close
Rti Thaiดาวน์โหลด Rti App
Open
:::

ที่นี่ไต้หวัน วันอังคารที่ 6 พ.ค.2568

  • 06 May, 2025
ที่นี่ไต้หวัน
ชาวไต้หวันนิยมมอบดอกคาร์เนชันให้คุณแม่เนื่องในวันแม่แห่งชาติ(photo:newsmarket)

   ใกล้ถึงวันแม่แล้ว(ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 2 ของเดือนพฤษภาคม โดยปี 2025 ตรงกับวันที่ 11 พฤษภาคม) ชาวไต้หวันนิยมใช้ ดอกคาร์เนชัน (Carnation) ในการมอบให้คุณแม่เนื่องในวันแม่แห่งชาติ เนื่องจากมีความหมายทางวัฒนธรรมและสัญลักษณ์ที่ลึกซึ้งหลายประการ เช่น มีความหมายถึง “ความรักของแม่” และ “ความกตัญญู” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความ อ่อนโยน อดทน และเสียสละ ซึ่งตรงกับคุณลักษณะของแม่ในวัฒนธรรมจีนและไต้หวัน นอกจากนี้ จากอิทธิพลจากตะวันตก ทั้งนี้ แนวคิดการใช้ดอกคาร์เนชันมอบให้แม่เริ่มต้นใน สหรัฐอเมริกา โดย Anna Jarvis ผู้ก่อตั้งวันแม่ได้นำดอกคาร์เนชันมาใช้เพื่อรำลึกถึงแม่ของเธอ ซึ่งวัฒนธรรมนี้แพร่หลายไปทั่วโลก รวมถึงไต้หวัน ที่รับแนวคิดนี้มาในช่วงศตวรรษที่ 20

มอบดอกคาร์เนชันให้คุณแม่

   สำหรับในไต้หวัน ปกติช่วงนี้ตลาดคาร์เนชันจะคึกคักเป็นพิเศษ แต่ปีนี้กลับเจอปัญหาใหญ่ คือ ผลผลิตคาร์เนชันลดลงถึง 30% เพราะสภาพอากาศแปรปรวน ทำให้ดอกโตช้า เกษตรกรพากันกังวลว่าจะส่งสินค้าไม่ทันช่วงขายดี หากปริมาณน้อยลง ราคาก็ย่อมขยับสูงขึ้น แต่ดอกไม้ที่ออกหลังวันแม่จะเผชิญแรงกดดันจากตลาดหนักหน่วง เพราะดีมานด์ลดฮวบในทันที เพื่อฝ่าวิกฤตครั้งนี้ เกษตรกรนอกจากพยายามรับมือเรื่องอากาศแล้ว ยังขยายตลาดใหม่ด้วย เช่น สหกรณ์เกษตรตำบลเถียนเหว่ย ได้นำคาร์เนชันไปแจกในงานแห่เจ้าแม่ต้าเจี่ยมาจู่ เชิญชวนผู้ศรัทธา "แทนธูปด้วยดอกไม้" ทั้งสวยงามและช่วยลดมลพิษ
   หลัวไข่หยุน (羅凱云) หัวหน้านักออกแบบของบริษัท philogreen กล่าวว่า คาร์เนชันมีอายุการบานยาวนาน กลีบสดใส มีขอบสีเด่น ใช้ประดับได้ในหลากหลายโอกาส เธอหวังว่าในอนาคต ไต้หวันจะพัฒนาสายพันธุ์และดีไซน์ใหม่ ๆ เพื่อให้คาร์เนชันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ไม่ใช่แค่เทศกาลวันแม่เท่านั้น ทั้งนี้ พายุไต้ฝุ่นที่พัดเข้าไต้หวันในปีที่แล้ว ได้ทำให้ผลผลิตของดอกคาร์เนชันลดฮวบ เบื้องหลังวิกฤตครั้งนี้ เริ่มจากฤดูร้อนปีที่แล้ว เฉินเยี่ยนฮั่ว (陳彥樺) นักวิจัยจากสถานีวิจัยและส่งเสริมการเกษตรไทจง บอกว่า ไต้หวันขยายพันธุ์คาร์เนชันโดยการตัดกิ่งปักชำจากต้นแม่ในช่วงฤดูร้อน ไม่ได้ปลูกจากเมล็ดโดยตรง ปีที่แล้วมีพายุไต้ฝุ่นหลายลูกซัดเข้ามา ต้นแม่คาร์เนชันในแปลงได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทำให้จำนวนต้นกล้าและคุณภาพลดลงอย่างมาก

