วัวควายชราภาพ หลังหยุดใช้งานจะส่งไปฝากเลี้ยงในสถานรับเลี้ยง
ไม่นานมานี้ เทศบาลเมืองผูจื่อ(朴子市)ของเมืองเจียอี้ มีการนำควายตัวหนึ่งซึ่งเป็นตัวสุดท้ายของเมืองไปฝากเลี้ยงที่สถานเลี้ยงวัวควายชราในเขตอนุรักษ์ขั่นติ่ง(崁頂)เมืองผิงตง ควายตัวนี้เป็นของเกษตรกรวัยชราภาพแซ่จาง ปัจจุบันอายุ 83 ปี เมื่อ 7-8 ปีก่อนได้ซื้อมาไถนา แต่ด้วยความชราภาพเกรงว่าไม่มีแรงที่จะเลี้ยงดู และอดไม่ได้ที่จะขายให้กับโรงฆ่าสัตว์ ลูกชายของอากงจึงขอความช่วยเหลือจากสมาชิกสภาจังหวัดแซ่เจียง ช่วยหาสถานที่รับเลี้ยง สุดท้ายได้รับความช่วยเหลือจากกองป้องกันโรคปศุสัตว์เมืองเจียอี้หาสถานที่รับเลี้ยง ช่วงที่อากงส่งควายขึ้นรถบรรทุก ได้เตรียมเสบียงให้พร้อม คนที่พบเห็นพูดปนหัวเราะว่า อากงอาลัยอาวรณ์เหมือนลูกสาวออกเรือน ตอนที่ควายขึ้นรถบรรทุก ดูเหมือนจะมีอาการต่อต้านเล็กน้อยเพราะไม่อยากจากอากงเช่นกัน สุดท้ายอากงตัดใจหันหลังเดินกลับเข้าบ้าน พร้อมปาดน้ำตาด้วยความอาลัย
อากงแซ่จางส่งมอบควายไปยังสถานรับเลี้ยงด้วยความอาวร
หลินเพ่ยหรู(林珮如)ผู้อำนวยการกองป้องกันโรคสัตว์เลี้ยงเมืองเจียอี้บอกว่า ปีที่แล้วเกิดการระบาดโรคลัมปี สกิน (Lumpy skin disease)ในไต้หวัน ช่วงที่หน่วยป้องกันโรคช่วยฉีดวัคซีนให้กับวัวควาย เพิ่งรู้ว่าที่เมืองเจียอี้ยังมีวัวควายที่ใช้ไถนาอีก 29 ตัว หลังทราบข่าวอากงแซ่จางเกษียณจากอาชีพเกษตร แต่ไม่อยากขายไปยังโรงฆ่าสัตว์ ทางกองป้องกันโรคจึงช่วยหาสถานที่อยู่ใหม่ และทราบข่าวจากเพื่อนทางอินเตอร์เน็ตว่า มีสมาคมฉือเปย(慈悲協會)ยินยอมให้ความช่วยเหลือ จงสูเฟิน(鍾淑芬)อาจารย์ที่เป็นสมาชิกสมาคมบอกว่า ที่เขตสวนอนุรักษ์ขั่นติ่งมีการรับเลี้ยงวัวควายและแพะเป็นส่วนใหญ่ ปัจจุบันมีหลาย 10 ตัว ในเขตสวนอนุรักษ์มีการปลูกหญ้าไว้เป็นอาหาร
สวี่ซิ่งจวีน(徐幸君)ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตกองการเกษตรนครไถหนานบอกว่า สถานเลี้ยงวัวควายชราที่รัฐจัดขึ้นในนครไถหนานถือเป็นแห่งเดียวของไต้หวัน ที่เหลือส่วนใหญ่เป็นของเอกชนที่อยู่ในเขตสวนอนุรักษ์ ปัจจุบันที่ไถหนานรับเลี้ยงวัวควายแก่มีทั้งหมด 5 ตัว รับได้มากที่สุดประมาณ 8-9 ตัว แต่จะต้องเป็นวัวควายในเขตนครไถหนาน หากมีคุณสมบัติไม่สอดคล้องก็จะแนะนำให้ไปยังองค์กรเอกชนที่มีความเมตตาต่อสัตว์ ทั้งนี้ ปัจจุบันที่นครไถหนานยังมีวัวควายที่ใช้งานอยู่อีก 80 กว่าตัว
วัวแก่ กลายเป็นแหล่งการศึกษานอกสถานที่ของนักเรียน
ส่วนที่เมืองหยุนเหลินก็มีศูนย์รับเลี้ยงวัวชราภาพที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นไม่นานเช่นกัน โดยมีนายหลินเจียเหลียง(林家良) เกษตรกรรุ่นใหม่ แบ่งพื้นที่ทำเกษตรส่วนหนึ่งทำเป็นศูนย์รับเลี้ยงวัวควายชราภาพ งบประมาณที่ใช้เลี้ยงมาจากรายได้ขายสินค้าเกษตรแบรนด์ “หุยเซียงหมี่回鄉米” และในช่วงปกติเขาจะพาวัวไปให้ความรู้กับเด็กๆที่โรงเรียน ให้เด็กรู้จักประวัติการเกษตรในอดีต วัฒนธรรมหมู่บ้านเกษตร ส่วนศูนย์รับเลี้ยงวัวควายชราภาพของนครไถหนาน ไม่เพียงแต่เป็นเป็นจุดท่องเที่ยว ยังเป็นสถานให้ความรู้ด้านการเกษตรเช่นกัน มีการจัดแสดงอุปกรณ์การเกษตรในยุคแรกๆ กลายเป็นแหล่งการศึกษานอกสถานที่ของนักเรียนอีกด้วย