RTI Radio Taiwan International 
RTI Radio Taiwan International 
การตั้งขายอาหารที่ตลาดกลางคืน บางรายมีรายได้ 5 หลักต่อคืน จริงอย่างที่บอกหรือไม่?
ตลาดกลางคืนถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง มีทั้งของกินมีทั้งของเล่น เป็นที่ชื่นชอบของประชาชน แต่คุณรู้หรือไม่ว่าตลาดกลางคืนจริงๆแล้วไม่ได้กำไรมากมายอย่างที่คุณคิด มีชาวเน็ตคนหนึ่งแบ่งปันประสบการณ์ความลำบากของการขายอาหารที่ตลาดกลางคืน และยังเปิดเผยว่าบางคืนมีรายได้เงินร้อยก็ยังมี
ซึ่งชาวเน็ตรายนี้เผยในสื่อ NOWnews ในวันที่ 8 ส.ค. 2565 บอกว่า ตัวเองตั้งแต่เล็กจนโตจะอยู่กับพ่อแม่ที่ขายอาหารอยู่ที่ตลาดกลางคืนมาตลอด ตอนเรียนมัธยมปลายยังไปหางานพิเศษที่แผงขายอาหารตามแผงอื่นด้วย เพราะฉะนั้นจะเป็นคนที่ทราบว่ารายได้ของตลาดกลางคืนมีประมาณเท่าไหร่ต่อคืน ซึ่งแผงขายอาหารของตลาดกลางคืนมีการแบ่งเป็นแผงเล็ก และแผงใหญ่ 2 ประเภท แผงเล็กคือไม่มีที่นั่งให้ลูกค้ากิน ลูกค้าที่ซื้ออาหารเดินไปทานไป เช่น แผงขายขนมไข่เต่า เครื่องดื่ม ไก่ทอด ส่วนแผงใหญ่คือ แผงที่มีที่นั่งให้นั่งทานได้ ได้แก่ แผงขายเต้าหู้เหม็น หอยนางรมทอด สเต็กเนื้อ ซุปบำรุงสุขภาพ อย่างบักกุ๊ดเต๋
ส่วนค่าเช่าแผงของตลาดกลางคืนยังขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ตั้งของตลาด โดยส่วนใหญ่จะเก็บค่าเช่าครึ่งปีครั้ง บางแผงเก็บปีละครั้ง หรือบางแผงใช้วิธีซื้อขาด ราคานับล้านเหรียญไต้หวันก็ยังมี แผงที่ให้เช่าขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ เช่น 1 ล็อก ประมาณ 10,000-20,000 เหรียญไต้หวัน แต่ขึ้นกับสถานที่ตั้งของแต่ละที่จะไม่เหมือนกันด้วย นอกจากนี้ ยังมีค่าไฟและค่าทำความสะอาดสถานที่ ซึ่งจะเก็บเป็นรายคืน รวมกันจำนวนไม่แพงมาก โดยค่าไฟนับตามขนาดของหลอดไฟ ส่วนค่าทำความสะอาดนับตามขนาดของพื้นที่ ถ้าเป็นแผงเล็กประมาณ 200 เหรียญไต้หวันต่อคืน แผงใหญ่อาจจะเป็นพันเหรียญไต้หวัน
ในเรื่องของรายได้นั้น ถ้าเป็นแผงเล็ก การค้าอยู่ในเกณฑ์ดี ขายตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 23:00 น คืนหนึ่งได้กำไรสุทธิ 3,000 - 5,000 เหรียญไต้หวัน แผงใหญ่หากขายดีอาจจะได้กำไรสุทธิ 15,000 เหรียญขึ้นไปต่อคืน หากเป็นตลาดกลางคืนที่พึ่งเปิดทำการใหม่ เพียงแค่แผงเล็กก็อาจจะได้กำไรสุทธิคืนละหมื่นเหรียญไต้หวันก็ยังมี
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นการแบ่งปันประสบการณ์ของชาวเน็ตรายหนึ่ง แน่นอนว่าการค้าใช่ว่าจะดีทุกๆคืน บางคืนถ้าขายไม่ดีรายได้แค่ 1,000 เหรียญไต้หวันก็ยังยาก นอกจากนี้ การทำงานในตลาดกลางคืนจะไม่เหมือนกับตลาดกลางวัน เวลาทำงานตรงข้ามกัน การเตรียมวัตถุดิบ หรือสภาพอากาศถือเป็นจุดด้อยของการขายของในตลาดกลางคืนด้วย นอกจากนี้ การว่าจ้างนักเรียนรับจ๊อบทำงานตลาดกลางคืนนับวันหายากขึ้น ก็มีเหมือนกันที่เถ้าแก่ตั้งแผงขายอาหารตลาดกลางคืนหลายคนมักจะขับรถหรู เช่น รถเบนซ์ หรือ BMW แต่รู้หรือไม่ว่าพวกเขาแต่ละวันนอนไม่ถึง 4 ชั่วโมง ถือเป็นบ่อนทำลายสุขภาพยิ่ง เป็นงานจุกจิก เหนื่อยมาก ทำนานๆ ตับจะพังเสียก่อนได้เหมือนกัน
ไต้หวันได้ชื่อว่า “ดินแดนราชาอาหาร-美食王國” มีวัฒนธรรมอาหารกลางคืน อาหารสตรีทฟู้ดที่มีความอร่อย สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติมาลิ้มลองได้อย่างดีเลิศ แต่ที่ผ่านมามีชาวเน็ตไปเดินซื้ออาหารสตรีทฟู้ดที่ตลาดกลางคืนพบว่า สั่งอาหารไม่กี่อย่าง ต้องจ่ายเงินหลายร้อยเหรียญไต้หวัน
มีชาวเน็ตโพสต์ข้อความในโซเชียลชี้ว่า หลังการระบาดของโควิด 19 ไม่ได้ไปเดินที่ตลาดกลางคืนเลย แต่หลังสถานการณ์การระบาดคลี่คลายได้ไปสำรวจอาหารที่ขายในตลาดกลางคืนพบว่าแพงขึ้นอย่างมาก เช่น ชาแก้วละ 20 เหรียญไต้หวันปรับเพิ่มขึ้นเป็น 30 เหรียญไต้หวัน ไอศครีม 1 กรวยราคา 50 เหรียญไต้หวัน ปลาหมึกย่างจากตัวละ 100 ปรับเป็น 120 เหรียญไต้หวัน ขณะนี้อาหารทุกอย่างดูเหมือนปรับเพิ่มขึ้น 10-20% จนไม่อยากไปเดินที่ตลาดกลางคืนแล้ว หากต้องการทานอาหาร ไปหาร้านแผงลอยริมถนนหรือในร้านอาหารยังจะดีกว่า
บรรยากาศตลาดกลางคืนของไต้หวัน
หลังโพสต์ข้อความแล้ว มีชาวเน็ตให้ความเห็นอย่างล้นหลาม มีบางคนบอกว่า “ซื้ออาหาร 3 อย่าง ได้แก่ ขนมไข่เต่า ไก่หมักเกลือ(鹹水雞) ไส้กรอกข้าวเหนียวห่อกุนเชียง รวมแล้วต้องจ่ายเกิน 500 เหรียญไต้หวัน และบอกว่าแพงเวอร์จริงๆ ” “อาหารที่ขายในตลาดกลางคืนใกล้เคียงกับอาหารที่ขายในร้าน จนไม่อยากไปเดินตลาดกลางคืนแล้ว” “กระดูกอ่อนหมูทอดไม่กี่ชิ้น ต้องจ่าย 150 เหรียญไต้หวัน” “ไม่อยากไปแล้ว ถ้าไปกินอาหารที่ตลาดกลางคืนทั้งครอบครัว เงินพันไม่พอแล้ว”
ยังมีชาวเน็ตให้ความเห็นว่า “ไปกินอาหารฟู้ดคอร์ทของห้างสรรพสินค้า สะอาดกว่า จ่ายเงินใกล้เคียงกับทานอาหารที่ตลาดกลางคืน” “จุดเด่นของตลาดกลางคืนค่อยๆ จางหายไปแล้ว” “แต่ก่อนมักมีคนบอกว่าอาหารที่ตลาดกลางคืนถูก แต่เดี๋ยวนี้แพง ไม่ได้ไปเดินตั้งนานแล้ว”
ตลาดกลางคืนหนิงเซี่ยในกรุงไทเป
