close
Rti Thaiดาวน์โหลด Rti App
Open
:::

ชีพจรเศรษฐกิจ วันพฤหัสบดีที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๖

  • 14 September, 2023
ชีพจรเศรษฐกิจ
ปีใหม่นี้ ค่าจ้างขั้นต่ำในไต้หวันเพิ่มเป็น 27,470 เหรียญ/เดือน 189 เหรียญ/ชม.
ชีพจรเศรษฐกิจ
ชีพจรเศรษฐกิจ
ชีพจรเศรษฐกิจ

ไต้หวันดีเดย์ปีใหม่ ขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 8 อีก 4.05% 

         ในการประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำของไต้หวัน ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนจาก 4 ฝ่าย ได้แก่ นายจ้าง ลูกจ้าง รัฐบาล และนักวิชาการ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ประชุมมีมติขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นไป แม้บรรยากาศทางเศรษฐกิจจะไม่สู้ดีนัก แต่ก็ถูกราคาสินค้าที่พุ่งสูงขึ้นเป็นเหตุผลให้ต้องมีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้งเป็นครั้งที่ 8 ในยุคของประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ซึ่งในครั้งนี้ ได้ปรับเพิ่มขึ้นอีก 4.05% ทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำปีใหม่นี้ปรับขึ้นเป็นเดือนละ 27,470 เหรียญไต้หวัน ส่วนค่าจ้างรายชั่วโมงอยู่ที่ 183 เหรียญไต้หวัน/ชม. 

         ค่าจ้างขั้นต่ำในปีนี้อยู่ที่เดือนละ 26,400 เหรียญไต้หวัน ค่าจ้างรายชั่วโมงอยูีที่ 176 เหรียญไต้หวัน/ชม. 

         นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีไช่ฯ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันเป็นต้นมา ได้ปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำแล้วถึง 7 ครั้ง เริ่มต้นที่ 20,008 เหรียญไต้หวัน ขยับเป็นรายปีมาที่ปีนี้ 26,400 เหรียญไต้หวัน คิดเป็นปรับเพิ่มขึ้นรวมทั้งสิ้น 31.9% ส่วนค่าจ้างรายชั่วโมงก็ปรับรวม 8 ครั้ง จากชั่วโมงละ 120 เป็น 176 คิดเป็นปรับเพิ่มขึ้นถึง 46.7% ส่วนปีหน้าก็จะเป็นการปรับเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน ซึ่งหมายความว่า ในยุคของประธานาธิบดีไช่ฯ ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทุกปี ซึ่งจะทำให้ค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือนปรับเพิ่มขึ้น 52.5% และรายชั่วโมง 37.3%

การค้าระหว่างช่องแคบไต้หวันตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

         จากสถิติของกรมศุลกากรจีนระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างช่องแคบไต้หวันในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 24,100 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นลดลงต่อปีถึง 6.75% ส่วนยอดรวม 8 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่ารวม 170,100 ล้านดอลลาร์ คิดเป็นลดลงต่อปี 21.3% การค้าระหว่างช่องแคบไต้หวันหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ ไต้หวันได้เปรียบดุลการค้าต่อจีนถึง 82,400 ล้านดอลลาร์ 

          เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา จีนนำเข้าสินค้าจากไต้หวันรวมทั้งสิ้น 18,218 ล้านดอลลาร์ ลดลงต่อปี 7.37% ส่วนการส่งสินค้าออกมายังไต้หวันอยู่ที่ 5,992 ล้านดอลลาร์ ลดลงต่อปี 4.8% ส่วนยอดรวม 8 เดือนแรกของปีนี้ จีนนำเข้าจากไต้หวัน 126,2700 ล้านดอลลาร์ ลดลงต่อปี 20.9% ส่งออกมายังไต้หวัน 43,901 ล้านดอลลาร์ ลดลงต่อปี 22.4% จากตัวเลขเหล่านี้จะเห็นได้ว่า การนำเข้าและส่งออกระหว่างช่องแคบไต้หวันในช่วงเดือน ส.ค. มีการลดลงในสัดส่วนที่ดีขึ้นไม่น้อย ที่สำคัญเป็นเพราะตัวเลขฐานของปีที่แล้วค่อนข้างสูง 

ท่องเที่ยวแบบ “ล้างแค้น” ทำค่าห้องพักทะลุเพดาน

         ท่องเที่ยวในประเทศคึกคักขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ค่าบริการด้านการท่องเที่ยวขยับพุ่งสูงขึ้นจนยากจะฉุดอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าห้องพักในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ เฉลี่ยพุ่งทะลุเพดาน ทุบสถิติ ซึ่งจากสถิติของกรมการท่องเที่ยวไต้หวัน ระบุว่า ค่าห้องพักโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวเฉลี่ยอยู่ที่คืนละ 4,618 เหรียญไต้หวัน พุ่งจากระยะเดียวกันของปีที่แล้วถึง 14% ส่วนค่าห้องพักโรงแรมทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 2,647 เหรียญไต้หวัน/คืน เพิ่มขึ้น 8% การท่องเที่ยวไต้หวันเปิดเผยว่า สาเหตุสำคัญเนื่องจากราคาสินค้าพุ่งสูงขึ้น เงินเฟ้อ ค่าจ้างขั้นต่ำปรับเพิ่มขึ้น ค่าไฟเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าที่พักแบบเกสต์เฮ้าส์ขยับเพิ่มขึ้น 1.4% 

         การท่องเที่ยวไต้หวันเปิดเผยว่า ครึ่งแรกของปีนี้ค่าห้องพักโรงแรมเพื่อการท่องเที่ยวเฉลี่ยคืนละ 4,618 เหรียญไต้หวัน แพงขึ้น 572 เหรียญไต้หวัน ส่วนโรงแรมทั่วไปเฉลี่ยอยู่ที่ 2647 เหรียญไต้หวัน/คืน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 198 เหรียญไต้หวัน/คืน ส่วนเกสต์เฮ้าส์อยู่ที่คืนละ 2536 เหรียญไต้หวัน  

         สถิติของการท่องเที่ยวไต้หวันระบุว่า การท่องเที่ยวในไต้หวันเป็นไปอย่างคึกคักจนไล่ทันช่วงก่อนเกิดโควิดแล้ว ครึ่งแรกของปีมีการท่องเที่ยวในไต้หวันถึง 38.08 ล้านคนครั้ง ในขณะที่ก่อนเกิดโควิดอยู่ที่ 38.77 ล้านคนครั้ง ต่างกันเพียง 6.9 แสนคนครั้งเท่านั้น ชี้ชัดว่า ครึ่งแรกของปีนี้จำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้าพักในโรงแรมใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดโควิด

         นอกจากนี้ ในจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด เป็นนักท่องเที่ยวสัญชาติไต้หวันถึง 31.31 ล้านคนครั้ง เพิ่มขึ้น 7.15 ล้านคนครั้ง เมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด แสดงให้เห็นว่า แรงขับเคลื่อนการท่องเที่ยวในช่วงครึ่งแรกของปีนี้คึกคักและเต็มไปด้วยพลัง

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง