close
Rti Thaiดาวน์โหลด Rti App
Open
:::

ขุนพลแรงงานไทย วันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน 2565

  • 18 November, 2022
ขุนพล แรงงานไทย
แรงงานต่างชาตินิยมแต่งรถจักยานไฟฟ้าเสียหรูจนคนไต้หวันตะลึง

1. สกัดการหลบหนีของแรงงานต่างชาติตั้งแต่ต้นทาง เพิ่มการตรวจเข้มนายจ้างและปรับหนักนายหน้าเถื่อน 1.5 ล้านเหรียญไต้หวัน

      การหลบหนีของแรงงานต่างชาตินับวันรุนแรงขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 สภานิติบัญญัติได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงานและกระทรวงการต่างประเทศมารายงานผลการกวาดล้างขบวนการนอกกฎหมายที่หลอกล่อให้แรงงานต่างชาติหลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าไต้หวันในฐานะนักท่องเที่ยวและอยู่เลยกำหนด กระทรวงแรงงานรายงานว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 มีแรงงานต่างชาติทำงานในไต้หวันทั้งสิ้น 712,169 คน ในจำนวนนี้ เป็นแรงงานต่างชาติที่หลบหนีและยังไม่ถูกจับกุม 76,210 คน หากจำแนกตามประเภทงาน ภาคการผลิตหลบหนีมากที่สุด 39,188 คน แต่หากแยกตามสัญชาติ แรงงานเวียดนามหลบหนีมากที่สุดประมาณ 60% ของทั้งหมดหรือหลบหนี 45,364 คน ทั้งนี้ ยอดจำนวนการหลบหนีของแรงงานต่างชาติได้ลดลงอย่างต่อเนื่องก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเช่น ในปี 2559 มีจำนวน 53,000 คน ลดลงต่อเนื่องทุกปี จนถึงปี 2562 ลดลงเหลือ 48,000 คน แต่มาเพิ่มขึ้นอย่างพุ่งพรวดระหว่างเกิดการระบาดของสถานการณ์โควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา สาเหตุเป็นเพราะในช่วงสถานการณ์โควิดรุนแรง ทำให้การเดินทางประสบอุปสรรค ส่งผลต่อการนำเข้าและส่งกลับแรงงานต่างชาติ เป็นเหตุให้ภาวะขาดแคลนแรงงานในไต้หวันทวีความรุนแรงขึ้น การหลบหนีและว่าจ้างแรงงานต่างชาติเข้าทำงานอย่างผิดกฎหมายเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมพรมแดนตั้งแต่ต้นปี 2565 ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ นำเข้าแรงงานต่างชาติชุดใหม่แล้วกว่า 155,000 คน

เน็ตไอดอลสาวสวยอินโดนีเซียในจางฮั่ว ชักชวนแรงงานชาติเดียวกันผ่านติกตอกให้หลบหนีไปทำงานผิดกฎหมาย ถูกจับทั้งหมด รวมแรงงานผิดกฎหมาย 42 คน

      ในด้านการตรวจค้นและจับกุม กระทรวงแรงงานกล่าวว่า ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 ทั่วไต้หวันมีการตรวจค้นและจับกุมแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายแล้ว 13,384 คน จับกุมนายจ้างที่ว่าจ้างชาวต่างชาติเข้าทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต 1,686 ราย และจับกุมนายหน้าที่หลอกล่อให้แรงงานต่างชาติหลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย 311 ราย และเพื่อที่จะสกัดกั้นการหลบหนีของแรงงานต่างชาติตั้งแต่ต้นทาง กระทรวงแรงงานได้แก้ไขบทลงโทษในกฎหมายการจ้างงาน อยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติของสภาบริการ มีการเพิ่มโทษปรับสำหรับผู้ให้ที่พักพิงหรือว่าจ้างชาวต่างชาติผิดกฎหมายสูงสุด 750,000 เหรียญต่อคน โดยคิดเป็นรายหัวแทนกฎหมายเดิมที่ปรับเป็นรายคดี และเพิ่มโทษปรับ 3 เท่าสำหรับนายหน้าหรือบริษัทจัดหางานผิดกฎหมายเป็น 1.5 ล้านเหรียญไต้หวัน

ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่จางฮั่วจับแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย มีทั้งแรงงานเวียดนาม อินโดนีเซียและไทย

      ด้านกระทรวงมหาดไทยรายงานว่า การแก้ไขปัญหาการหลบหนีของแรงงานต่างชาติและการอยู่เลยกำหนดวีซ่าของชาวต่างชาติ จะเน้นหลักใน 3 ด้าน ได้แก่ การตรวจค้นจับกุม แก้ไขกฎหมายและทบทวนด้านนโยบาย ทั้งนี้ ด้านการตรวจค้นจับกุม ได้สั่งการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ประสานงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. 65 เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจจับชาวต่างชาติผิดกฎหมาย เพิ่มสถานที่กักกันเพื่อรองรับและลดขั้นตอนการส่งกลับชาวต่างชาติผิดกฎหมายให้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จู่โจมบ้านเช่าหลังหนึ่งที่ไถหนานตั้งแต่เช้าตรู่ จับแรงงานผิดกฎหมายที่เพิ่งตื่นนอนได้ 20 คน

      ข้อมูลของสำนักงานตรวจเข้าเมือง ณ สิ้นเดือนกันยายน 2565 มีแรงงานต่างชาติหลบหนีและยังไม่ถูกตรวจพบจำนวน 76,210 คน ภาคการผลิตได้แก่โรงงานหลบหนีมากที่สุด 39,188 คน ตามด้วยผู้อนุบาล 32,211 คน ลูกเรือประมง 2,612 คน ไซต์งานก่อสร้าง 1,338 คน และภาคการเกษตร 252 คน หากจำแนกตามสัญชาติ แรงงานเวียดนามครองแชมป์จำนวนแรงงานต่างชาติหลบหนี มีสัดส่วนการหลบหนีและยังไม่ถูกตรวจพบ 60% ของทั้งหมดหรือ 45,364 คน อันดับสองเป็นแรงงานอินโดนีเซีย 26,715 คน ตามด้วยฟิลิปปินส์ 2,562 คน แรงงานไทยแม้จะหลบหนีถูกจัดอยู่อันดับ 4 มีจำนวน 1,568 คน แต่เพิ่มขึ้นในอัตราส่วนสูงสุดคือ 50% เมื่อเทียบกับ3 ปีที่แล้ว คือเมื่อสิ้นปี 2562 ที่มี 794 คน

แรงงานเวียดนามผิดกฎหมายที่ปั่นเฉียว หลบเลี่ยงสายตาตำรวจด้วยการรวมขันเช่ารถตู้เบนซ์รับส่งไปทำงาน แต่ไม่รอดถูกจับ

2. 30 พ.ย. เป็นต้นไป ซื้อรถจักรยานไฟฟ้าคันใหม่ต้องติดแผ่นป้ายทะเบียน ค่าธรรมเนียม 450 เหรียญ และต้องซื้อประกันภัยภาคบังคับ รถใหม่ซื้อทีเดียว 5 ปี 1,990 เหรียญ ตกปีละ 398 เหรียญ

      เจ้าของรถจักรยานไฟฟ้าโปรดทราบ 30 พ.ย. 65 เป็นต้นไป ซื้อรถจักรยานไฟฟ้าคันใหม่ นอกจากต้องยื่นขอแผ่นป้ายทะเบียนรถแล้ว ยังต้องซื้อประกันภัยบุคคลที่ 3 หรือที่คนไทยนิยมเรียกกันง่าย ๆ ว่า พรบ. รถจักรยานไฟฟ้าเช่นเดียวกับรถจักรยานยนต์หรือมอเตอร์ไซต์ด้วย จึงจะอนุญาตให้ขับขี่บนถนนได้ ส่วนรถจักรยานไฟฟ้าคันเก่าที่ซื้อก่อนวันที่ 30 พ.ย. 65 จะต้องยื่นขอติดแผ่นป้ายทะเบียนและซื้อประกันภายในเวลา 2 ปี กระทรวงแรงงานห่วงใยว่า แรงงานต่างชาติจำนวนมากนิยมขับขี่รถจักรยานไฟฟ้า อาจไม่ทราบระเบียบกฎหมายของไต้หวัน จึงขอให้เพิ่มการประชาสัมพันธ์ในด้านนี้

แรงงานต่างชาตินิยมแต่งรถจักยานไฟฟ้าเสียหรูจนคนไต้หวันตะลึง

      คณะกรรมการกำกับดูแลสถาบันการเงินไต้หวันประกาศอัตราเบี้ยประกันภัยบุคคลที่ 3 หรือประกันภัยภาคบังคับว่า เพื่อความสะดวกและประหยัดของเจ้าของรถ โดยคำนึงถึงอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ กำหนดให้รถจักรยานไฟฟ้าคันใหม่ต้องซื้อประกันภัยภาคบังคับครั้งเดียว 5 ปี รวมเบี้ยประกัน 1,990 เหรียญ หรือเฉลี่ยปีละ 398 เหรียญ รถเก่าที่ซื้อก่อน 30 พ.ย. 65 ผ่อนผันให้ซื้อได้ภายใน 2 ปี หรือจะซื้อก่อนครบกำหนดก็ได้ ส่วนรถเก่าให้ซื้อประกัน 1-5 ปี ตามแต่อายุการใช้งาน เช่นใช้งานมาแล้ว 1 ปี ให้ซื้อเพิ่ม 4 ปี ใช้งานมาแล้ว 2 ปีให้ซื้อเพิ่ม 3 ปีตามลำดับ สำหรับอัตราเบี้ยประกัน 539 เหรียญต่อปี หรือ 929 เหรียญต่อ 2 ปี หรือ 1,300 เหรียญต่อ 3 ปี หรือ 1,652 เหรียญต่อ 4 ปี แต่หากซื้อทีเดียว 5 ปีจะถูกที่สุด เฉลี่ยปีละ 398 เหรียญ นอกจากประหยัดแล้ว ยังช่วยป้องกันการลืมต่อประกัน ซึ่งมีโทษปรับ 750-1,500 เหรียญ กรณีที่รถจักรยานไฟฟ้าเกิดชำรุดเสียหายและเลิกใช้ ประกันภัยภาคบังคับที่ซื้อไว้ล่วงหน้าสามารถรับคืนได้ตามสัดส่วน

ตำรวจไทจงประชาสัมพันธ์ให้แรงงานต่างชาติได้รับทราบข้อกฎหมายเกี่ยวกับรถจักรยานไฟฟ้า ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ 30 พ.ย. 65

      เมื่อมีการซื้อประกันภัยแล้ว หากโชคร้ายเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด เป็นเหตุให้มีคนเสียชีวิต ประกันจะจ่ายหัวละ 2,000,000 เหรียญ กรณีทุพพลภาพจะจ่ายตามระดับความพิการซึ่งมี 15 ระดับ ตั้งแต่ 50,000-2,000,000 เหรียญ ค่ารักษาพยาบาลสูงสุดจ่ายคนละ 200,000 เหรียญ หากต้องการวงเงินคุ้มครองที่สูงขึ้น สามารถซื้อเพิ่มกว่ามาตรฐานได้ และมีหลากหลายบริษัทประกันภัยขายประกันภัยภาคบังคับโดยซื้อผ่านร้านขายรถจักรยานไฟฟ้า หรือซื้อทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ของบริษัทประกันภัยได้ และเพื่อที่จะบริการลูกค้าแรงงานต่างชาติ คาดว่าบริษัทประกันภัยจะมีบริการที่อำนวยความสะดวกแรงงานต่างชาติที่ง่ายและสะดวกในการซื้อประกันออกมาให้บริการแน่นอน

30 พ.ย. เป็นต้นไป ซื้อรถจักรยานไฟฟ้าคันใหม่ต้องติดแผ่นป้ายทะเบียน

      ด้านกระทรวงคมนาคมประกาศรายละเอียดค่าธรรมเนียมว่า การขอแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานไฟฟ้า เสียค่าธรรมเนียมครั้งเดียว ได้แก่ค่าธรรมเนียมยื่นขอแผ่นป้ายทะเบียน 300 เหรียญ และค่าแผ่นป้ายทะเบียน 150 เหรียญ รวม 450 เหรียญ ส่วนรถจักรยานไฟฟ้าคันเก่าที่ซื้อก่อนวันที่ 30 พ.ย. 65 จะต้องยื่นขอติดแผ่นป้ายทะเบียนภายในเวลา 2 ปี มิเช่นนั้น จะถูกปรับ 1,200-3,600 เหรียญ และจะถูกยึดรถไว้ชั่วคราวจนกว่าจะยื่นขอติดแผ่นป้ายทะเบียนเรียบร้อย แต่หากเป็นรถจักรยานไฟฟ้าที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานหรือไม่มีเครื่องหมายฟ้าผ่าสีแดง จะถูกยึดรถถาวร

แรงงานต่างชาตินิยมแต่งรถจักยานไฟฟ้าเสียหรูจนคนไต้หวันตะลึง

      ส่วนเลขป้ายทะเบียน กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคมเป็นผู้ออกแบบ เป็นแผ่นป้ายทะเบียนพื้นสีขาว เลขทะเบียนสีเขียว นำหน้าด้วยอักษรภาษาอังกฤษ 2 ตัว ตามด้วยเลขรวมเป็น 5 หลัก และอนุญาตให้เลือกเลขสวยได้ แต่ต้องจ่ายเลือกหมายเลขเพิ่มขึ้น โดยแบ่งเลขออกเป็น 3 ระดับ ค่าเลือกเลขสวยเริ่มตั้งแต่ 1,000-3,000 เหรียญไต้หวัน

      ตามกฎหมายการจราจรทางถนนและการลงโทษฉบับแก้ไข ในส่วนที่เกี่ยวกับรถจักรยานไฟฟ้า กำหนดให้ความเร็วไม่เกิน 25 กม. ต่อชั่วโมง น้ำหนักรถไม่รวมแบตเตอรี่ต่ำกว่า 40 กก. หรือรวมแบตเตอรี่ไม่เกิน 60 กก. กระทรวงแรงงานออกประกาศเตือนแรงงานต่างชาติว่า เพื่อป้องกันเกิดปัญหา แรงงานต่างชาติที่ประสงค์ซื้อรถในนามของตน จะต้องมีใบอนุญาตจากนายจ้างแนบด้วย และควรซื้อหาหรือขับขี่รถจักรยานไฟฟ้าที่มีเครื่องหมายฟ้าผ่าสีแดง ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานเท่านั้น ขับขี่รถจักรยานไฟฟ้าที่ไม่มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานจะถูกยึดรถทันที! ความเร็วรถเกิน 25 กม./ชม. โทษปรับตั้งแต่ 900-1,800 เหรียญไต้หวัน ไม่สวมหมวกกันน็อกถูกปรับ 300 เหรียญ ดัดแปลงหรือแต่งรถจักรยานไฟฟ้าปรับตั้งแต่ 1,800-5,400 เหรียญไต้หวัน ห้ามให้คนซ้อนท้ายและห้ามเมาแล้วขับ

3. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเหมียวลี่ลงทุนปลอมตัวเป็นชาวนา รวบแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมายในท้องทุ่ง 69 ราย

      แรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเกลื่อน! ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองในเมืองเหมียวลี่หลายนายลงทุนปลอมตัวเป็นชาวนาและแรงงานที่รับจ้างทำงานในทุ่งนา เพื่อตรวจดูลาดเลาการทำงานของแรงงานผิดกฎหมายในท้องนาและไร่สวนในเมืองเหมียวลี่ ปรากฏว่า สามารถจับกุมแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายได้ถึง 69 ราย ในจำนวนนี้เป็นแรงงานต่างชาติที่ติดคดีทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ถูกศาลออกหมายจับ 4 ราย นอกจากนี้ยังจับนายจ้างที่ว่าจ้างแรงงานผิดกฎหมายได้ 3 รายและนายหน้าจัดหางานอีก 3 ราย

ตำรวจ ตม. ที่เมืองเหมียวลี่ลงทุนปลอมตัวเป็นชาวนา รวบแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมายในท้องทุ่ง 69 ราย

      โฆษกสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสาขาเหมียวลี่แถลงว่า มีพลเมืองดีแจ้งข้อมูลการจ้างงานแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานในภาคการเกษตร ช่วงเช้าตรู่วันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองหลายนายปลอมตัวเป็นชาวนา สวมหมวกงอบ ใส่ชุดและรองเท้ายางของชาวนาเดินทางไปดักรอตามจุดต่าง ๆ ในทุ่งนา เมื่อฟ้าสางเริ่มมีแรงงานต่างชาติผิดกฎหมายทยอยขี่รถจักรยานไฟฟ้ามาที่ทุ่งนาเพื่อเข้าทำงาน ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเข้าไปแสดงตัวและสอบถาม แรงงานต่างชาติผิดกฎหมายเหล่านี้เมื่อรู้ว่าเป็นตำรวจ อ้างมาหาเพื่อน ต่างหนีกระเจิงไปตามทุ่งนา ตำรวจไล่จับกันอลหม่าน สามารถจับได้กลางทุ่งนา 5 ราย รวมตลอดเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จับได้ทั้งหมด 69 ราย

ตำรวจ ตม. ที่เมืองเหมียวลี่ลงทุนปลอมตัวเป็นชาวนา รวบแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมายในท้องทุ่ง 69 ราย

      นอกจากตามไร่นาแล้ว เป้าหมายการตรวจจับอีกจุดหนึ่งคือ ไซต์งานก่อสร้าง ตำรวจปลอมตัวเป็นกรรมกรก่อสร้าง สามารถจับกุมแรงงานผิดกฎหมายได้เป็นจำนวนมาก ที่สำคัญจับผู้รับเหมาและนายจ้างดำเนินคดีหลายราย ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเหมียวลี่กล่าวว่า ยึดนโยบายปกป้องสิทธิประโยชน์แรงงานถูกกฎหมาย กวาดล้างการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมาย เรียกร้องนายจ้างหลีกเลี่ยงว่าจ้างแรงงานต่างชาติโดยไม่ได้รับอนุญาต มิเช่นนั้น จะถูกลงโทษปรับหนักและยังมีโทษทางอาญาด้วย ขณะเดียวกันเรียกร้องแรงงานต่างชาติ อย่างหลงเชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อทางโซเชียล ล่ามหรือนายหน้าเถื่อน หลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย เพราะนอกจากไร้หลักประกัน ยังต้องอยู่อย่างหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำให้เสียสุขภาพจิตและไม่สามารถเก็บเงินเก็บทองได้เหมือนกับทำงานอย่างถูกกฎหมายกับนายจ้างเดิม

ตำรวจ ตม. ที่เมืองเหมียวลี่ลงทุนปลอมตัวเป็นชาวนา รวบแรงงานต่างชาติทำงานผิดกฎหมายในท้องทุ่ง 69 ราย

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง