RTI Radio Taiwan International 
RTI Radio Taiwan International 
๑. สื่อดังต่างชาติฟันธง TSMC ไต้หวันทิ้งคู่แข่งไม่เห็นฝุ่น แม้คู่แข่งจะดิ้นสุดฤทธิ์
สัปดาห์ที่ผ่านมา ไต้หวันซิคอนดักเตอร์ หรือ TSMC ไต้หวัน ได้จัดการแถลงข่าวแผนงานบริหารประจำปี 2022 โดยวางแผนทุ่มงบประมาณ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ วิจัยพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ โดย Tim Culpan คอลัมนิสต์ชื่อดังของบูมเบิร์ก สื่อดังระดับโลก ได้วิเคราะห์ผ่านบทความของตนฟันธงว่า TSMC มีทั้งเทคนิคและเงินทุนมหาศาล จึงขอเตือนคู่แข่งว่า “ต้องระวังตัวให้ดี” เพราะ TSMC กำลังก้าวไปตามกระแสลม แถมในมือยังมีเช็คจำนวนมหาศาล เพราะฉะนั้น จึงได้แต่เพียงคำอวยพรให้แก่คู่แข่งที่ยังรู้สึกว่าจะวิ่งตามทัน TSMC ขอให้โชคดี
เมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา TSMC ได้แถลงแผนการดำเนินการประจำปี 2022 ไปไกลกว่าที่หลาย ๆ ฝ่ายคาดการณ์ไว้ เตรียมทุ่มทุน 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ พัฒนาเทคโนโลยีวิจัยนวตกรรมอย่างเต็มที่ และประมาณการณ์ว่า ไตรมาส 4 กับตลอด ทั้งปีจะทำกำไรทุบสถิติที่เคยมีมา โดยไตรมาส 4 จะได้รับกำไร 52.7% ส่วนปีนี้จะทำกำไร 53% ส่วนงบวิจัยพัฒนานวตกรรมกว่า 7-80% จะใช้ไปในการวิจัยพัฒนาแผ่นชิปขนาด 2/3/5/7 นาโน 10% ใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีแพกเกจ หรือ Encapsulation และ Reticle, Mask ส่วนอีก 10-20% จะใช้ในการวิจัยพัฒนาเทคนิคการผลิตพิเศษ โดยมีข่าวลือว่า เทคนิค 3 นาโน รุ่นแรกจะตกไปอยู่ในมือของแอปเปิลหรืออินเทล
นอกจากนี้ คอลัมนิสต์ชื่อดังผู้นี้ยังได้แสดงความชื่นชม TSMC ว่า มีผลงานโดดเด่น และเห็นว่า ซัมซุงกับอินเทล สองยักษ์ใหญ่ที่เป็นคู่แข่งสำคัญของ TSMC คงยากที่จะไล่ตามทัน TSMC ได้ในระยะเวลาอันสั้น โดยเมื่อปีที่แล้ว TSMCได้ทุ่มค่าใช้จ่ายด้านทุนถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้จะมีแรงกดดันในการสร้างผลกำไรพอสมควร แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่เพียงพอ และคาดว่าปีนี้จะทุ่มทุนอีก 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ คู่แข่งจึงต้องระวังตัวให้มาก
ปีที่แล้ว TSMC สร้างผลประกอบการเพิ่มขึ้นถึง 25% ส่วนปีนี้จะเพิ่มขึ้น 20% ขึ้นไป ซึ่ง TSMC ไม่เคยที่จะทำได้ต่ำกว่าที่คาดไว้ในตอนแรก นอกจากนี้ เขายังเห็นว่า ในปัจจุบันมีเพียง 2 บริษัทเท่านั้นที่จะเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับ TSMC ได้แก่ ซัมซุงและอินเทล หากวางแผนที่จะปะทะกับ TSMC แบบตรง ๆ ก็ต้องยอมรับความจริงเหล่นี้ ซึ่งก็คือ แม้ TSMC จะทุ่มการลงทุนในส่วนของทุนถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้มีแรงกดดันต่อการสร้างผลกำไร คือทำให้อัตราผลกำไรเหลือเพียง 1.4% แต่ผลการประกอบการของ TSMC ก็จะยังคงทำให้เกิดเงินสดหมุนเวียนถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์
TSMC มีแผนการลงทุนเปิดโรงงานในสหรัฐฯ ตามการเรียกร้องของรัฐบาลสหรัฐฯ และยังเตรียมเปิดโรงงานที่ญี่ปุ่นด้วย แม้แต่ในยุโรปก็มีแผนเปิดโรงงานของตนเช่นกัน ซึ่งเป็นการก้าวไปตามกระแสลมที่ทั่วโลกอยู่ในสภาพขาดแคลนแผ่นชิปอย่างหนักและความต้องการแผ่นชิปของโทรศัพท์มือถือ 5จี ทำให้ TSMC ยังมีเช็คยอดเงินจำนวนมหาศาลอยู่ในมือ จึงทำได้เพียงอวยพรให้คู่แข่งของ TSMC โชคดีมีชัยเท่านั้น
๒. ไต้หวันคุมเข้มราคาสินค้าช่วงตรุษจีน สกัดราคาน้ำมันลงได้แต่ห้ามขึ้น
โดยปกติแล้ว ในช่วงตรุษจีนของทุกปี ราคาสินค้าสำคัญที่เกี่ยวกับเทศกาลตรุษจีนจะขยับราคาตามภาวะตลาดที่มีความต้องการเพิ่มากขึ้น และเพื่อสกัดมิให้ราคาสินค้าขยับสูงมากขึ้นจนเป็นที่เดือดร้อนกับประชาชน โดยสภาพัฒนาแห่งชาติไต้หวันประกาศว่า ในการประชุมรักษาระดับราคาสินค้าให้มั่นคงของสภาบริหาร ไต้หวันหลายครั้ง ในที่สุดได้มีมติให้ควบคุมราคาน้ำมันในช่วงระหว่างวันที่ 31 ม.ค. – 13 ก.พ. จะไม่มีการขึ้นราคา แต่ลดราคาได้ เพื่อให้ประชาชนฉลองตรุษจีนกันอย่างมีความสุข นอกจากนี้ ค่าไฟและราคาแก๊สถังก็จะไม่มีการขึ้นราคาไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. ก๊าซธรรมชาติก็ไม่มีการขึ้นราคาในเดือน ม.ค.
สภาพัฒน์ฯ ไต้หวันระบุว่า สินค้าที่มีการฟอสราคาไว้ประกอบไปด้วย ค่าน้ำ ค่ายาในระบบประกันสุขภาพ ค่าโดยสารรถประจำทางระหว่างเมือง ค่าขนส่งสินค้าทางรถยนต์ ค่าเช่ารถจักรยานสาธารณะ ค่าขนส่งทางอากาศภายในประเทศ และค่าขนส่งทางเรือภายในประเทศ
นอกจากนี้ ในส่วนของราคาน้ำตาลแพกเล็กของบริษัทน้ำตาลไต้หวัน และน้ำมันพืช สินค้าที่ผลิตโดยบริษัทเหล้าและบุหรี่ไต้หวัน เช่น บะหมี่สำเร็จรูป เหล้าขาว เหล้าขาวสำหรับประกอบอาหาร เบียร์ ก็ไม่มีการปรับขึ้นราคา ส่วนราคาไข่ไก่ก็คาดว่าในช่วงก่อนตรุษจีนจะปรับลดลง
ในส่วนของราคาวัตถุดิบที่พุ่งสูงขึ้น จนส่งผลให้ราคาปุ๋ยก็พุ่งสูงขึ้น คณะกรรมการเกษตรไต้หวันจึงได้ประสานงานกับผู้ประกอบการปุ๋ยรายใหญ่ให้เพิ่มกำลังผลิต จึงคาดว่าไม่น่าจะขาดตลาด และตั้งแต่วันที่ 10 ม.ค. เป็นต้นไป รัฐบาลจะรับผิดชอบส่วนต่างที่มีต้นทุนเพิ่มขึ้น 50% และจะประสานให้ผู้ค้าปุ๋ยลดราคาจำหน่ายปุ๋ยลง เพื่อช่วยเหลือให้เกษตรกรได้รับปุ๋ยในราคาที่เหมาะสม ส่วนบริษัทปุ๋ยไต้หวันก็จะรับภาระส่วนที่ต้นทุนเพิ่มขึ้น 50% เพื่อรักษามิให้ราคาปุ๋ยปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. เป็นต้นไป ทำให้ต้นทุนค่าแรงของภาคบริการเพิ่มขึ้น กระทรวงเศรษฐการไต้หวันก็มีแผนการให้เงินช่วยเหลือในส่วนนี้ด้วย เพื่อลดภาระของภาคธุรกิจ ให้ชลอการปรับราคาให้ขึ้นราคาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้ประชาชนทั่วไปได้มีส่วนได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจและการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำด้วย