ดอกคาร์เนชันไม่ได้มีไว้แค่ให้แม่ "แทนธูปด้วยดอกไม้" เจ้าแม่มาจู่ก็ชื่นชอบ

   อู๋เจิ้งเซี่ยน (吳政憲) เลขาธิการสหกรณ์การเกษตรตำบลเถียนเหว่ย ชี้ว่า ตลาดคาร์เนชันในไต้หวันมีช่วงพีคอยู่ที่วันแม่เท่านั้น หลังจากนั้นราคาจะดิ่งลงรวดเร็ว เกษตรกรจึงมักปลูกต้นกล้าในเดือนตุลาคม เพื่อให้ดอกไม้บานเต็มที่ช่วงปลายเมษายนในปีถัดมา แต่ปีนี้สถานการณ์ไม่ปกติ คือ อัตราการเจริญเติบโตของต้นกล้าลดลงถึง 30% ราคาประมูลขยับจากดอกละ 5 เหรียญไต้หวัน เป็น 8 เหรียญไต้หวัน ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติก็เลยทำให้ดอกไม้ที่ออกหลังวันแม่จากปกติ 10% เพิ่มเป็นอย่างน้อย 20% ในปีนี้ อู๋เจิ้งเซี่ยนยังเตือนอีกว่า หากสภาพอากาศยังไม่อบอุ่นขึ้นในเร็ว ๆ นี้ อัตราดอกไม้ที่บานไม่ทันวันแม่อาจยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีก
   มีคำถามว่า ทำไมไม่เปลี่ยนไปปลูกในโรงเรือน? ในเมื่อเจอสภาพอากาศแปรปรวนบ่อยๆ คำตอบคือ เพราะต้นทุนมันแพงเกินไป หลี่หมิงอิ๋ง (李明營) หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรผลิตดอกไม้ ตำบลเถียนเหว่ย บอกตรงๆ ว่า คาร์เนชันในไต้หวันส่วนใหญ่ผลิตเพื่อขายในประเทศ ความต้องการพุ่งสูงเฉพาะช่วงวันแม่ หลังจากนั้นราคาจะตกอย่างรวดเร็ว รายได้จึงผันผวนหนัก โรงเรือนมีราคาสร้างสูง ทำให้เกษตรกรไม่กล้าเสี่ยงลงทุน ส่วนใหญ่จึงยังคงใช้การปลูกกลางแจ้งตามเดิม

คาร์เนชันจัดช่อดอกก็สวย

   แม้หลายคนมองว่าคาร์เนชันคือดอกไม้เฉพาะกิจวันแม่ แต่นักจัดดอกไม้อย่างหลัวไข่หยุนจาก Philogreen กลับใช้มันบ่อยในชีวิตประจำวัน เพราะอึด ทน บานนาน สีสันหลากหลาย แถมย้อมสีได้ง่าย แต่เธอก็ยอมรับตรง ๆ ว่าเลือกใช้คาร์เนชันนำเข้าจากสหรัฐฯ หรือเวียดนามก่อน เพราะของไต้หวันมีน้อย แถมสีจำกัด แดงกับชมพูแค่ไม่กี่เฉด ที่สำคัญ—บางครั้งยังเคยเจอไข่แมลงติดมาด้วย ทำเอาลูกค้าหวาดผวาไปตาม ๆ กัน 
   เฉินเยี่ยนฮั่ว (陳彥樺) จากสถานีวิจัยเกษตรไทจง เสริมว่า ขณะนี้ทางสถานีฯ กำลังศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง "ความสมบูรณ์ของดอก" และ "คุณภาพการชม" เพื่อจัดทำเกณฑ์มาตรฐานการเก็บเกี่ยว เช่น จำนวนกลีบดอกที่ควรเปิด หรือระดับการบานที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้เกษตรกรเก็บเกี่ยวในช่วงเวลาที่ดอกไม้มีคุณภาพดีที่สุดและอายุการชมยาวนานที่สุด นอกจากนี้ยังมีแผนศึกษาการบริหารจัดการแปลงปลูกต้นแม่และการเก็บรักษากิ่งชำ เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้ต้นกล้าที่มีสุขภาพแข็งแรงกว่าเดิม

คาร์เนชันมีหลากสี เป็นที่ชื่นชอบของนักจัดดอกไม้

   ชิวเจียหลง หัวหน้ากลุ่มเกษตรกรผลิตดอกไม้ ตำบลเถียนเหว่ย บอกว่า ในอดีตการกระตุ้นยอดขายคาร์เนชันมักใช้โฆษณาทางโทรทัศน์ช่วงวันแม่ แต่ปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาใช้โซเชียลมีเดียกันมากขึ้น เกษตรกรเองก็ควรเรียนรู้การทำตลาดออนไลน์ และเริ่มประชาสัมพันธ์คาร์เนชันตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งมีเป้าหมายคือทำให้คนไต้หวันเปลี่ยนพฤติกรรม จาก "ซื้อดอกไม้แค่วันแม่" เป็น "ซื้อดอกไม้ชมได้ในชีวิตประจำวัน" เพื่อสร้างเสถียรภาพให้อุตสาหกรรมนี้ในระยะยาว

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง