อนไขและกฎระเบียบซึ่งใช้กับทั้งคนไต้หวันและคนต่างชาติ แต่เหตุไฉน? เวลาที่แรงงานต่างชาติไปสอบถาม ถึงได้รับคำตอบว่าบริจาคไม่ได้ อาจเป็นเพราะสอบถามไม่ถูกที่ หรือมีเงื่อนไขค่อนข้างซับซ้อน ไม่เข้าใจ จึงขอนำมาเล่าให้ฟัง เพื่อไขข้อข้องใจ ให้คนที่มีความประสงค์สามารถบริจาคเลือดได้ดั่งใจ
มูลนิธิบริการโลหิตไต้หวัน (Taiwan Blood Services Foundation) ซึ่งรับผิดชอบการรับบริจาคและการจัดสรรโลหิตให้แก่สถานพยาบาลทั่วไต้หวัน ให้ข้อมูลว่า แม้เลือดในคลังจะเหลือน้อย แต่การบริจาคเลือดยังคงต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่มีการแก้ไขเมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2563 คือ หากเป็นชาวไต้หวันที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ ต้องรอให้ครบ 28 วันก่อน จึงจะสามารถไปบริจาคเลือดได้ และหากเป็นผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 และได้รับการรักษาจนหายเป็นปกติ หรือเป็นผู้ที่เคยสัมผัสกับผู้ป่วยโควิด ต้องรอให้ครบ 28 วัน หลังหายเป็นปกติหรือหลังสัมผัสกับผู้ป่วยโควิดครั้งสุดท้าย จึงจะบริจาคเลือดได้
สำหรับชาวต่างชาติในไต้หวัน ไม่ว่าจะเป็นแรงงานต่างชาติ นักเรียนต่างชาติ นักธุรกิจ พนักงานระดับบริหาร หรือนักการทูต สามารถบริจาคเลือดได้เหมือนกันหมด โดยไม่แบ่งว่าทำงานตำแหน่งอะไร แต่ต้องเป็นผู้ที่เข้ามาพำนักอาศัยในไต้หวันอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 3 ปี สามารถบริจาคเลือดได้ และหากเป็นผู้ที่พำนักอาศัยในไต้หวันครบ 3 ปีแล้วเดินทางไปต่างประเทศเป็นเวลาสั้น ๆ หลังกลับเข้าสู่ไต้หวัน ต้องรอเวลา 1 ปีขึ้นไปจึงจะบริจาคเลือดได้
ทั้งนี้มูลนิธิบริการโลหิตไต้หวัน มีหน้าที่รับบริจาคโลหิต และจัดสรรโลหิตให้แก่สถานพยาบาลทั่วไต้หวัน มีศูนย์บริการรับบริจาคโลหิต 5 แห่งได้แก่ ไทเป ซินจู๋ ไทจง ไถหนาน และเกาสง อย่างไรก็ดี นอกจากศูนย์บริจาคโลหิตแล้ว ยังมีรถรับบริจาคโลหิตกระจายกันออกไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วไต้หวันอีกจำนวนมาก
ข้อมูลน่ารู้ ผลดีของการบริจาคโลหิต เป็นการสละโลหิตส่วนเกินที่ร่างกายยังไม่จำเป็นต้องใช้ให้กับผู้ป่วย ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริจาคโลหิต เนื่องจากร่างกายคนเรามีปริมาณโลหิตประมาณ 17-18 แก้วน้ำ แต่จะใช้เพียง 15-16 แก้วเท่านั้น ส่วนที่เหลือบริจาคให้ผู้อื่นได้ โดยบริจาคโลหิตได้ทุก 3 เดือน เมื่อบริจาคโลหิตแล้ว ไขกระดูกของเราจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดโลหิตขึ้นมาทดแทน ทำให้มีปริมาณโลหิตในร่างกายเท่าเดิม จึงช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ระบบต่าง ๆ ก็ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพขึ้น ทั้งยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส โดยไม่ต้องพึ่งวิตามิน หรืออาหารเสริมใด ๆ หากเราไม่ได้บริจาค ร่างกายจะขับเม็ดโลหิตที่สลายตัวเพราะหมดอายุโดยเปล่าประโยชน์ กล่าวได้ว่า การบริจาคเลือด นอกจากได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์และทำให้มีความสุขแล้ว ยังส่งผลให้เรามีสุขภาพดีด้วย
ดูรายละเอียดจุดรับบริจาคเลือดทั่วไต้หวันจากเว็บมูลนิธิบริการโลหิต https://www.blood.org.tw/Internet/main/index.aspx
