The Reporter เปิดโลกทัศน์ใหม่ให้แก่เยาวชน EP.12
กับดักผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่ บุหรี่ไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อนแตกต่างจากบุหรี่กระดาษจริงหรือไม่ ?
“ถ้าคุณไม่สูบบุหรี่ อย่าเริ่ม, ถ้าคุณสูบบุหรี่ ก็เลิกซะ, ถ้าคุณเลิกไม่ได้ ให้ 'เปลี่ยน' " นี่คือสโลแกนที่ Philip Morris International Inc. (PMI) หนึ่งในผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ที่สุดของโลก โฆษณาในปี 2019 ชักจูงให้คน "เปลี่ยน" นิสัยการสูบบุหรี่ – จากบุหรี่กระดาษเป็น ผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่
บุหรี่ไฟฟ้า (Electronic Cigarette) และผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อน (Heated Tobacco Products) เป็น "ผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่" ซึ่งบรรดาผู้ผลิตบุหรี่รายใหญ่ต่างผลักดันเป็นสินค้าหลัก ส่งผลให้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศต่างๆ อยู่ในช่วงเวลาแห่งความสับสนว่า จะเปิดเสรีหรือควบคุมบุหรี่ไฟฟ้าเหล่านี้ สำหรับไต้หวัน มีการตัดสินใจในเดือนมกราคม 2023 แก้ไขกฎหมายห้ามจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อนจัดเป็นสินค้าควบคุม เราได้จัดทำแผนภูมิอธิบายหลักการของบุหรี่ชนิดใหม่ และวิเคราะห์ว่าทำไมหลักฐานจำนวนมากยังคงชี้ให้เห็นว่าบุหรี่เหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพพอๆ กับบุหรี่ทั่วไป
ข้อมูลจาก kids.twreporter.org (เรื่อง/เจิ้งหันเหวิน, เฉินลี่ถิง, เฉินเจี๋ย ; การออกแบบ/เจิ้งหันเหวิน; ตรวจอนุมัติ/หยางหุ้ยจวิน; บรรณาธิการ/เฉินยุ่นหรู ) แปล : แสงชัย กิตติภูมิวงศ์
ความเสียหายร้ายแรงของปอดที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้า
ในเดือนธันวาคม 2020 มีผู้ป่วยวัยรุ่นรายหนึ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลในเครือของมหาวิทยาลัยแพทย์ซุนยัตเซ็นในไทจง ซึ่งสร้างความปวดหัวให้กับทีมแพทย์ที่ทำการรักษาไม่น้อย
“นักเรียนชายวัย 15 ปี เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการไข้และปอดบวม การตรวจเอกซเรย์พบจุดกระจายในปอด ขณะนั้นทีมแพทย์ที่รักษาคิดว่าเป็นเพียงโรคปอดบวมธรรมดา แต่รักษาอย่างไรก็ไม่ได้ผล" เอี้ยนฉี่หัว (顏啟華) ผู้อำนวยการภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชนและครอบครัว โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแพทย์ซุนยัตเซ็น เล่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา
“เราได้ตรวจหาโรคติดเชื้อ โรคเอดส์ และโรคอื่นๆ ด้วย แต่รักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้นเลย” เอี้ยนฉี่หัวกล่าว ต่อมาเนื่องจากวัยรุ่นมีสภาพจิตใจไม่มั่นคง ทางโรงพยาบาล จึงปรึกษาแผนกจิตเวช และบังเอิญพบว่าวัยรุ่นใช้บุหรี่ไฟฟ้ามานานถึง 4 ปี ซึ่งเท่ากับเริ่มเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก็ได้สูบบุหรี่แล้ว
ทางโรงพยาบาลศึกษาข้อมูลจากเหตุการณ์บุหรี่ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์ไอระเหยที่ทำให้ปอดเสียหาย (Electronic Cigarette or Vaping Product Use Associated Lung Injury, EVALI) ในปี 2019 ในสหรัฐอเมริกา จึงได้ลองใช้การรักษาด้วยสเตียรอยด์ ผลก็คือ วัยรุ่นรายนี้อาการค่อยๆ ดีขึ้น และออกจากโรงพยาบาลได้ภายในเวลาไม่ถึงสองสัปดาห์ กรณีนี้ถือเป็นกรณีแรกของความเสียหายของปอดที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของวงการแพทย์ในไต้หวัน หลังจากนั้น ได้พบกรณีความเสียหายของปอดที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าในไต้หวันเกิดขึ้นมากมาย วงการแพทย์ก็เริ่มให้ความสนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
วิทยานิพนธ์ “บุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยลง” มีข้อกังขา
คำกล่าวที่ว่า "บุหรี่ไฟฟ้าลดอันตรายได้" ถูกเผยแพร่อย่างกว้างขวาง คำกล่าวนี้สามารถย้อนกลับไปถึงปี 2015 กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษรายงานว่าบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์มีอันตรายต่อสุขภาพน้อยกว่าบุหรี่ทั่วไปถึง 95%
แต่หลังจากเผยแพร่รายงานดังกล่าว ก็เกิดความสงสัยจากแพทย์ต่างๆ ในปี 2015 The Lancet ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 วารสารทางการแพทย์ที่สำคัญ ได้ตีพิมพ์บทบรรณาธิการที่ชี้ให้เห็นปัญหา 2 ประการในรายงานนี้:
คำจำกัดความอันตรายต่อสุขภาพของสารแต่ละชนิดไม่มีมาตรฐานที่สอดคล้องกัน ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญให้คำจำกัดความอันตรายของสารต่างกัน มีความแตกต่างกัน
ในการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญไม่มีเกณฑ์มาตรฐานในการเลือกผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งหมายความว่าใช้ผู้เชี่ยวชาญส่วนน้อย ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไม่สามารถเป็นตัวแทนในการประเมินผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่มีการกำหนดมาตรฐานความเป็นอันตราย แต่ก็ได้ทำการสรุปผลออกมา บทความดังกล่าวระบุว่า เป็นการเร่งรีบเกินไปที่หน่วยงานสาธารณสุขของอังกฤษจะยอมรับข้อสรุปนี้ทันที
ที่สำคัญคือ บทบรรณาธิการ "Lancet" ยังเปิดเผยด้วยว่า หนึ่งในผู้เขียนคำแถลงอันตรายลดลงในรายงานเคยทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้า บรรณาธิการตรวจสอบของรายงานได้เพิ่มข้อความในตอนท้ายของรายงาน เนื้อหาอาจมี "ความเกี่ยวข้องผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้น"
ผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่แตกต่างจากบุหรี่ทั่วไปจริงหรือ?
บุหรี่แบบดั้งเดิมเป็นใบยาสูบที่ผ่านกรรมวิธีแล้วห่อด้วยกระดาษ ผู้สูบบุหรี่จุดก้นบุหรี่ เผายาสูบ และสูดควันเข้าไป เมื่อยาสูบถูกเผาที่อุณหภูมิ 600 ถึง 1,000 องศาเซลเซียส จะเกิดสารหลายพันชนิด รวมทั้งน้ำมันดิน(ทาร์)และนิโคตินถือเป็นอันตรายมากที่สุดจากการสูบบุหรี่
ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อน เป็นการนำเอายาสูบที่มีนิโคตินบดละเอียดแล้วปรุงรสชาติอัดเป็นแท่งยาสูบ บรรจุลงในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะไม่จุดไฟยาสูบ แต่จะให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 100 ถึง 350 องศาเซลเซียส เพื่อกระจายนิโคตินและสารปรุงแต่งรสให้ระเหยออกมา บุหรี่ไฟฟ้าใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อควบคุมอุณหภูมิทำให้เกิดไอระเหยประกอบเข้ากับตลับบุหรี่ ซึ่งในตลับบุหรี่ไม่ใส่ยาสูบ แต่มีของเหลวที่ประกอบด้วยนิโคติน กลีเซอรีน โพรพิลีนไกลคอล สารแต่งกลิ่นและรส ฯลฯ
ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อน และ บุหรี่ไฟฟ้า ได้รับการโฆษณาว่าเป็น "ผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่" ที่ควบคุมอุณหภูมิได้และปราศจากน้ำมันดิน หลีกเลี่ยงการสูดดมสารอันตรายที่พบในบุหรี่แบบดั้งเดิมได้ แต่แท้จริงแล้วตลับบุหรี่ไฟฟ้าแบบเติมน้ำมันส่วนใหญ่เป็นระบบเปิดและสามารถเติมสารต่างๆ ได้ง่าย นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเจือปนยาเสพติดที่ปรากฏทั้งในไต้หวันและต่างประเทศอีกด้วย ลักษณะเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงอันตรายจากควันแล้ว แต่ยังกลายเป็นช่องทางให้วัยรุ่นเสพยาอีกด้วย
ข้อกังขา อันตรายจากผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่ลดน้อยลงจริงหรือไม่ - เชิญดูภาพอธิบาย บุหรี่ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อน และ บุหรี่แบบดั้งเดิม
(แหล่งข้อมูล/สำนักงานสุขภาพประชาชน; การรวบรวมข้อมูลและการออกแบบแผนภูมิ/ เจิ้งหันเหวิน)
การทำลายกับดัก
"ผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่ อันตรายน้อยกว่าบุหรี่กระดาษ" นี่คือภาพลักษณ์ที่ผู้ผลิตบุหรี่พยายามสร้างสรรค์ขึ้น บางครั้งถึงกับโฆษณาว่าไม่มีสารนิโคตินและไม่ทำให้เสพติด เน็ตไอดอลยังได้อ้างการทดลองทางวิทยาศาสตร์เพื่อชี้ความแตกต่างระหว่างบุหรี่กระดาษกับบุหรี่ไฟฟ้า สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลที่แท้จริงอย่างครบถ้วน เป็นกับดักให้ผู้คนก้าวเข้าไปสู่อันตรายจากบุหรี่
กับดัก 1: การเสพติดโดยไม่รู้ตัว
“ความเสี่ยงที่จะถูกกระสุนนัดเดียวต่ำกว่าการโดนกระสุน 4 นัดหรือไม่?” ไล่จื้อก้วน(賴志冠) รองผู้อำนวยการฝ่ายเวชศาสตร์ชุมชน โรงพยาบาลเซนต์เมรี่หลัวตง (Luodong St. Mary's Hospital) ซึ่งเกี่ยวข้องกับงานป้องกันอันตรายจากยาสูบมายาวนาน กล่าวว่า ผู้ค้าบุหรี่เปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ระหว่าง บุหรี่กระดาษและบุหรี่ใหม่ โดยชี้แจงว่าความเข้มข้นของอย่างหลังนั้นมีน้อยกว่า แต่เมื่อคำนึงถึงปัจจัยด้านพฤติกรรมแล้ว ความเสี่ยงต่อสุขภาพของผลิตภัณฑ์ยาสูบใหม่กลับสูงกว่า เพราะวัยรุ่นจะคิดว่าความเข้มข้นต่ำ จึงสูบมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้มีแนวโน้มเสพติด และเป็นอันตรายมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น ความกังวลด้านสุขภาพเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าส่วนใหญ่มาจากส่วนประกอบของเหลวที่บรรจุโดยที่เราไม่รู้ เพราะของเหลวเหล่านี้สามารถบรรจุสารต่างๆได้ และมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่สามารถทราบได้ว่ามีสารพิษกี่ชนิดที่ถูกสูดดมเข้าไป
นอกจากนี้บุหรี่ไฟฟ้าหรือผลิตภัณฑ์ยาสูบแบบร้อนยังใช้งานง่าย การนำผลิตภัณฑ์สูบบุหรี่ที่ทันสมัยและแปลกใหม่ใส่ไว้ในกระเป๋าของคุณ และคุณสามารถนำออกมาสูบเมื่อนึกอยากจะสูบ ทำให้คุณสูบมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว และยิ่งมีแนวโน้มเสพติดมากขึ้น
หวงจิ๋วเหม่ย(黃久美) ศต.พิเศษด้านการวิจัยการพยาบาลทางคลินิกของมหาวิทยาลัยหยางหมิง เจียวทง ซึ่งมีส่วนร่วมในการป้องกันการสูบบุหรี่ในวิทยาเขต กล่าวว่า วัยรุ่นจะคิดว่าพวกเขาสามารถเลือกและควบคุมได้ "ฉันไม่สูบบุหรี่ที่โรงเรียน ฉันไม่สูบบุหรี่ที่บ้าน ฉันสูบเฉพาะวันหยุดในช่วงที่ไปเที่ยวกับเพื่อนเท่านั้น” แต่การติดนิโคตินก็เหมือนกับทฤษฎีกบต้มที่อยู่ในหม้อน้ำอุ่นๆ ไม่รู้สึกว่ามีอันตรายอะไร ทั้งๆ ที่ความจริงอุณหภูมิของน้ำนั้นกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนวันหนึ่งน้ำเดือด กบจะกระโดดหนีออกมาก็ไม่ทันการณ์แล้ว ซึ่งการสูบบุหรี่ก็เช่นกัน สุดท้ายควบคุมไม่ได้ เสพติดโดยไม่รู้ตัว แม้จะรู้ว่ามีผลเสีย แต่ก็ยังคงทำซ้ำต่อไปเรื่อยๆ
กับดัก 2: วิดีโอออนไลน์ทำให้เข้าใจผิด
วัยรุ่นมักถูกดึงดูดด้วยวิดีโอออนไลน์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ในวิดีโอมี YouTubers กำลังถือผลิตภัณฑ์บุหรี่ที่ทันสมัยซึ่งดูเหมือนผลิตภัณฑ์ 3C สร้างความรู้สึกสนุกสนาน เมื่อวิดีโอที่น่าสนใจเหล่านี้เผยแพร่ คนที่คลิกเข้าไปดูพุ่งสูงขึ้นทันที
เนื้อหาเหล่านี้ทำให้คนหนุ่มสาวลดความระมัดระวังลง คนที่อัปโหลดวิดีโออาจทำเพียงเพื่อต้องการให้คนคลิกเข้าไปดูเยอะๆ แต่ในความเป็นจริงผลที่ตามมาไม่ใช่แค่ตัวเองเสพติดเท่านั้น แต่ยังอาจดึงดูดผู้อื่นให้ลองใช้แล้วเสพติดอีกด้วย ดังนั้นนักเรียนจึงต้องตรวจสอบข้อมูลผ่านหลายช่องทาง เช่น โรงเรียน แพทย์ อินเทอร์เน็ต ครอบครัว ฯลฯ เพื่อพัฒนาทักษะในการใช้วิจารณญาณ แยกแยะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเพื่อไม่ให้ตกหลุมพราง
กับดัก 3: คุณคือกลุ่มเป้าหมายทางการตลาด
ผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่แตกต่างจากบุหรี่กระดาษ มีความหลากหลายและมีกลิ่นหอม แม้แต่ในวันคริสต์มาส วันวาเลนไทน์ หรือวันฮาโลวีน ก็สามารถมีรสชาติหรือการผสมผสานทางรูปลักษณ์ที่แตกต่างกันได้ โดยเน้นว่าไม่มีผลร้ายเหมือนบุหรี่กระดาษ และจงใจบอกว่า "การจุดไฟสูบบุหรี่เป็นสิ่งล้าสมัย การสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีความทันสมัย"
หลงจือหนิง(龍芝寧) คุณครูโรงเรียนมัธยมต้นจีซุ่ย นิวไทเป ที่ผลักดันการป้องกันอันตรายจากบุหรี่ในโรงเรียนมาเป็นเวลานาน เชื่อว่า ผู้สูบบุหรี่สูงวัยหรือผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ส่วนใหญ่จะไม่หันมาสูบผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่ทดแทน แต่เป้าหมายการตลาดของผลิตภัณฑ์บุหรี่ชนิดใหม่คือกลุ่มเยาวชน
“คุณกำลังตกเป็นเป้าหมายทางการตลาด พวกเขาจงใจวางกับดักเพื่อรอคุณ” หวงจิ่วเหม่ย(黃久美) ศต.พิเศษด้านการวิจัยการพยาบาลทางคลินิกของมหาวิทยาลัยหยางหมิง เจียวทง กล่าวว่า อย่าคิดว่าคุณสามารถเลือกและควบคุมได้ หากคุณเชื่อและเสพติดแล้ว คุณจะถูก“ผูกมัด” และกลายเป็นกับดักของการสูบบุหรี่โดยปริยาย