1. รีบเลย! โครงการลดหย่อนโทษสำหรับแรงงานผิดกฎหมาย จะหมดเขต 30 มิ.ย. นี้ เลยกำหนดเพิ่มค่าปรับ 15 เท่า ชาวไทยรายงานตัวกลับประเทศแล้ว 140 ราย
จากการที่ยอดจำนวนแรงงานต่างชาติหลบหนีกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมายและยังไม่ถูกตรวจพบ พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ยอดจำนวนสะสมของแรงงานต่างชาติหลบหนีและยังไม่ถูกตรวจพบสูงถึง 83,590 คน ในจำนวนนี้แรงงานเวียดนามมีมากที่สุด 52,178 คน ครองสัดส่วน 62.42% แรงงานอินโดนีเซีย 26,926 คน อัตราส่วน 32.31% ฟิลิปปินส์ 2,614 คน สัดส่วน 6.77% ส่วนแรงงานไทยที่หลบหนีและยังไม่ถูกตรวจพบมี 1,844 คน หรืออัตราส่วน 4.78% เทียบกับ เฉพาะในปี 2565 เพียงปีเดียว แรงงานเวียดนามหลบหนีสูงถึง 34,394 คน ตามด้วยแรงงานอินโดนีเซีย 5,422 คน แรงงานไทย 879 คน ฟิลิปปินส์ 508 คน
เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองชี้แจงขั้นตอนการทำเรื่องกลับบ้านแก่สองสามีภรรยาชาวอินโดนีเซียที่เข้ารายงานตามโครงการลดหย่อนโทษ (ภาพจาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง)
นอกจากแรงงานต่างชาติแล้ว สาเหตุอีกประการหนึ่งที่แรงงานผิดกฎหมายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มาจากไต้หวันเปิดประเทศตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2565 เป็นต้นมา โดยมีการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวหลายประเทศ โดยเฉพาะจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไทยเป็นต้น ทำให้ชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยอยู่ในไต้หวันอย่างผิดกฎหมายเพิ่มจำนวนมากขึ้น สังเกตเห็นช่วงนี้มีโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อโซเชียล โดยเฉพาะติกตอก อ้างว่าไต้หวันเปิดให้ชาวต่างชาติเดินทางมาทำงานเกษตร ค่าจ้างวันละ 1,500-2,000 เหรียญไต้หวัน กินอยู่กับนายจ้าง แต่มาแล้วไม่เป็นอย่างที่คิด ขอความช่วยเหลือจากสำนักงานการค้าและเศรษฐกิจไทย สำนักงานแรงงานไทยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีข่าวจับหญิงไทยขายบริการที่จีหลง นครนิวไทเปและแถวภาคกลางเป็นประจำ คนไทยเหล่านี้ ล้วนบอกว่าถูกหลอกมาทั้งสิ้น
นายอามู่ (คนซ้ายมือ) แรงงานอินโดนีเซียผิดกฎหมายที่ซินจู๋จูงมือภรรยาและลูก 2 ในท้องอีก 1 เข้ารายงานตัวกลับบ้านทั้งครอบครัว
สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทยจึงเปิดโครงการให้ชาวต่างชาติที่อยู่ผิดกฎหมายเข้ารายงานตัว ตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์-30 มิถุนายน 66 เป็นเวลา 4 เดือน ชาวต่างชาติที่อยู่เลยกำหนดวีซ่าหรือแรงงานต่างชาติที่หลบหนีนายจ้างกลายเป็นแรงงานผิดกฎหมาย หากเข้ารายงานตัวเพื่อเดินทางกลับประเทศก่อน 30 มิ.ย. นี้ จะได้รับการผ่อนผัน ไม่ถูกกักกัน เสียค่าปรับในอัตราต่ำสุดคือ 2,000 เหรียญและจะไม่ถูกจำกัดหรือติดแบล็กลิสต์เข้าไต้หวัน นี่ก็ใกล้จะหมดเขตแล้ว จึงย้ำเตือนว่า ใครที่อยู่อย่างผิดกฎหมายและอยู่อย่างลำบาก แนะให้รีบเข้ารายงานตัวเดินทางกลับประเทศก่อนหมดเขตจะดีกว่า เพราะหากเลยกำหนด จะถูกปรับในอัตราเดิม
คู่รักชาวอินโดนีเซีย ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ เข้ารายงานตัวขอกลับบ้าน แต่เกรงถูกญาติพี่น้องดุด่า ตำรวจช่วยติดต่อมูลนิธิอิสลามจัดงานแต่งตามหลักศาสนาก่อนเดินทางกลับ
จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ณ สิ้นเดือนเมษายน 2566 ช่วงระยะเวลา 2 เดือนของการเปิดโครงการฯ มีแรงงานไทยและชาวไทยเข้ารายงานตัวและเดินทางกลับประเทศแล้วรวม 140 ราย
2. อย่าถือคนบ้า อย่าว่าคนเมา! แรงงานเวียดนามดื่มเหล้าส่งเสียงดัง แรงงานไทยเข้าไปตักเตือนถูกแทงบาดเจ็บสาหัส 2 ราย
เกิดเหตุแรงงานไทยกับเวียดนามทะเลาะวิวาทกันในหอพักแรงงานต่างชาติแห่งหนึ่งที่เมืองจางฮั่ว ฝ่ายเวียดนามคว้ามีดปอกผลไม้แทงแรงงานไทยเลือดสาด ได้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย จากนั้นหลบหนีไป ตำรวจกำลังตามล่าตัว
สถานีตำรวจลู่กั่งในเมืองจางฮั่วแถลงข่าว คดีแรงงานเวียดนามเมาแทงแรงงานไทย
เมื่อคืนวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่า มีแรงงานต่างชาติถูกมีดแทงได้รับบาดเจ็บ ตำรวจรีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นหอพักแรงงานต่างชาติแห่งหนึ่งที่ตำบลซิ่วสุ่ย เมืองจางฮั่ว พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 รายเป็นแรงงานไทย ถูกแทงฟุบจมกองเลือด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังสอบปากคำแรงงานต่างชาติคนอื่น ๆ ทราบว่า เป็นเหตุทะเลาะวิวาทกันระหว่างแรงงานเวียดนามกับแรงงานไทย ซึ่งพักอยู่ในหอพักเดียวกัน ต้นเหตุมาจากนายฝ่าม แรงงานเวียดนามรายหนึ่ง ทำงานครบสัญญา ใกล้จะเดินทางกลับประเทศ ชวนเพื่อนฝูงคนบ้านเดียวกัน 5 คนมาเลี้ยงฉลอง หลังดื่มสุราเมา เริ่มพูดคุยกันเสียงดัง ส่งผลให้แรงงานไทยที่นั่งอยู่อีกมุมหนึ่งห่างกันไม่ไกลนัก เกิดความไม่พอใจเข้าไปต่อว่าตักเตือน เกิดมีปากเสียงกันถึงขั้นลงมือลงไม้ เพื่อนของนายฝ่าม ซึ่งเป็นแรงงานเวียดนามผิดกฎหมาย คว้ามีดปอกผลไม้ จ้วงแทงแรงงานไทยที่กำลังตะลุมบอนกับแรงงานเวียดนาม ทำให้แรงงานไทยได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย โชคดีที่ส่งรักษาทัน ไม่มีอันตรายถึงชีวิต ตำรวจรวบตัวแรงงานเวียดนามที่ก่อเหตุได้ 3 คน อีก 3 คนหลบหนีไป ซึ่งทั้ง 3 เป็นแรงงานผิดกฎหมาย ตำรวจกำลังตามจับตัวมาดำเนินคดี จากเรื่องนี้ก็เป็นอุทาหรณ์เตือนใจว่า อย่าไปยุ่งกับคนเมา ถ้าหนวกหูก็ให้เดินหนีไป
ลานจอดรถหอพักบริเวณที่เกิดเหตุแรงงานเวียดนามเมาแทงแรงงานไทย
3. สุดยอด! นายสุรชัย อุดสุข แรงงานไทยจากลำปาง ของ บ.ฟอร์โมซา ได้รับเลือกเป็นแรงงานดีเด่นระดับประเทศและแรงงานต่างชาติดีเด่นเมืองหยุนหลินประจำปี 2566
นายสุรชัย อุดสุข อายุ 55 ปี แรงงานไทยจากจังหวัดลำปาง เดินทางมาทำงานที่ไต้หวันกับบริษัทฟอร์โมซา เฮฟวี่ อินดัสทรี่ส์ ที่นิคมอุตสาหกรรมม่ายเหลี่ยว เมืองหยุนหลินเป็นเวลาร่วม 9 ปีแล้ว จัดส่งโดยรัฐผ่านกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เนื่องจากตั้งใจทำงาน มีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมงาน เรียนรู้และฝึกฝนตนเองตลอดเวลา จนมีความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ และมีความรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่ได้รับมอบหมาย มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน วางแผนและออกแบบเครื่องมือที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น ได้รับเลือกเป็นแรงงานดีเด่นระดับประเทศประจำปี 2566 กลุ่มแรงงานต่างชาติ ซึ่งมีทั้งหมด 5 คน แบ่งเป็นภาคการผลิต มีแรงงานไทย เวียดนามและฟิลิปปินส์ ชาติละ 1 คน ส่วนภาคสวัสดิการสังคม เป็นผู้อนุบาลเวียดนามและอินโดนีเซียชาติละ 1 คน พิธีมอบประกาศนียบัตร โล่เกียรติคุณและเงินรางวัล จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ที่โรงแรม SHERATON GRAND TAIPEI HOTEL ในไทเป จากนั้นในวันรุ่งขึ้น ได้เข้าพบประธานาธิบดีไช่อิงเหวินที่ทำเนียบประธานาธิบดีด้วย
นายเฉินเจี้ยนเหริน นายกรัฐมนตรี (ซ้าย) มอบโล่เกียรติคุณแด่นายสุรชัย อุดสุข (ขวา) แรงงานไทยจากลำปางที่ได้รับเลือกเป็นแรงงานดีเด่นระดับประเทศประจำปี 2566
กระทรวงแรงงานไต้หวันจัดประกวดแรงงานดีเด่นระดับประเทศเป็นประจำทุกปี โดยให้กองแรงงานท้องที่ สหภาพแรงงาน องค์กรตัวแทนของนายจ้างและองค์กร NGO เป็นผู้คัดเลือกในเบื้องต้นและส่งเข้าประกวด เมื่อกระทรวงแรงงานได้รับรายชื่อและข้อมูลผู้เข้าประกวดแล้ว จะส่งให้คณะกรรมการที่ประกอบด้วยตัวแทนกระทรวงแรงงานและนักวิชาการเป็นผู้ประเมินและคัดเลือกแรงงานดีเด่นต่อไป ที่ผ่านมา แรงงานดีเด่นระดับประเทศ จะเป็นแรงงานท้องถิ่นจากภาคอุตสาหกรรมการผลิต บริการและธุรกิจต่างๆ จำนวน 51 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สอดคล้องกับวันและเดือนของวันแรงงานแห่งชาติ นับแต่ปี 2564 เป็นต้นมา มีการเพิ่มโควตาแรงงานต่างชาติจำนวน 5 คน จากภาคการผลิต 3 คน และภาคสวัสดิการสังคม 2 คน
สวี่หมิงชุน (ซ้าย) รมว. กระทรวงแรงงาน แสดงความยินดีกับนายสุรชัย อุดสุข (ขวา) แรงงานไทยจากลำปางที่ได้รับเลือกเป็นแรงงานดีเด่นระดับประเทศประจำปี 2566
นอกจากได้รับเลือกเป็นแรงงานดีเด่นระดับประเทศแล้ว นายสุรชัย ยังได้รับเลือกเป็น 1 ในแรงงานต่างชาติดีเด่นของเมืองหยุนหลินประจำปี 2566 ด้วย ในโอกาสนี้ นายสุรชัยฯ ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เล่าประสบการณ์การใช้ชีวิตในไต้หวันและเคล็ดลับในการทำงานตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ฟังคลิปสัมภาษณ์ได้จากรายการไขปัญหาแรงงาน วันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2566 ที่ : https://th.rti.org.tw/radio/programMessagePlayer/programId/549/id/108075
จางลี่ซ่าน (ซ้าย) ผู้ว่าการเมืองหยุนหลินมอบโล่เกียรติคุณแรงงานต่างชาติดีเด่นเมืองหยุนหลินประจำปี 2566 แด่นายสุรชัย อุดสุข (กลาง) แรงงานไทยจากบริษัทฟอร์โมซา เฮฟวี่ อินดัสทรี่ส์ ที่นิคมอุตสาหกรรมม่ายเหลี่ยว เมืองหยุนหลิน