close
Rti Thaiดาวน์โหลด Rti App
Open
:::

บันทึกชีวิตในไต้หวัน : เปิดรับสมัครแล้ว ! โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 10 ลุ้นรับทุนสานฝันทีมละ 80,000 เหรียญไต้หวัน

  • 10 September, 2023
บันทึกชีวิตในไต้หวัน
เปิดรับสมัครแล้ว ! โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 10 ลุ้นรับทุนสานฝันทีมละ 80,000 เหรียญไต้หวัน (ภาพจากเฟสบุ๊คโครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 9)

       คุณผู้ฟังเคยมีความฝันไหมค่ะ เคยฝันว่าอะไรกันบ้างเอ่ย ความฝันเป็นสิ่งที่นามธรรมเอามากๆ เด็กๆเป็นช่วงเวลาที่เราจะมีความฝันกันง่ายที่สุด บางคนอาจฝันใหญ่ หรือฝันเล็กๆ แตกต่างกันไป เพราะโลกของเด็กๆมักดูสวยงามและมีความน่าจะเป็นไปหมดซะทุกอย่าง แต่พอโตขึ้นเรื่อยๆ ความฝันของแต่ละคนก็ค่อยๆหดเล็กลง เพราะอะไรหลายๆอย่างไม่เป็นดั่งฝัน หรือบางทีความฝันก็กลายเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับบางคน อันที่จริง ความฝันไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่อะไรเลย อาจจะเป็นเพียงการได้ดื่มชานมไข่มุกทุกอาทิตย์ ฝันว่าได้เลิกงานเร็วกว่าปกติในทุกเย็นวันศุกร์ หรือบางคนไม่มีความฝันอะไรเป็นพิเศษ ขอแค่ทุกเย็นหลังเลิกงานได้กินอาหารที่ชอบ ดูซีรีย์ จิบเบียร์เย็นๆ ก็ไม่เสียหาย แค่เราสบายใจกับมันก็พอ เหนือสิ่งอื่นใด เจินเชื่อว่า ความฝันทั้งเล็กและใหญ่ เป็นสิ่งที่ช่วยขับเคลื่อนให้เราได้ใช้ชีวิตไปในหนทางใดหนทางหนึ่ง บันทึกชีวิตในไต้หวันสัปดาห์นี้ จะชวนคุณผู้ฟังทุกท่านมาร่วมพูดคุยกับความฝันของเหล่าผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวัน ตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา กระทรวงมหาดไทยไต้หวันได้จัดโครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดาขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดาสานฝันของพวกเขาสำเร็จ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หลายปีที่ผ่านไป มีผู้คนสานฝันสำเร็จไปแล้วมากกว่า 500 คน ปีนี้ โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 10 เริ่มเปิดรับสมัครผู้ที่มีความฝันแล้ว โดยผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่หรือบุตรธิดาสามารถเขียนโครงการความฝันของตัวเองส่งเข้าร่วมโครงการ ลุ้นรับทุนสานฝันทีมละ 80,000 เหรียญไต้หวัน ไม่ว่าคุณจะมีฝันใหญ่หรือมีเพียงฝันเล็กๆ แต่ทุกความฝันล้วนพิเศษในตัวเอง บันทึกในวันนี้จะพาทุกคนไปฟังความฝันของผู้เข้าร่วมโครงการนี้ในปีก่อน เผื่อจะจุดประกายความฝัน เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนได้ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรนั้น คลิกฟังรายการที่นี่


(ภาพจาก เฟสบุ๊คโครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 9)

     เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน เพิ่งจัดงานเลี้ยงน้ำชาเฉลิมฉลองผลสัมฤทธิ์ โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 9 โดยในปีนี้มีผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา 30 ทีม 88 คนได้รับทุนการศึกษาสานฝันทีมละ 80,000 เหรียญไต้หวัน คุณอู๋หรงฮุย (吳容輝)  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน ได้เดินทางไปร่วมงานเพื่อให้กำลังใจบรรดาผู้ที่ได้รับทุน พร้อมกล่าวอวยพรให้ทุกคนมุ่งมั่นสานฝัน และยึดมั่นในความตั้งใจแรกเริ่มในการต่อสู้เพื่อความฝัน และเบ่งบานในแบบของตัวเอง

     คุณอู๋หรงฮุยกล่าวว่า  โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 9 มีผู้สมัครเข้าร่วมมากกว่า 90 ทีม ที่ใช้โอกาสนี้แสดงความสามารถพิเศษของตัวเองอย่างเต็มที่ ทำให้การแข็งขันเป็นไปอย่างเข้มข้น แต่ท้ายที่สุดแล้ว มีเพียง 30 ทีมที่ได้รับคัดเลือก โดยทีมที่ได้รับทุนการศึกษาสานฝันมาจาก ญี่ปุ่น มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม อินโดนีเซียและจีนแผ่นดินใหญ่ สำหรับผลงานที่ได้รับรางวัล ล้วนแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณด้านนวัตกรรมแบบข้ามวงการ ยกตัวอย่างเช่น การสร้างแบรนด์ของตัวเอง โดยใช้วัตถุดิบท้องถิ่นไต้หวันผสมผสานกับรสชาติบ้านเกิด ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์ หรือความฝันแนวจิตอาสา ที่ส่งมอบความห่วงใยให้แก่ผู้คนผู้สูงอายุ ผ่านบริการตัดผมฟรีและแจกจ่ายซุปไก่เพื่อสุขภาพ เพื่อสร้างชุมชนที่มีความห่วงใยให้แก่กันและกันแบบยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีการใช้เทคโนโลยีสำหรับการเพาะปลูกอ้อย ผลิตและจำหน่ายเอง จนสามารถพลิกฟื้นฐานะของครอบครัว และยังมีความฝันที่ผู้สานฝันบันทึกเรื่องราวของของครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จำนวน 100 ครอบครัวให้เป็นภาพถ่ายและภาพวาด หรือเรื่องราวของคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่มีความฝันอยากจัดกิจกรรมอ่านหนังสือเด็กสักครั้ง เพื่อผลักดันการอ่าน และให้ลูกของเธอชื่นชอบการอ่าน

(ภาพจาก เฟสบุ๊คโครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 9)

     นอกจากนี้ ในงานยังมีตัวแทนของผู้ที่ได้รับรางวัล 2 ทีม ขึ้นเวทีเพื่อแสดงผลงานของตัวเอง ทีมแรกคือหลิหัวเซวียน(林華軒) และหลินหัวอวี้ (林華鈺) บุตรชายและบุตรสาวของคุณหลินตี้ที่ (林蒂娣) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ชาวอินโดนีเซีย ที่ทำสารคดีเกี่ยวกับพิธีสุหนัตและพิธีสมรสของผู้คนบนเกาะชวา ในประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นได้จัดแสดงในไต้หวัน 5 ครั้ง เพื่อแบ่งปันวัฒนธรรมบ้านเกิดของแม่ และส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรม ส่วนอีกทีมคือเผยเพ่ยฉี (裴沛綺) ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 ชาวเวียดนาม ได้รับรางวัลในกลุ่มการเรียนรู้และงานศิลปะ โดยเธอได้ใช้ความสามารถในด้านการวาดภาพของตัวเอง เพื่อบันทึกเรื่องราวของตำบลโถวเฟิ่นในเมืองเหมียวลี่ที่เป็นบ้านเกิดของเธอ  และยังจัดนิทรรศการศิลปะและนำออกประมูลอีกด้วย 

     สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวัน เผยว่า ตลอดหลายปีมานี้ ได้จัดโครงการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องอย่างกระตือรือร้น เพื่อสนับสนุนให้ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดาสานฝันของพวกเขาให้เป็นจริง โดยเชื่อว่าต้นกล้าแห่งความหวังและความฝันที่หลากหลายเหล่านี้ จะช่วยผลักดันให้ไต้หวันก้าวสู่สังคมที่โอบรับความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง สามารถรับชมวิดีทัศน์ของผู้ได้รับทุนในครั้งนี้ ได้ที่โซนภาพวิดีทัศน์ ในเว็บไซต์ข่าวรอบโลกสำหรับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่คลิก https://www.immigration.gov.tw/5385/7353/51883/85234/

(ภาพจาก เฟสบุ๊คโครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 9)

สานฝันถ่ายภาพครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ในไต้หวัน 100 ครอบครัว 

     ในฐานะลูกหลานผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่หวงหนีหนี (黃倪倪) และอู๋เจ้าเสียน (吳昭賢) นักเรียน ปวช.ปี 2 จากโรงเรียนอาชีวศึกษานครเกาสง พบว่า ญาติๆฝั่งคุณแม่มักป็นห่วงคุณแม่ของพวกเขาอยู่เสมอ พวกเขาจึงมีความคิดที่ว่า หากถ่ายรูปครอบครัวแล้วส่งกลับไปให้ญาติๆที่อยู่ต่างประเทศ ให้ญาติรับรู้ว่าแม่ของพวกเขาปลอดภัยและมีชีวิตที่ดี อาจจะช่วยคลายความกังวลของญาติๆที่นั่นไปได้บ้าง และด้วยความฝันเล็กๆนี้ ปีที่แล้วหวงหนีหนีและอู๋เจ้าเสียนจึงได้รวมกลุ่มกับเพื่อนร่วมชั้นชาวไต้หวันอีก 3 คน สมัครเข้าร่วมโครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 9 โดยเป้าหมายของความฝันคือ “ถ่ายรูปครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ 100 ครอบครัว” และความฝันนี้ได้เข้าตาคณะกรรมการ จนกลายเป็นที่ใน 30 ทีมที่ได้รับทุนการศึกษาสานฝันในครั้งนี้

     สวี่ลี่เฟิน (許麗芬) ครูประจำชั้นของนักเรียนกลุ่มนี้เผยว่า ในตอนแรกหลายๆคนคิดว่าเป้าหมายที่จะถ่ายรูปครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ 100 ครอบครัวไม่ใช่เรื่องยาก เพราะในโรงเรียนมีบุตรธิดาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จำนวนมาก และนักเรียนกลุ่มนี้ยังได้เรียนวิชาหลักเกี่ยวกับการถ่ายภาพ แต่หลังจากดำเนินโครงการไปได้สักพัก จึงพบว่าไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะบุตรธิดาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่บางคนไม่ต้องการเปิดเผยสถานะ หรือบางคนวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็ต้องทำงานพาร์ทไทม์ อีกทั้งบ้านของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทำให้หาครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ยินยอมให้ถ่ายภาพลำบากมาก 

(ภาพจาก Rti)

     หวงหนีหนี ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่รุ่นที่ 2 ชาวเวียดนาม เผยว่าเธอและเพื่อนๆสมัครเข้าร่วมโครงการภายใต้การสนับสนุนจากครูประจำชั้น ความคิดริเริ่มในตอนแรก เธอแค่รู้สึกว่ามีครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่จำนวนมากไม่เคยถ่ายรูปครอบครัว เธอจึงอยากใช้วิชาถ่ายภาพที่เรียนมา ถ่ายรูปครอบครัวให้กับผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ และส่งภาพถ่ายสวยให้ญาติๆของพวกเขาที่ประเทศบ้านเกิดได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ในไต้หวันของพวกเขา ไม่คิดว่าจะเจออุปสรรคในตอนเริ่มต้นโครงการมากมายเช่นนี้ เธอเล่าให้ฟังว่า ตอนที่เธอขอถ่ายรูปครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ช่วงแรก พวกเธอเคยโดนสงสัยว่าเป็นแก๊งต้มตุ๋น เพราะต้องให้ครอบครัวที่ถูกถ่ายภาพเซ็นหนังสือยินยอมให้ใช้ภาพ และขอเบอร์โทรศัพท์ ก็อย่างว่า สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะและมีกลโกงหลายรูปแบบ พวกเธอต้องอธิบายถึงสิ่งที่พวกเธอกำลังทำให้อีกฝ่ายเข้าใจอย่างละเอียด 

     นอกจากนี้ โครงการนี้ยังทำให้เพื่อนในทีมอีก 3 คน ได้แก่หวงเหว่ยจวิ้น(洪煒竣)  เฉินผิ่งรุ่ย (陳品睿) และซูอวี่ถิง (蘇于婷) ที่เป็นชาวไต้หวันได้รู้จักกับครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่อาศัยอยู่ในไต้หวันมากยิ่งขึ้น และหลังจากถ่ายรูปภาพของครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ 100 ครอบครัวแล้ว พวกเขายังได้นำภาพเหล่านั้นมาวาดเป็นการ์ตูน ทำเป็นโปสการ์ด จัดส่งไปให้กับญาติๆของครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่อยู่อีกประเทศหนึ่ง อีกทั้งยังจัดแสดงนิทรรศการภาพครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ศูนย์ผู้ตั้งถิ่นฐานในนครเกาสง เพื่อให้สังคมได้รู้จักกลุ่มคนเหล่านี้มากยิ่งขึ้น

โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 10 เปิดรับสมัครแล้ว!

แนะนำโครงการ

โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 10 แล้ว ในแต่ละรุ่นมีความฝันที่ประสบผลสำเร็จหลากหลาย มีผู้ที่ทำความฝันให้เป็นจริงแล้วมากกว่า 500 คน เพื่อช่วยผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดาสานฝันของพวกเขาให้เป็นจริง ส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและขจัดการเลือกปฏิบัติในสังคม โครงการนี้ยังได้ขยายความร่วมมือไปยังต่างประเทศ และมีทีมช่างภาพที่ช่วยถ่ายทำกระบวนการสานฝันของผู้สานฝันแต่ละกลุ่ม ทำเป็นวิดีทัศน์เพื่อจัดแสดงให้ทุกคนได้เห็นผลสัมฤทธิ์ของความฝันแต่ละชิ้น เพิ่มความเข้าใจและความเคารพของสังคมที่มีต่อครอบครัวผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ ผลักดันสู่สังคมแห่งการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมที่หลากหลาย

คุณสมบัติผู้สมัคร

1.ผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ : ชาวต่างชาติที่แต่งงานหรือเคยแต่งงานกับชาวไต้หวัน ,  บุคคลไร้สัญชาติ  , บุคคลจากจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงหรือมาเก๊าที่ได้รับสัญชาติไต้หวันแล้ว และมีทะเบียนบ้านในไต้หวัน พำนักอยู่ในไต้หวันอย่างถูกกฎหมาย
2.บุตรธิดาผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่ : บุตรธิดาของบุคคลที่กล่าวไปข้างต้นที่มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน และต้องพำนักในไต้หวันมากกว่า 6 ปีขึ้นไป หากมีเคสพิเศษ จะได้รับการพิจารณาเป็นรายกรณี

ประเภทการขอทุนสานฝันแบ่งออกเป็น 5 ประเภท

1. ประเภทผู้ประกอบการและการตลาด
2. ประเภทการศึกษา การเรียนรู้ และศิลปะ
3. ประเภทเทคโนโลยีมัลติมีเดียและดิจิทัล
4. ประเภทบริการและสวัสดิการสังคม
5. ประเภทอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน

กำหนดการ

1. ระยะเวลารับสมัคร:เปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้ - 20 พฤศจิกายน 2566
2. ประกาศผล : ประมาณเดือนมกราคม 2567
3. ระยะเวลาการสานฝันให้เป็นจริง : กุมภาพันธ์ - สิงหาคม 2567
4. งานเลี้ยงน้ำชาเฉลิมฉลองผลสัมฤทธิ์ : คาดว่าจะจัดประมาณเดือนพฤศจิกายน  2567

ขั้นตอนการสมัคร

1.ลงทะเบียนการสมัครออนไลน์ที่ https://forms.gle/wACcC9cF42UZtX1w6
2.ส่งใบสมัครพร้อมแผนโครงการสานฝันของตัวเองและเอกสารที่เกี่ยวข้องไปทางไปรษณีย์ โดยจ่าหน้าซองว่า “第10屆新住民及子女築夢計畫活動小組” (แผนกกิจกรรม โครงการสานฝันผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่และบุตรธิดา รุ่นที่ 10 ) ที่อยู่ : ชั้น 5 เลขที่ 15 ถนนกวางโจว เขตจงเจิ้ง กรุงไทเป 100213

ดูรายละเอียดโครงการเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.immigration.gov.tw/5385/7229/147023/354132/

 

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง