๑. 5 แบงก์ยักษ์ในไต้หวันขึ้นดอกเบี้ยในเดือน มี.ค. หลังธนาคารกลางปรับขึ้นดอกเบี้ย คาดเม.ย. ขึ้นมากกว่านี้
5 แบงก์ยักษ์ในไต้หวันได้แก่ ธนาคารไต้หวัน ธนาคารสหกรณ์ ธนาคารที่ดิน ธนาคารหัวหนาน และเฟิร์สทแบงก์ ซึ่งมียอดรวมปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านในสัดส่วนมากที่สุด ประมาณ 40% ถูกมองว่าเป็นผู้นำของวงการธนาคารในไต้หวัน หลังจากที่ธนาคารกลางไต้หวันได้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 5 ธนาคารเหล่านี้ก็มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยของตนด้วย แต่ ธนาคารกลางไต้หวันได้ย้ำว่า 5 ธนาคารนี้ไม่ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยพร้อม ๆ กัน คาดว่าในเดือน เม.ย. จะมีการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า มี.ค. ที่ผ่านมา
คุณไช่ฮุ่ยเม่ย รองผู้อำนวยการกองวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกลางไต้หวันระบุว่า หลังจากที่ธนาคารกลางไต้หวัน ประกาศปรับขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 18 มี.ค. ธนาคารไปรษณีย์ก็ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากในวันที่ 23 และเนื่องจากเป็นดัชนีสำคัญในการนำมาพิจารณาปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารในไต้หวัน เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยไม่มากนัก คุณไช่ฯ ระบุว่า “ในส่วนของเงินกู้เพื่อการซื้อบ้าน 5 ธนาคารสำคัญดังกล่าว ส่วนใหญ่จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือน เม.ย. ตอนนี้จะเห็นว่าอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นไม่มาก เนื่องจากจะทะยอยปรับขึ้น แม้จะมีการปรับค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้ปรับจนถึงจุดสูงสุด”
ยอดเงินกู้เพื่อการซื้อบ้านในไต้หวัน ช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา 73.488 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ. ถึง 3.2545 หมื่นล้านเหรียญไต้หวัน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นถึง 1.25 เท่าตัว การขึ้นดอกเบี้ยจะสามารถสกัดการขึ้นราคาค่าบ้านหรือไม่ ยังคงยากที่จะคาดเดาได้ คุณไช่ฯ บอกว่า 2 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยอดเงินกู้เดือน มี.ค. เพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก นอกจากเพราะช่วง ก.พ. เป็นช่วงตรุษจีน ทำให้กระแสซื้อบ้านในเดือน มี.ค. พรั่งพรูออกมา คำร้องขอกู้เงินจำนวนมากกว่าจะได้รับอนุมัติก็เป็นช่วง มี.ค. แล้ว นอกจากนี้ ต้นทุนค่าก่อสร้างก็พุ่งสูงขึ้น ทำให้ราคาบ้านอยู่ในระดับค่อนข้างสูง จึงสะท้อนออกมาที่ยอดเงินกู้
๒. มี.ค. ตกงานพุ่งเป็น 3.66% เหตุมาจากกระแสการเปลี่ยนงาน
สำนักบัญชีกลางไต้หวันเปิดเผยว่า เดือน มี.ค. ที่ผ่านมา อัตราการว่างงานอยู่ที่ 3.66% เพิ่มขึ้นรายเดือน 0.01% และเมื่อมีการปรับปัจจัยของฤดูกาลออกไปแล้วตัวเลขจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 3.7% ลดลงต่อเดือน 0.03% สำนักบัญชีกลางวิเคราะห์ว่า อัตราการว่างงานเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นเพราะมีผู้เปลี่ยนงานเพิ่มขึ้น สภาพโดยรวมค่อนข้างมีเสถียรภาพ เมื่อกระแสการเปลี่ยนงานหางานได้แล้ว ตัวเลขก็จะลดลง แต่กล่าวโดยรวมแล้ว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 สถานการณ์ทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ และผลประกอบการของวิสาหกิจด้วย
เดือน มี.ค. ที่ผ่านมามีผู้วางงานจำนวน 4.35 แสนคน เพิ่มขึ้น 1000 คนต่อเดือน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วประมาณ 4000 คน
คุณเฉินฮุ่ยซิน ระบุว่า “สิ่งสำคัญที่เราให้ความสนใจเป็นพิเศษก็คือ ตัวเลขเปรียบเทียบในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และเนื่องจากการปรับลดขนาดของกิจการลง ทำให้มีผู้ว่างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งความจริงแล้วที่ผ่านมาอยู่ในสภาพปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เดือนนี้ลดลง 7000 คน ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 ดังนั้น เราจึงวิเคราะห์สาเหตุของการว่างงานในคราวนี้ที่เดือนนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น จำนวนคนว่างงานก็เพิ่มขึ้น จริง ๆ แล้วมาจากการเปลี่ยนย้ายงาน ตอนนี้จึงมองว่า สถานการณ์การว่างงานโดยรวมยังคงอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างมีเสถียรภาพ”