เชื่อว่านักเรียนไทยในไต้หวันหลายคนคงเคยได้ยินศูนย์แนะแนวการศึกษาไต้หวัน ประจำประเทศไทย และคุ้นเคยกับที่นี่เป็นอย่างดี เพราะที่นี่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำสำหรับการศึกษาต่อในไต้หวัน ก่อนหน้านี้ มีคุณผู้ฟังของเราจำนวนมาก ที่เคยส่งข้อความเข้ามาสอบถาม อยากส่งลูกหลานมาเรียนไต้หวัน ต้องทำอย่างไร มีขั้นตอนอะไรบ้าง วันนี้เรานำคำตอบมาให้คุณในรายการแล้วค่ะ โดยเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา คุณอัญชัน ทรงพุทธิ์ ผู้จัดรายการอาร์ทีไอของเรา ได้เดินทางไปศูนย์แนะแนวการศึกษาไต้หวัน ประจำประเทศไทย และได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณจารุวรรณ จรานุพงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์แนะแนวการศึกษาไต้หวัน ที่จะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์แนะแนวการศึกษาแห่งนี้ ว่ามีภารกิจอะไร ตลาดจนข้อมูลเกี่ยวกับทุนการศึกษาในไต้หวัน รายละเอียดเป็นอย่างไร เราไปฟังพร้อมกันในรายการเลยค่ะ คลิกฟังรายการที่นี่
ภารกิจและหน้าที่หลักของศูนย์การศึกษาไต้หวันประจำประเทศไทย
ศูนย์การศึกษาไต้หวันประจำประเทศไทย ก่อตั้งโดยกระทรวงศึกษาธิการไต้หวัน โดยมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลกยีแห่งชาติผิงตง (國立屏東科技大學) รับหน้าที่ดูแลสาขาประเทศไทย ศูนย์การศึกษาไต้หวันในประเทศไทย มีอยู่ด้วยกัน 4 แห่ง ได้แก่ สำนักงานภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร) ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน สำนักงานภาคเหนือ (จังหวัดเชียงใหม่) ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยแม่โจ้ สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (จังหวัดนครราชสีมา) ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน สำนักงานภาคใต้ (จังหวัดภูเก็ต) ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต
ภารกิจหลักของศูนย์การศึกษาไต้หวัน คือการให้ข้อมูลในด้านการศึกษาต่อในไต้หวัน ในระดับปริญญาและการศึกษาภาษาจีนหลักสูตรระยะสั้น ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ข้อมูลมหาวิทยาลัยต่างๆของไต้หวัน ทั้งในส่วนของการรับสมัครนักศึกษา ขั้นตอนการรับสมัคร ทุนการศึกษาต่างๆ ทำหน้าที่ประสานความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาไทยและไต้หวัน นอกจากนี้ ยังมีการเปิดคอร์สเรียนภาษาจีน และจัดสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน TOCFL (Test of Chinese as a Foreign Language) ของไต้หวัน
อยากไปเรียนต่อไต้หวัน ต้องทำอย่างไรบ้าง?
ผอ.จารุวรรณกล่าวว่า ก่อนอื่น เด็กนักเรียนต้องตัดสินใจก่อนว่าตัวเองอยากเรียนอะไร อยากจะไปเรียนหลักสูตรภาษาจีน หรือภาษาอังกฤษ จะทำให้ค้นหาข้อมูลในการศึกษาต่อได้ง่ายขึ้น ซึ่งมหาวิทยาลัยในไต้หวันเปิดสอนหลักสูตรอินเตอร์ค่อนข้างเยอะ หลังจากนั้น จึงค้นหามหาวิทยลัยที่เปิดในหลักสูตรที่ตนต้องการเรียน เข้าสู่หน้าเว็บไซต์มหาวิทยาลัย ดูรายละเอียดเวลาการเปิดรับสมัครและเอกสารในการสมัคร ดำเนินการสมัครให้เรียบร้อยแล้วรอประกาศผล จากนั้นจึงดำเนินการในส่วนของวีซ่าเป็นลำดับสุดท้ายก่อนเดินทาง
ศูนย์ฯให้คำปรึกษาเรียนต่อไต้หวันครบวงจร
ผอ. เผยว่า นักเรียนที่มีความสนใจจะไปเรียนที่ไต้หวัน แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สามารถติดต่อสอบถามเข้ามายังศูนย์การศึกษาไต้หวัน ซึ่งพร้อมให้คำปรึกษาครบวงจร โดยทางศูนย์ฯจะสอบถามตัวนักเรียนว่า อยากจะไปเรียนคณะไหน แล้วใช้ภาษาอะไรในการเรียน ทางศูนย์ฯก็จะช่วยทำการค้นหามหาวิทยาลัย หากเด็กนักเรียนทำการบ้านมาก่อน รู้แล้วว่าตัวเองอยากจะไปที่ไหน ทางศูนย์ก็จะช่วยในการให้ข้อมูลว่า หน้าเว็บไซต์การเปิดรับสมัครอยู่ตรงไหน เปิดรับสมัครเมื่อไหร่ มีทุนการศึกษาอะไรบ้าง เด็กๆก็จะสามารถเข้าไปดูรายละเอียดหน้านั้น แล้วดำเนินในส่วนเอกสารเอง เนื่องจาก ทางศูนย์ฯ ไม่ใช่หน่วยงานเอเจนซี่ ไม่มีค่าบริการในส่วนของการสมัครเรียน ดังนั้นเด็กๆต้องดำเนินการสมัครด้วยตนเอง แต่สามารถสอบถามข้อมูลกับทางศูนย์ฯตั้งแต่ต้นจนจบ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
ทุนการศึกษาแนะนำมีอะไรบ้าง
ทุนการศึกษาจากกระทรวงศึกษาธิการสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เแบ่งออกเป็นสองแบบ
1.ทุนเรียนภาษาจีนระยะสั้น / Huayu Enrichment Scholarship (HES)
เงินสนับสนุน : 25,000 เหรียญไต้หวัน ผู้ที่ได้รับทุนจะต้องนำเงินส่วนนี้มาบริหารค่าใช้จ่ายต่างๆทั้งหมด
ระยะเวลา : คอร์สเรียนภาษาจีนระยะเวลา 3 เดือน 6 เดือน 9 เดือน 12 เดือน
ช่วงเวลารับทุน : 1 กันยายนปีที่สมัคร ถึง 31 สิงหาคมปีถัดไป
ช่วงเวลาเปิดรับสมัคร : 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 มีนาคมของทุกปี
2. ทุนเรียนระดับปริญญา / MOE Taiwan Scholarship สามารถขอทุนได้ทั้งระดับปริญญาตรี โท เอก ได้ทั้งหลักสูตรภาษาอังกฤษและหลักสูตรภาษาจีน โดยหากยื่นขอทุนในหลักสูตรภาษาจีน จะต้องมีผลสอบ วัดระดับความรู้ภาษาจีน TOCFL ของไต้หวัน
เงินสนับสนุน :
- ค่าเล่าเรียน 40,000 เหรียญไต้หวันต่อภาคการศึกษา
- เงินรายเดือน : ระดับปริญญาตรี เดือนละ 15,000 เหรียญไต้หวัน ระดับปริญญาโทและเอก เดือนละ 20,000 เหรียญไต้หวัน
- ช่วงเวลาเปิดรับสมัคร : 1 กุมภาพันธ์ ถึง 31 มีนาคมของทุกปี
ทุนการศึกษา TaiwanICDF เป็นทุนที่จำกัดหลักสูตรที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนทั้งหมด และจำกัดมหาวิทยาลัย เปิดรับสมัครเฉพาะระดับปริญญาโทและปริญญาเอก
- ช่วงเวลาเปิดรับสมัคร : 1 มกราคม ถึง 15 มีนาคมของทุกปี
- เงินสนับสนุน : ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ค่าเล่าเรียน ค่าหอพัก ค่าประกันสุขภาพ เงินใช้จ่ายรายเดือน
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยในไต้หวันกว่า 140 แห่ง ต่างมีทุนการศึกษาประจำมหาวิทยาลัยของตนที่นักเรียนสามารถสมัครเองได้ แต่ถ้าได้ทุนรัฐบาลและทุนมหาวิทยาลัยพร้อมกัน ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่สามารถรับพร้อมกันได้
คำแนะนำสำหรับนักเรียนที่อยากจะมาเรียนต่อในไต้หวัน
ปัญหาหลักๆที่นักเรียนมักเจอคือผลคะแนนภาษา เพราะบางคนเขาเตรียมภาษาก่อน แล้วค่อยไปสอบ แต่ลืมไปว่าในหลายครั้งเกิดเหตุฉุกเฉิน อย่างเช่น สนามสอบไม่เปิด ทำให้พอถึงเวลาเปิดรับสมัคร ไม่มีคะแนนภาษาไปยื่นสมัคร ดังนั้นจึงแนะนำว่า ให้ลองสอบไปก่อน ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาจีน ให้ลองสอบเพื่อเก็บคะแนนไว้ก่อน เพราะบางคนสอบครั้งแรกอาจจะได้คะแนนตามที่มหาวิทยาลัยต้องการ แต่บางคนถึงแม้จะยังไม่ได้ตามเป้า อย่างน้อยๆก็มีผลคะแนนอยู่ในมือ แล้วค่อยสอบใหม่ในภายหลัง
อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุด นักเรียนทุกคนถามตัวเองก่อนว่าอยากจะเรียนอะไร ต้องการใช้ภาษาอะไรในการเรียน เพราะหลายคนที่เดินเข้ามาสอบถาม บอกแค่ว่าอยากจะไปเรียนไต้หวัน แต่ยังไม่ทราบว่าอยากจะเรียนอะไร ทำให้ทางศูนย์ฯเองก็ให้คำปรึกษาไม่ถูก
ข้อมูลติดต่อ
ศูนย์แนะแนวการศึกษาไต้หวัน ประจำประเทศไทย สำนักงานภาคกลาง (กรุงเทพมหานคร)
ที่อยู่ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาคารวิจัยและพัฒนา ชั้น 3 เลขที่ 50 ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
อีเมล : [email protected], [email protected]
เบอร์โทร : 02-579-1068 Mobile: 063-437-4188
เว็บไซต์ : https://www.tecthailand.com/
facebook : https://www.facebook.com/taiwaneducation.th