เชิญร่วมตอบแบบสำรวจความคิดเห็นจากการรับฟัง Rti Podcast ลุ้นรับของรางวัลพิเศษ !
กรอกแบบสอบถามได้ที่:https://2023appsurvey.rti.org.tw/th
KMT+TPP จับมือกันแน่แต่ยังไม่ลงตัว เจรจาต่อก่อนหมดเขตสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีไต้หวัน 2024
เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา สองพรรคฝ่ายค้านได้ประกาศผลการประเมินของ 3 ผู้เชี่ยวชาญในการทำโพล จากผลการสำรวจทั้งหมด 9 ชุด ตัวแทนของพรรค TPP เห็นว่า มีอยู่ 3 ชุดที่มีปัญหาควรตัดทิ้ง ส่วนตัวแทนของพรรค KMT บอกว่า 3 ชุดนั้น ไม่มีปัญหา ควรนับรวมกับโพลอื่น ๆ ด้วย สองพรรคจึงยังตกลงกันไม่ได้ในเรื่องนี้
จากการประเมินผลสำรวจที่เหลืออีก 6 ชุด โดยพิจารณาค่าคลาดเคลื่อนตามสถิติแล้ว คู่สมัคร "โหว+เคอ" กับ "เคอ+โหว" อยู่ที่ 5 ต่อ 1
ตัวแทนพรรค TPP เห็นว่า การพิจารณาควรยึดจุดยืนของนายเคอฯ ที่ให้มีความคลาดเคลื่อน 3% (สุ่มตัวอย่าง 1068 ชุด ความน่าเชื่อถือ 95% คลาดเคลื่อน 3%) ซึ่งจะได้ตัวเลข 3 ต่อ 3
ตัวแทนพรรค TPP เห็นว่า ข้อ 3 ของข้อตกลงของ 2 พรรค ยังคงมีการตีความที่แตกต่างกัน เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ใน 2 ข้อข้างต้น จึงเสนอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน แล้วค่อยนัดหมายกันอีกครั้ง
ส่วนเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา ตัวแทนจากพรรคก๊กมินตั๋ง นายจูลี่หลุน หัวหน้าพรรค KMT นายเคอเหวินเจ๋อ หัวหน้าพรรค TPP และนายโหวโหย่วอี๋ ผู้สมัครของพรรค KMT เปิดการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ โดยมีอดีตประธานาธิบดีหม่าอิงจิ่ว เป็นสักขีพยาน ซึ่งในที่สุดก็สามารถตกลงวิธีการตัดสินคู่สมัครของทั้งสองพรรคว่าใครจะอยู่ในตำแหน่งประธานาธิบดีใครอยู่ในตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งได้ประกาศผลเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาโดยมูลนิธิหม่าอิงจิ่ว
ผลเป็นประการใดติดตามได้ในช่วงท้ายของกระแสประชาธิปไตยนะครับ ส่วนวิธิการตัดสินดังกล่าวได้ตกลงกันประกอบไปด้วย อดีต ปธน. หม่าฯ พรรค KMT และพรรค TPP เสนอผู้เชี่ยวชาญด้านโพลคนละ 1 คน มอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญดำเนินการประเมินผลสำรวจของฝ่ายต่าง ๆ และของพรรค KMT และพรรค TPP พรรคละ 1 ฉบับ ที่จัดทำสำรวจระหว่างวันที่ 7-17 พ.ย. 2566 ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบว่า หากผลการสำรวจมีความแตกต่างกันเกินกว่าความคลาดเคลื่อนทางสถิติ ให้ฝ่ายชนะได้ 1 คะแนน หากยังมีความแตกต่างกันไม่เกินระดับความคลาดเคลื่อนในทางสถิติ ให้คู่สมัคร โหว+เคอฯ ได้ 1 คะแนน มอบหมายให้มูลนิธิหม่าอิงจิ่ว เป็นผู้ประกาศผลในตอนเช้าของวันที่ 18 พ.ย. 2566 เมื่อน้ำเงินกับขาวจับมือกันแล้ว ทั้งสองพรรคจะร่วมกันจัดตั้ง คกก. หาเสียงเลือกตั้งร่วม เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ปธน. และรอง ปธน. รวามทั้งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของทั้งสองพรรคร่วมกัน ส่วนบัญชีรายชื่อก็ให้แต่ละพรรคหาเสียงกันเอง และภายใต้การเป็นสักขีพยานของอดีต ปธน. หม่าฯ พรรค KMT และ TPP ต่างให้คำมั่นว่า เพื่อสร้างแบบอย่างให้แก่การปฏิรูป ปชต. ระลอก 3 ของไต้หวัน จำเป็นต้องจัดตั้งรัฐบาลผสม ยกเว้นด้านกลาโหม การต่างประเทศและช่องแคบไต้หวันให้เป็นอำนาจการตัดสินใจของ ปธน. ส่วนตำแหน่งอื่น ๆ ใน ครม. ให้เป็นไปตามสัดส่วน ส.ส. ของแต่ละพรรค โดยพรรค TPP รับผิดชอบด้านการตรวจสอบ ส่วนพรรค KMT รับผิดชอบด้านการพัฒนา
KMT+TPP ประสานมือกันก่อนเจรจาบรรลุข้อตกลงในเบื้องต้น แต่ยังไม่ถึงเส้นชัย
สองพรรคยังตกลงกันไม่ได้ สองฝ่ายขอต่อเวลาในการพิจารณาออกไปก่อน
ผลการประเมินของ 3 ผู้เชี่ยวชาญในการทำโพล จากผลการสำรวจทั้งหมด 9 ชุด ตัวแทนของพรรค TPP เห็นว่า มีอยู่ 3 ชุดที่มีปัญหาควรตัดทิ้ง ส่วนตัวแทนของพรรค KMT บอกว่า 3 ชุดนั้น ไม่มีปัญหา ควรนับรวมกับโพลอื่น ๆ ด้วย สองพรรคจึงยังตกลงกันไม่ได้ในเรื่องนี้
จากการประเมินผลฃสำรวจที่เหลืออีก 6 ชุด โดยพิจารณาค่าคลาดเคลื่อนตามสถิติแล้ว คู่สมัคร "โหว+เคอ" กับ "เคอ+โหว" อยู่ที่ 5 ต่อ 1
ตัวแทนพรรค TPP เห็นว่า การพิจารณาควรยึดจุดยืนของนายเคอฯ ที่ให้มีความคลาดเคลื่อน 3% (สุ่มตัวอย่าง 1068 ชุด ความน่าเชื่อถือ 95% คลาดเคลื่อน 3%) ซึ่งจะได้ตัวเลข 3 ต่อ 3
ตัวแทนพรรค TPP เห็นว่า ข้อ 3 ของข้อตกลงของ 2 พรรค ยังคงมีการตีความที่แตกต่างกัน เนื่องจากยังไม่สามารถตกลงกันได้ใน 2 ข้อข้างต้น จึงเสนอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน แล้วค่อยนัดหมายกันอีกครั้ง
นายเคอเหวินเจ๋อ (กลาง) กุมขมับในการแถลงข่าว หลังไม่สามารถตกลงกับ KMTได้
เชิญร่วมตอบแบบสำรวจความคิดเห็นจากการรับฟัง Rti Podcast ลุ้นรับของรางวัลพิเศษ !
กรอกแบบสอบถามได้ที่:https://2023appsurvey.rti.org.tw/th