:::

กระแสประชาธิปไตย วันจันทร์ที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๖๕

  • 18 April, 2022
กระแสประชาธิปไตย
นาย Brain McKeon (ซ้าย) รมช. กต. สหรัฐฯ พบหารือกับนาย Tedros Adhanom Ghebreyesus เลขาธิการ WHO
กระแสประชาธิปไตย
Lindsey Graham ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณพรรครีพับลิกัน
กระแสประชาธิปไตย
ปธน. ไช่อิงเหวิน กล่าวต้อนรับคณะของสมาชิกรัฐสภา สหรัฐฯ
กระแสประชาธิปไตย
คณะสมาชิกรัฐสภา สหรัฐฯ เยือนไต้หวัน (ถ่ายที่ทำเนียบ ปธน. ไต้หวัน กรุงไทเป)

 ๑. ผู้นำไต้หวันย้ำไต้หวันจะแสดงบทบาทอย่างกระตือรือร้นในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก

      เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะผู้แทนของคณะกรรมาธิการต่างประเทศ วุฒิสภา สหรัฐฯ 5 ท่าน นำโดย Lindsey Graham ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณพรรครีพับลิกัน เยือนไต้หวัน และได้เข้าพบหารือกับประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ณ ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวัน กรุงไทเป ผู้นำไต้หวันได้กล่าวขอบคุณรัฐสภาสหรัฐฯ ที่สนับสนุนไต้หวันโดยไม่มีการแบ่งพรรคการเมือง และหวังว่าไต้หวันจะแสดงบทบาทอย่างกระตือรือร้นในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิก ร่วมมือกับสหรัฐฯ และประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกันรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในอินโดแปซิฟิก และส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างกัน นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้นให้แก่ภูมิภาคและทั่วโลก

      ประธานาธิบดีไช่ฯ ได้กล่าวให้การต้อนรับว่า การเยือนไต้หวันในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นคณะผู้แทนจากทั้งสองสภาแล้ว ยังเป็นสมาชิกรัฐสภาที่มาจากทั้งสองพรรคการเมือง ชี้ชัดว่า ไต้หวันได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่ายในรัฐสภาของสหรัฐฯ จึงต้องขอขอบคุณท่านสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน ณ ที่นี้ที่ให้การสนับสนุนไต้หวัน ผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ ให้รุดหน้า เป็นมิตรแท้ของไต้หวัน

ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำไต้หวันกล่าวต้อนรับคณะสมาชิกรัฐสภา สหรัฐฯ ณ ทำเนียบประธานาธิบดี กรุงไทเป

      ผู้นำไต้หวันระบุอีกว่า Lindsey Graham ใน 20 ปีที่ผ่านมา ได้พยายามกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ สนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างประเทศ ซึ่งมีผลงานมากมาย เป็นพลังสำคัญในรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวัน ส่วนท่าน Robert Menendez ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานร่วมแนวร่วมไต้หวันวุฒิสภา สหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2009 ก็ได้เสนอญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวันหลายญัตติ เสริมความปลอดภัยให้แก่ไต้หวัน ยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับสหรัฐฯ และเป็นมิตรที่เข้มแข็งมั่นคงของไต้หวัน การเยือนไต้หวันในโอกาสครบรอบ 43 ปี ของกฎหมายว่าด้วยความสัมพันธ์ไต้หวันในวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา นับว่ามีความหมายเป็นพิเศษ เชื่อว่าไต้หวันกับสหรัฐฯ จะยังคงเสริมปฏิสัมพันธ์ในทุกมิติระห่วางกัน สร้างผลสำเร็จให้แก่ความร่วมมือระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น

      ประธานาธิบดีไช่ฯ ยังได้กล่าวถึงสงครามรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย ว่า ได้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการสามัคคีกันระหว่างพันธมิตรประชาธิปไตย ร่วมกันปกป้องต่อต้านการคุกคามต่อสันติภาพในภูมิภาคจากประเทศเผด็จการ ในหลายปีที่ผ่านมา ไต้หวันกับสหรัฐฯ ได้อาศัยกรอบความร่วมมือและการฝึกอบรมทั่วโลก หรือ GCTF และกลไกการหารือระบอบประชาธิปไตยในอินโดแปซิฟิก ร่วมกันผลักดันประชาธิปไตยในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก การปกครองด้วยความเป็นมิตรและคุณค่าแห่งสิทธิมนุษยชน หวังว่า ไต้หวันจะแสดงบทบาทที่กระตือรือร้นมากยิ่งขึ้น ร่วมกันผลักดันความเจริญรุ่งเรืองและสันติภาพในอินโดแปซิฟิก

      ผู้นำไต้หวันระบุว่า “ที่ผ่านมาไต้หวันเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งของสหรัฐฯ ในอินโดแปซิฟิกมาโดยตลอด ไต้หวันหวังว่าจะสามารถแสดงบทบาทที่กระตือรือมากยิ่งขึ้นในยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกใหม่ ร่วมมือกับสหรัฐฯ และประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกันรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในอินโดแปซิฟิก นอกจากนี้ ไต้หวันก็ยังหวังว่าจะร่วมมือส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าในอินโดแปซิฟิก นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น”

     คณะนี้ยังประกอบไปด้วย ริชาร์ด เบอรร์ สมาชิกคณะกรรมาธิการสาธารณสุข การศึกษา แรงงาน และระบบเงินบำนาญ วุฒิสภา  นาย โรเบิร์ต พอร์ตแมน สมาชิกคณะกรรมาธิการว่าด้วยความปลอดภัยมาตุภูมิ นายเบน ซาสส์ วุฒิสมาชิก และนายรอนนี่ แจ็คสัน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของสหรัฐฯ รวม 6 ท่าน คณะผู้แทนสหรัฐฯ ซึ่งได้เสร็จสิ้นการเยือนไต้หวันเดินทางออกจากไต้หวันเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา

Lindsey Graham ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณพรรครีพับลิกัน

     ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่านาง Nancy Pelosi มีกำหนดการเยือนเอเชียและไต้หวัน แต่เนื่องจากถูกตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด19 จนต้องเลื่อนกำหนดการดังกล่าวออกไป แต่เมื่อสองวันได้ประกาศยกเลิกการกักตัวแล้ว ทำให้ผู้คนให้ความสนใจว่า นาง Nancy Pelosi จะเยือนไต้หวันหรือไม่ ซึ่งนายอู๋จาวเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ย้ำว่า การเชิญบุคคลสำคัญต่างชาติเยือนไต้หวันเป็นภารกิจสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานไต้หวันประจำสหรัฐฯและประจำประเทศต่าง ๆ ตลอดจนสถานเอกอัครราชทูตไต้หวันประจำประเทศต่าง ๆ แต่เขาก็ย้ำอีกว่า “หากทุกอย่างยังไม่ลงตัว หรือยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะมีการเปิดเผยต่อภายนอกเมื่อใด ตอนนี้ กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน จึงยังไม่มีอะไรที่จะชี้แจงในตอนนี้

       

๒. สหรัฐฯ เคลื่อนไหวสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างประเทศ

      ประเด็นกี่ยวกับการขอเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่องค์การอนามัยโลก หรือ ซึ่งจนถึงขณะนี้ไต้หวันยังไม่ได้หนังสือรับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมในปีนี้ที่จะมีขึ้นในช่วงกลางเดือน พ.ค. ศกนี้ ซึ่งนายอู๋ฯ ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ กำลังพยายามในทุกวิถีทาง และยังไม่หมดหวังในเรื่องนี้

      เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นาย Brain McKeon รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐฯ​ได้เข้าพบ Tedros Adhanom Ghebreyesus เลขาธิการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ปรึกษาหารือเกี่ยวกับการปฏิรูปองค์การอนามัยโลก และเขายังได้เรียกร้องต่อเลขาธิการองค์การอนามัยโลกควรให้ไต้หวันเข้าร่วมการประชุม WHAในฐานะสังเกตการณ์

      คุณเซียวอิ่นฟัง รองอธิบดีกรมองค์การ กระทรวงการต่างประเทศ ไต้หวัน สาธารณรัฐจีน ได้ตอบข้อซักถามของคณะกรรมาธิการต่างประเทศและกลาโหม สภานิติบัญญัติไต้หวันย้ำว่า เนื่องจากการพบหารือดังกล่าว เป็นการพบปะแบบทวิภาคี ฝ่ายสหรัฐฯ มิได้เปิดเผยว่า นายเทดรอส แสดงท่าทีในเรื่องนี้อย่างไร แต่สหรัฐฯ จะพยายามใช้วิธีการอย่างไรในการช่วยเหลือให้ไต้หวันได้เข้าร่วมการประชุม WHA ควรให้ฝ่ายสหรัฐฯ เป็นผู้ชี้แจงจะเหมาะสมกว่า

      ด้านนายอู๋ฯ​ระบุว่า การผลักดันให้ไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมองค์กรระหว่างประเทศ ไต้หวันจะร่วมมือกับสหรัฐฯ​และประเทศที่มีอุดมการณ์ใกล้เคียงกันต่อไป ไต้หวันกับสหรัฐฯ​มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันเป็นประจำ ร่วมกันหาวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อช่วงชิงโอกาสอย่างกระตือรือร้น

       การประชุมสมัชชาใหญ่องค์การอนามัยโลก ครั้งที่ 75 ปีนี้ มีกำหนดการจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 22-28 พ.ค. 2565 ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งไต้หวันเคยได้รับเชิญให้เข้าร่วมในฐานะสังเกตการณ์ระหว่างปี 2009-2016 ติดต่อกัน 8 ปี แต่เนื่องจากการกดดันจากจีน ทำให้ไต้หวันไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวติดต่อกัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2017 จนถึงปัจจุบัน

นาย Brain McKeon (ซ้าย) รมช. กต. สหรัฐฯ​ พบหารือกับนาย Tedros Adhanom Ghebreyesus เลขาธิการ WHO

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง