๑. ไต้หวันลุยปราบซื้อเสียงช่วงก่อนเลือกตั้งท้องถิ่น 26 พ.ย.
การเลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการของไต้หวัน งวดเข้ามาทุกขณะ ซึ่งกำหนดจัดการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งพร้อมกับการลงประชามติในวันที่ 26 พ.ย. นี้ นายกรัฐมนตรีซูเจินชัง ได้ระบุเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่า รัฐบาลทุกหน่วยงานจะต้องทุ่มเทให้กับการรักษาความปลอดภัยและตรวจจับการซื้อเสียงอย่างเข้มงวด ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ได้ตรวจจับการซื้อเสียงแล้วถึง 63 คดี ขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเข้มข้น รวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพิ่มสัดส่วนของการส่งฟ้อง นอกจากนี้ กรณีการทลายแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋นกักขังหน่วงเหนี่ยวและทรมาน ที่จับได้ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจะปราบปรามอย่างเข้มข้นถึงที่สุด กวาดล้างให้สิ้นซาก
นายกรัฐมนตรีซูเจินชาง เป็นประธานการประชุมว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยครั้งที่ 5 ประจำปี 2565 ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติและกระทรวงยุติธรรมไต้หวันได้รายงานเกี่ยวกับการปราบปรามความรุนแรงของการซื้อเสียงและการรักษาความปลอดภัยในสังคมในช่วงการเลือกตั้งท้องถิ่น 2565
นายกฯ ซูฯ ได้กล่าวเปิดการประชุมว่า การเลือกตั้งท้องถิ่น 9 รายการในปลายปีนี้จะจัดให้มีขึ้นพร้อมกันกับการลงประชามติรับรองการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย เป็นการเลือกตั้งหลายอย่างพร้อมกัน แถมด้วยการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญลดอายุสิทธิพลเมืองจากเดิม 20 ปี เป็น 18 ปี มีหน่วยเลือกตั้งทั้งสิ้น 17,600 หน่วย มากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ทำให้การจัดการเลือกตั้งและการรักษาความปลอดภัยมีความยากลำบากมากขึ้น จึงต้องขอให้ทุกหน่วยงานทำหน้าที่ของตนให้ดีอย่างเต็มที่ และรับมืออย่างระมัดระวังด้วยความรอบคอบ
เขาระบุอีกว่า ปัจจุบันการเลือกตั้งกับสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ต่างจากในอดีตไม่น้อย ในอดีตเงินหรือความรุนแรงจะส่งผลต่อการเลือกตั้งค่อนข้างมาก และเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น ตอนนี้ ยังรวมถึงการทำสงครามข่าวสาร และการแทรกแซงทางการเงินจากต่างชาติที่จะเข้าแทรกแซงการเลือกตั้ง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ จะต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัย ตรวจจับการซื้อเสียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจจับ “การซื้อเสียง การพนัน การแทรกแซงจากภายนอก ข่าวปลอม และความปลอดภัยในสังคม”
สำหรับในแง่ของการตรวจจับการซื้อเสียง นายกฯ ซูฯ ระบุว่า การตรวจจับการซื้อเสียงเป็นการโฆษณาประชาสัมพันธ์การต่อต้านการซื้อเสียงที่ดีที่สุด ตอนนี้ได้มีการส่งฟ้องศาลแล้ว 63 คดี ซึ่งต้องขอให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจจับอย่างเข้มงวด เสริมการเก็บรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อเสริมสัดส่วนการส่งฟ้องให้สูงขึ้น นอกจากนี้ การตรวจจับคดีการพนัน 3 ระลอกที่ผ่านมา ตรวจจับได้แล้วกว่า 1100 คดี ยึดของกลางเป็นเงินพนันได้มากกว่า 100 ล้านเหรียญไต้หวัน
นรม. ซูเจินชัง (สวมหน้ากากสีชมพู)
สำหรับในส่วนของการแทรกแซงด้วยเงินทุนจากภายนอก นายกฯ ซูฯ ระบุว่า อัยการระดับสูง ไต้หวันได้ตรวจจับการโอนเงินใต้ดินอายัดเงินของกลางได้ถึง 500 ล้านเหรียญไต้หวัน จากยอดเงินที่ตรวจพบว่าเป็นการฟอกเงินรวมมากกว่า 3.9 แสนล้าน นับว่าประสบผลสำเร็จอย่างดีเยี่ยม แต่ก็ยังคงต้องเสริมความระมัดระวังให้สูง
นอกจากนี้ เกี่ยวกับกรณีที่ในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อยได้บุกทลายแก๊งหลอกลวงต้มตุ๋นจับเหยื่อไปทรมานนั้น นายกรัฐมนตรีซูเจินชางก็ระบุว่า ไต้หวันไม่ใช่กัมพูชา หากมีใครบังอาจมาทำผิดกฎหมายในไต้หวัน รัฐบาลจะปราบปรามให้สิ้นซาก กำจัดอย่างถอนรากถอนโคน ซึ่งต้องขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สืบสวนสอบสวนจนสามารถสืบจนถึงต้นตอ ทลายแก๊งดังกล่าวได้ และชี้แจงต่อว่า เมื่อประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้วก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสืบสวนปราบปรามแก๊งผิดกฎหมายเหล่านี้อย่างถึงที่สุด และต้องให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและอัยการทุกระดับต้องเร่งร่วมมือสืบสวนหาหลักฐานจับผู้ทำผิดกฎหมายมาลงโทษให้ได้
ส่วนกรณีที่นายเจี่ยงว่านอัน ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการกรุงไทเป ได้ประกาศลาออกจากการเป็น ส.ส. เพื่อทุ่มเทเวลาให้แก่การหาเสียงที่ยังเหลือเพียงสิบกว่าวันนี้ จะส่งผลให้ผู้สมัครรายอื่นที่มีตำแหน่ง ส.ส. ลาออกตามหรือไม่นั้น นายหลินสีเย่า เลขาธิการพรรคดีพีพี ประกาศชัดว่า การลาออกจากการเป็น ส.ส. เป็นเพียงกลยุทธ์การหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น ซึ่งควรใช้วิธีการเสนอแนวนโยบายโดนใจประชาชนมาหาเสียงเลือกตั้งจะดีกว่า ดังนั้น ในส่วนของ ส.ส. พรรคดีพีพีที่ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าการเมืองต่าง ๆ จำนวน 7 คน จะไม่มีการลาออกตามกระแส แต่จะรับใช้บริการประชาชนตามภาระหน้าที่ของ ส.ส. อย่างเต็มที่ต่อไป
นายหลินสีเย่า เลขาธิการพรรค DPP
๒. สโลวักหนุนไต้หวันเข้าร่วม UNFCC
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ไต้หวันจะไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมประจำปี ครั้งที่ 27 ของกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC)หรือ COP27 ในฐานะสังเกตการณ์ก็ตาม แต่ก็มีหลายประเทศส่งเสียงสนับสนุนไต้หวันมากขึ้นเป็นลำดับ โดยคณะกรรมาธิการต่างประเทศ ของสโลวักได้มีมติสนับสนุนไต้หวัน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ไต้หวัน ระบุว่า การประชุม COP27 ซึ่งกำลังประชุมกันที่อิยิปต์ในตอนนี้ รัฐสภาสโลวักได้อาศัยปฏิบัติการที่เป็นรูปธรรมสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมกิจกรรมระหว่างประเทศอีกครั้ง ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ไต้หวัน ขอแสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาสโลวักจากใจ
มติของคณะกรรมาธิการต่างประเทศ รัฐสภาสโลวักระบุว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความเด็ดเดี่ยวและความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ป้องกันมิให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงธรรมชาติขึ้น นอกจากจะเห็นพ้องกับการประกาศรับมือกับสภาพความเปลี่ยนแปลงอากาศของรัฐบาลไต้หวันที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้เหลือ ศูนย์ ภายในปี 2050 แล้ว ยังเข้าใจดีถึงการที่ไต้หวันไม่มีโอกาสได้เข้าร่วมเพื่อแบ่งปันประสบการณ์กับนานประเทศ ดังนั้น คณะกรรมาธิการจีงมีมติสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อการเข้าร่วม UNFCCC อย่างมีความหมายและสอดคล้องกับความเป็นจริง
๓. ผู้นำฝรั่งเศสประกาศรายงานยุทธศาสตร์ชาติห่วงใยสถานการณ์ช่องแคบไต้หวัน กต. ไต้หวันย้ำปกป้องอธิปไตยไม่ยอมถอย
ประธานาธิบดีแอมานุแอล ฌ็อง-มีแชล เฟรเดริก มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ได้ประกาศรายงานยุทธศาสตร์ล่าสุดของฝรั่งเศส โดยระบุให้รัสเซียและจีนเป็นคู่ต่อกรสำคัญของตน และยังได้ระบุแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์บนช่องแคบไต้หวันด้วย นางโอวเจียงอัน โฆษก กต. ไต้หวัน ระบุว่า ฝรั่งเศสได้อาศัยรายงานยุทธศาสตร์ชาติของตนตอกย้ำความห่วงใยที่มีต่อสถานการณ์บนช่องแคบไต้หวัน แสดงจุดยืนอย่างแรงกล้าต่อความเป็นมิตรที่มีต่อไต้หวันของฝรั่งเศส โดยไต้หวันจะไม่มีวันยอมถอยด้วยความหวาดกลัว แต่จะยิ่งมีความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ต่อการปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมทั้งเรียกร้องให้หุ้นส่วนประชาธิปไตยทั่วโลกร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับการต่อต้านการขยายอิทธิพลและการรุกรานของกลุ่มทางการลัทธิอำนาจนิยม
