จับตาคะแนนนิยมล่าสุดผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน 2024
มูลนิธิประชาธิปไตยไต้หวัน ได้รายงานผลการสำรวจคะแนนนิยมผู้ที่เตรียมตัวลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน 2024 ซึ่งมีผู้แสดงเจตจำนงค์แล้วถึง 4 คน จาก 3 พรรคการเมือง และ 1 ผู้สมัครอิสระที่กำลังพยายามที่จะเคลื่อนไหวเพื่อให้ผู้สมัครของพรรคฝ่ายค้าน 2 พรรค ได้แก่ พรรคก๊กมินตั๋ง กับพรรคประชาชนไต้หวัน นั่งลงมาคุยกันเพื่อหาข้อสรุปในการร่วมกันส่งผู้สมัครเพียงชุดเดียวจะได้ไม่แย่งคะแนนกันเอง หรือตัดคะแนนกันเอง ซึ่งจะทำให้ผู้สมัครของพรรค DPP พรรครัฐบาลไม่ต้องเหนื่อยมากก็สามารถได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น ซึ่งยังคงต้องติดตามความคืบหน้าและสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด
สำหรับผลการสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มูลนิธิประชาธิปไตยไต้หวันเปิดเผยว่า รองประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ จากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าหรือ DPP ยังคงมีคะแนนนิยมนำโด่งถึง 33.7% ตามติดมาด้วยนายเคอเหวินเจ๋อจากพรรคประชาชนไต้หวัน 20.1% นายโหวโหย่วอี๋ พรรคก๊กมินตั๋ง 16% อยู่ในอันดับ 3 ส่วนนายกัวไถหมิงหรือเทอร์รี่ กัว มหาเศรษฐีเจ้าของฟอกซ์คอน์น ตามมาห่าง ๆ เพียง 10.6%
อย่างไรก็ดี การสำรวจในครั้งนี้ ได้สำรวจความเห็นของผู้ถูกสำรวจในอีกแง่มุมหนึ่งคือ ไม่อยากให้ใครได้รับเลือกตั้งมากที่สุด ซึ่งปรากฏว่า รองประธานาธิบดีไล่ฯ ก็มีคะแนนที่ผู้คนไม่อยากให้ชนะเลือกตั้งสูงสุดถึง 29.1% ส่วนนายเคอฯ ก็ตามติดมาเป็นอันดับ 2 18.5% นายกัวฯ 18.0% ส่วนนายโหวฯ น้อยที่สุด 14.3% ตัวเลขเหล่านี้ ชี้ชัดว่า แม้นายโหวฯ จะไม่ใช่ผู้สมัครที่ประชาชนอยากเลือกมากนัก แต่อย่างน้อยที่สุดนายโหวฯ ก็เป็นผู้สมัครที่ประชาชนรังเกียจน้อยที่สุด
นอกจากนี้ ในการสำรวจครั้งนี้ ยังพบว่า มีถึง 68.3% เห็นว่า ผู้สมัครฝ่ายค้าน 3 คน ยากที่จะประสบความสำเร็จในการจับมือรวมกันเพื่อโค่นผู้สมัครจากพรรครัฐบาล ส่วนคะแนนนิยมของพรรคการเมืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้สนับสนุนฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้านหรือพรรคประชาชนไต้หวัน 32.6% มีความเห็นว่า นายกัวฯ เป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดในการจับมือร่วมกันระหว่างผู้สมัครของฝ่ายตรงข้ามพรรครัฐบาล รองลงมาได้แก่นายเคอฯ 18.6% นายโหวฯ 14.7% และหาก 3 ผู้สมัครของฝ่ายค้านไม่สามารถจับมือกันได้ ก็พบว่า 56.3% เห็นด้วยว่า รองประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อนอนมา ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน ในต้นปีหน้าอย่างแน่นอน
ส่วนทางด้านหนังสือพิมพ์ China Times สื่อสิ่งพิมพ์ยักษ์ใหญ่ในไต้หวันได้สำรวจคะแนนนิยมของผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีหากมีการจับคู่กันในส่วนของตำแหน่งผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีกับรองประธานาธิบดี โดยการนำเอาผู้สมัครของพรรคก๊กมินตั๋งคือนายโหวโหย่วอี๋ กับนายเคอเหวินเจ๋อ ผู้สมัครของพรรคประชาชนไต้หวัน มาผูกเข้ากันเป็นผู้สมัครประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี ส่วนพรรค DPP ที่เป็นคู่แข่งสำคัญก็จับเอารองประธานาธิบดีไล่ฯ ผู้สมัครของพรรคฯ ที่ยังไม่ได้ประกาศคู่สมัครของตน แต่สมมติว่าสมัครคู่กับนางสาวเซียวเหม่ยฉิน ผู้แทนไต้หวันประจำสหรัฐฯ คนปัจจุบัน ลงคู่กันในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งผลปรากฎว่า คู่ของนายโหวฯ ได้รับความนิยมสูงถึง 38.4% นำโด่งคู่สมมติของรองประธานาธิบดีไล่ฯ ถึง 9% ได้เพียง 29.6% ในขณะที่ยังเหลืออีกกว่า 30% ที่ยังไม่แสดงความคิดเห็นหรือยังกำลังพิจารณา เพราะยังเหลือเวลาอีกกว่า 4 เดือน
นอกจากนี้ หากสลับตัวผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีกับรองประธานาธิบดีเห็น เคอฯ + โหวฯ คะแนนนิยมก็ยังคงนำโด่งคู่แข่งในระดับใกล้เคียงกันด้วย ดังนั้น จึงเห็นได้ว่า หากฝ่ายค้านสามารถจับมือกันได้ โอกาสที่จะเอาชนะผู้สมัครจากพรรครัฐบาลได้ ก็มีอยู่สูงพอสมควร อย่างไรก็ดี ไม่ใช่เรื่องง่ายที่พรรคก๊กมินตั๋งกับพรรค TPP จะจับมือกัน เนื่องจากประเด็นอยู่ที่ว่า ใครจะเป็นประธานาธิบดีใครจะเป็นรองประธานาธิบดี เพราะผลสำรวจดังกล่าว มีความใกล้เคียงกันในระดับอยู่ในค่าเฉลี่ย หมายความว่า หากรวมกันได้ ไม่ว่าจใครจะเป็นเบอร์ 1 ใครจะเป็นเบอร์ 2 ประชาชนก็จะให้การสนับสนุน
นสพ. ฉบับดังกล่าวยังวิเคราะห์ผลการสำรวจนี้ว่า ในกลุ่มคนรุ่นใหม่คู่ของนายโหวฯ ก็นำโด่งคู่แข่งและยิ่งมีการศึกษาสูงขึ้นก็ยิ่งสนับสนุนคู่ของนายโหวฯ มากขึ้นเป็นลำดับ
ส่วนเวลาที่เหมาะสมที่ทั้งสองฝ่ายจะบูรณาการผู้สมัครของตนน่าจะเป็นเดือนหน้า ซึ่งเราต้องติดตามต่อไปเพราะตอนนี้ นายเทอร์รี่ กัว หรือกัวไถหมิง เจ้าของฟอกซ์คอน์น มหาเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของไต้หวันก็เริ่มขยับมากขึ้นโดยตัดสินใจเลือกนางไล่ เพ่ยเสวีย ดาราสาวรุ่นใหญ่ ที่มีชื่อเสียงพอสมควร และยังคุ้นหูคนไต้หวันพอสมควร ผลงานล่าสุดของเธอคือละครทีวีทางสถานีโทรทัศน์เพื่อสาธารณะ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเลือกตั้งด้วย ซึ่งจะลงสมัครในตำแหน่งรองประธานาธิบดีคู่กับนายกัวฯ
รายงานด้านกลาโหมไต้หวัน 2023 ส่วนของภัยคุกคามจากจีนเพิ่มขึ้นเท่าตัว
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงกลาโหม ไต้หวันได้เผยแพร่รายงานกลาโหมประจำปี 2023 ซึ่งมีสาระสำคัญในส่วนของภัยคุกคามจากจีน มีสาระที่น่าสนใจหลายอย่าง แต่ที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษก็คือ ในส่วนที่เกี่ยวกับภัยคุกคามจากจีนมีเนื้อหาเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว จากเดิม 10 หน้า เป็นถึง 19 หน้า และยังได้รายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาคด้วยว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในภูมิภาคกำลังถูกคุกคามจากเรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำของจีน โดยไต้หวันจะเร่งจัดซื้อโดรนในลักษณะจู่โจมจากสหรัฐฯ ให้มากขึ้น ซึ่งได้บรรจุไว้ในงบราชการลับของไต้หวัน