เมื่อ AI กลายเป็นโค้ชคู่ใจ ทีมเล็กก็เติบโตแบบก้าวกระโดด
อู๋เอินต๋า (Andrew Ng) ผู้ได้รับฉายา "บิดาแห่ง Google Brain" ได้เข้าร่วมงาน AI EXPO ซึ่งเป็นงานประชุมด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ใหญ่ที่สุดในไต้หวัน โดยกล่าวว่า ด้วยความช่วยเหลือของ AI การเรียนรู้สามารถกลายเป็นกระบวนการที่ดำเนินต่อไปตลอดชีวิต ผู้คนทั่วไปสามารถใช้โมเดล AI ที่พัฒนาโดยบริษัทขนาดใหญ่เพื่อสร้างแอปพลิเคชัน AI ได้ง่ายขึ้น และแม้แต่ทีมขนาดเล็กก็สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อู๋เอินต๋าเริ่มต้นโครงการวิจัย Google Brain ในปี 2011 โดยใช้เทคโนโลยีการเรียนรู้เชิงลึก (Deep Learning) เพื่อปฏิวัติระบบ AI ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้าน AI นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มการเรียนการสอนด้าน AI DeepLearning.AI
ระหว่างการสนทนากับ ศ.หูเสี่ยวเหว่ย(胡筱薇) รองศาสตราจารย์จากคณะวิทยาการคำนวณอัจฉริยะและสารสนเทศควอนตัม มหาวิทยาลัยจงหยวน อู๋เอินต๋าได้กล่าวว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตการทำงานของเขาเกี่ยวกับ AI เนื่องจากขณะนี้บริษัทขนาดใหญ่ได้ให้บริการเครื่องมือที่หลากหลาย ทำให้ทุกคนสามารถพัฒนาแอปพลิเคชัน AI ได้ง่ายกว่าที่เคย
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยการเปิดตัวของโมเดล AI แบบโอเพนซอร์ส เช่น Llama เป็นต้น ได้เปลี่ยนแปลงวิธีการพัฒนา AI อย่างสิ้นเชิง เนื่องจากโมเดลโอเพนซอร์สเหล่านี้สามารถเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตให้ทุกคนใช้ได้ฟรี และด้วยพลังของ AI แม้แต่ทีมขนาดเล็กก็สามารถเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อู๋เอินต๋ายังเน้นว่า สำหรับพนักงานที่ต้องการเรียนรู้ทักษะด้าน AI การลงมือทำโปรเจกต์จริงเป็นสิ่งสำคัญมาก ในปัจจุบัน องค์กรสามารถสร้างต้นแบบ (Prototype) ของไอเดียต่าง ๆ ได้เร็วขึ้นมาก โดยระยะเวลาในการพัฒนาจากเดิมที่ใช้เวลาหลายเดือนลดลงเหลือเพียงไม่กี่วัน
อู๋เอินต๋ายังกล่าวด้วยว่าการเรียนรู้ AI ควรมุ่งเน้นไปที่การฝึกฝนทักษะเชิงปฏิบัติและการแก้ปัญหา โดยเครื่องมืออย่างแชตบอทสามารถช่วยนักเรียนลดอุปสรรคในการเรียนรู้ นอกจากนี้ องค์กรยังควรส่งเสริมให้ผู้บริหารระดับสูงเรียนรู้เกี่ยวกับ AI เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในองค์กร
ไต้หวันไฮเทค วันอังคารที่ 8 เม.ย.2568
- 08 April, 2025