close
Rti Thaiดาวน์โหลด Rti App
Open
:::

กระแสประชาธิปไตย วันจันทร์ที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๖

  • 30 October, 2023
กระแสประชาธิปไตย
กระแสประชาธิปไตย
กระแสประชาธิปไตย

ไต้หวันพร้อมรับมือเฟกนิวส์ช่วงเลือกตั้ง 2024

            ไต้หวันจะจัดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน สมัยที่ 16 ในวันที่ 13 ม.ค. ปีหน้า ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไต้หวัน ได้เตรียมการรักษาความปลอดภัยและป้องกันการซื้อเสียง รวมทั้งปัญหาการปล่อยข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ด้วย ซึ่งได้เปิดตัว “กองบัญชาการร่วมรักษาความสงบในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง” เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นายหลินโย่วชาง รมว.มหาดไทย ไต้หวัน ระบุว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีและ ส.ส. ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของไต้หวัน การตรวจจับ ปราบปรามการแทรกแซงจากต่างประเทศ และการปล่อยข่าวปลอม เป็นเป้าหมายสำคัญของการรักษาความสงบในช่วงหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งเขาได้ให้โอวาทแก่เจ้าหน้าที่ให้ร่วมกันทำหน้าที่รักษาความสงบให้การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม รวมทั้งรักษาความสงบและความมั่นคงหลังการเลือกตั้งด้วย 

           จนถึงขณะนี้ เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 เดือน ก็จะถึงวันเลือกตั้งครั้งสำคัญของไต้หวัน คือการเลือกตั้งประธานาธิบดี 2024 สำนักงานตำรวจแห่งชาติไต้หวันจึงได้จัดตั้ง “กองบัญชาการร่วมรักษาความสงบการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยที่ 16 และสมาชิกสภานิติบัญญัติสมัยที่ 11” ขึ้น 

           รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไต้หวัน ระบุว่า “เมื่อมีการจัดตั้งกองบัญชาการร่วมฯ ขึ้นแล้ว ก็หมายความว่างานการรักษาความสงบเรียบร้อยในช่วงการเลือกตั้งได้ก้าวสู่ขั้นตอนใหม่แล้ว การเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาประชาธิปไตยของไต้หวันเป็นอย่างยิ่ง และได้ย้ำว่า จะต้องสกัดการแทรกแซงจากภายนอกให้ได้ 100% ทั้งทางด้านการใช้เงิน การปล่อยข่าวปลอมหรือเฟกนิวส์ ที่จะกระทบต่อการเลือกตั้ง ต้องตรวจจับการซื้อเสียงอย่างเข้มงวด รวมทั้งการสกัดการพนัน ป้องกันการใช้ความรุนแรง รักษาความสงบเรียบร้อยเพื่อความมั่นคงในสังคม 

          นายหลินโย้วชาง รมว. มหาดไทย ไต้หวัน ระบุว่า “งานสำคัญของพวกเราก็คือการป้องกันข่าวปลอมและการแทรกแซงจากต่างประเทศ เป็นเป้าหมายสำคัญของการรักษาความสงบในช่วงเลือกตั้ง เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปโดยเรียบร้อยให้การเลือกตั้งเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม เปิดเผย โปร่งใส เลือกผู้มีความรู้ความสามารถมาบริหารชาติบ้านเมือง และเลือก ส.ส. ที่มีคุณภาพใช้อำนาจแทนประชาชน”

นายหลินโย้วชาง (ที่  3 จากซ้าย) รมว. มหาดไทย เปิดป้ายกองบัญชาการร่วมรักษาความสงบในช่วงเลือกตั้ง  

 กกต. ไต้หวันย้ำการสำรวจทางออนไลน์ก็เป็นโพลอย่างหนึ่ง ต้องระวังอย่าทำผิดกฎหมาย

          ในช่วงการเลือกตั้งสื่อต่างๆ  ในไต้หวันนิยมสำรวจคะแนนนิยมของผู้สมัครและพรรคการเมืองต่าง ๆ ทางออนไลน์ ซึ่งทำให้มีผู้ตั้งคำถามว่า การสำรวจในระบบออนไลน์ถือเป็นโพลที่อยู่ในกรอบของกฎหมายการเลือกตั้งด้วยหรือไม่ ซึ่งคณะกรรมการการเลือกตั้งกลาง ไต้หวัน ได้ให้คำตอบอย่างชัดแจ้งว่า “ไม่ว่าจะเป็นการสำรวจที่เดินไปตามท้องถนนหรือการสำรวจออนไลน์ แล้วนำมาเปิดเผย ล้วนเป็นการเปิดเผยโพลตามที่กฎหมายเลือกตั้งได้กำหนดไว้ การประกาศหรือการเปิดเผยเป็นรายงานข่าว ต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการทำผิดกฎหมาย 

          กกต. ไต้หวันระบุว่า มาตรา 52 กฎหมายว่าด้ายการเลือกตั้งและถอดถอนประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี กับมาตรา 53 กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งผู้แทน ระบุไว้ชัดว่า พรรคการเมืองและบุคคลใด ๆ จะประกาศรายงานผลการสำรวจคะแนนนิยมหรือโพลของผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่ได้ในช่วงก่อนการลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง 10 วัน และการประกาศผลการสำรวจคะแนนนิยมในช่วงก่อนหน้านี้ก็จะต้องระบุหน่วยงานที่จัดทำผลการสำรวจด้วย เวลาการจัดทำ การสุ่มตัวอย่าง จำนวนผู้ถูกสำรวจ ความคลาดเคลื่อนและแหล่งที่มาของเงินทุนในการจัดทำการสำรวจ ผลสำรวจที่ไม่มีการระบุรายละเอียดเหล่านี้ ห้ามเปิดเผยหรือรายงาน ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับ 1 แสนเหรียญไต้หวันขึ้นไป แต่ไม่เกิน 1 ล้านเหรียญไต้หวัน หากได้รับการว่าจ้างจากพรรคการเมือง ผู้สมัคร หรือผู้รับมอบหมายละเมิดกฎหมายนี้จะมีโทษปรับ 2 แสน - 2 ล้านเหรียญไต้หวัน 

         กกต. ไต้หวันระบุว่า กฎหมายเลือกตั้งที่มีการวางกรอบปฏิบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งก็เพื่อหลีกเลี่ยงมิให้มีการใช้ผลการสำรวจปลอมหรือแต่งขึ้นมาก่อกวนทำให้การเลือกตั้งบิดเบี้ยวหรือให้ผลการเลือกตั้งเป็นไปตามที่ตนต้องการ

4 แคนดิเดท เลือกตั้ง ปธน. ไต้หวัน 2024 

 

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง