:::

ไขปัญหาแรงงาน วันพุธที่ 14 ตุลาคม 2563

  • 14 October, 2020
ไขปัญหาแรงงาน
ส่งกลับแรงงานเวียดนามผิดกฎหมาย 289 คน นอกจากต้องล็อคกุญแจมือเป็นคู่ๆ แล้ว ยังต้องใช้ตำรวจคุมเข้มถึง 500 นาย

1. เข้าฤดูใบไม้ร่วง อากาศเปลี่ยน ระวังไขหวัดใหญ่ คนแห่ฉีดวัคซีนป้องกัน

         เข้าสู่ช่วงปลายปี อากาศเปลี่ยนเป็นหนาวเย็น และจะเริ่มเข้าสู่หน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่โรคระบบทางเดินหายใจระบาดได้ง่าย ยิ่งปีนี้ มีโรคโควิดระบาดรุนแรง จำเป็นต้องดูแลสุขภาพตัวเอง

         แนะนำว่า ยังต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด การ์ดอย่าตก ด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกจากสถานที่พัก หมั่นล้างมือและหลีกเลี่ยงไปยังสถานที่มีผู้คนแออัดหรือการถ่ายเทของอากาศไม่ดี

ช่วงปลายปีอากาศเปลี่ยน ร่างกายปรับตัวไม่ทัน มักจะป่วยเป็นไข้หวัดได้ง่าย

2. สถานการณ์โควิด-19 ต่างประเทศ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น การเดินทางมาทำงานที่ไต้หวันยังติดขัด

         สืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในต่างประเทศไม่มีทีท่าจะบรรเทาลง แถมมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ทำให้การเดินทางมาทำงานที่ไต้หวันยังคงติดขัด โดยเฉพาะมาตรการกักตัวเพื่อสังเกตอาการ 14 วัน ผู้ประกอบการจำนวนมากไม่มีสถานที่กักตัวแรงงานต่างชาติ ต้องใช้บริการโรงแรมกักโรค ทำให้ไม่เพียงพอ ต้องจองล่วงหน้าเป็นเวลานาน และค่าห้องพักมีแรงงานแพงขึ้นประมาณร้อยละ 50

บรรยากาศการต่อแถวโดยเว้นระยะห่างขณะรับประทานอาหารของแรงงานไทยในโรงงานวาโก้ เถาหยวน

3. นายจ้างไต้หวันเรียกร้องแก้กฎหมาย อนุญาตแรงงานต่างชาติที่มีทักษะฝีมือ อยู่ทำงานในไต้หวันได้เกินกว่า 12 ปี

         ข้อกำหนดที่จำกัดแรงงานต่างชาติทำงานในไต้หวันได้ไม่เกิน 12 ปี เริ่มเป็นปัญหาใหญ่ของผู้ประกอบการแล้ว มีนายจ้างจำนวนมากโอดครวญแรงงานต่างชาติของตน ฝึกฝนมาจนเชี่ยวชาญในหน้าที่การงาน แต่ต้องเดินทางกลับประเทศเพราะครบกำหนดระยะเวลาทำงาน 12 ปี และไม่สามารถกลับมาทำงานที่ไต้หวันได้อีก นายจ้างต้องนำเข้าแรงงานคนใหม่มาฝึกฝนต่อ กลายเป็นความสูญเสียใหญ่หลวงของภาคอุตสาหกรรมไต้หวัน

นายจ้างไต้หวันเรียกร้องแก้กฎหมาย อนุญาตแรงงานต่างชาติที่มีทักษะฝีมือ อยู่ทำงานในไต้หวันได้เกินกว่า 12 ปี

         แรงงานเนื่องจากอัตราการเกิดลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ไต้หวันต้องเผชิญกับปัญหาและภาวะวิกฤตที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากร การปันผลทางประชากร หรือการได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากรหมดสิ้นลงไปในปีค.ศ. 2027 หรืออีก 7 ปีข้างหน้า ทำให้ไต้หวันประสบภาวะขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก โดยเฉพาะแรงงานที่มีทักษะฝีมือระดับปานกลาง หรือแรงงานกึ่งฝีมือ เช่นพนักงานประกอบเครื่องจักร พนักงานควบคุมเครื่องจักร และพนักงานการผลิตเป็นต้น จากการสำรวจของกระทรวงเศรษฐการพบว่า ภาคการผลิตของไต้หวันขาดแคลนแรงงานระดับปานกลางสูงถึง 210,000 คน ส่วนใหญ่เป็น ดังนั้นคณะกรรมการพัฒนาแห่งชาติของไต้หวัน ได้ร่างกฎหมายคนเข้าเมืองและเศรษฐกิจใหม่ เพิ่มการว่าจ้างแรงงานกึ่งฝีมือ ได้แก่แรงงานต่างชาติที่มีทักษะฝีมือและทำงานในไต้หวันครบ 6 ปีขึ้นไป ยกระดับให้เป็นแรงงานกึ่งฝีมือได้ หรือนักเรียนนักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษาในไต้หวันระดับมัธยมปลายหรืออาชีวศึกษาสามารถเข้าทำงานได้ โดยกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่า 41,393 เหรียญไต้หวัน สำหรับแรงงานในภาคการผลิต และผู้อนุบาลในครัวเรือนจ่ายค่าจ้างไม่ต่ำกว่า 32,000 เหรียญ เพื่อยกระดับเป็นแรงงานกึ่งฝีมือ ซึ่งจะไม่ถูกจำกัดระยะเวลาทำงานเหมือนแรงงานต่างชาติทั่วไปอีกต่อไป แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้ ยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภานิติบัญญัติ

นายจ้างไต้หวันเรียกร้องแก้กฎหมาย อนุญาตแรงงานต่างชาติที่มีทักษะฝีมือ อยู่ทำงานในไต้หวันได้เกินกว่า 12 ปี

         นางเฉินเหม่ยหลิง อดีตประธานคณะกรรมการพัฒนาแห่งชาติแถลงว่า ปัจจุบัน หลายประเทศใช้มาตรการและเสนอเงื่อนไขต่างๆ ดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะฝีมือเดินทางไปทำงานในประเทศ ไต้หวันจะมีความคิดต่อต้านหรือไม่ต้อนรับชาวต่างชาติไม่ได้ เนื่องจากทุกวันนี้ ไต้หวันกำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานในทุกระดับชั้น โดยเฉพาะแรงงานกึ่งฝีมือ จากตัวเลขของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า ขาดแคลนกว่า 210,000 คน แต่ตามกฎหมายการจ้างงานในปัจจุบัน แรงงานต่างชาติในภาคการผลิตทำงานได้ไม่เกิน 12 ปี เมื่อครบกำหนดแล้ว ต้องเดินทางกลับประเทศ ไม่สามารถอยู่ทำงานในไต้หวันได้ต่อไป จึงมีนายจ้างจำนวนมากสะท้อนว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายมากที่เราได้ฝึกและสอนเทนิคการทำงานให้แรงงานต่างชาติมาเป็นเวลา 12 ปี จนมีทักษะฝีมือและเชี่ยวชาญในหน้าที่การงานเป็นอย่างมาก แต่แล้วไม่ให้อยู่ทำงานต่อไป สุดท้ายพวกเขาก็ถูกประเทศอื่นๆ แย่งตัวไป นอกจากแรงงานภาคการผลิตแล้ว แรงงานต่างชาติในภาคสวัสดิการสังคม เช่นผู้อนุบาลในครัวเรือน ซึ่งทำงานได้ไม่เกิน 14 ปี ผู้อนุบาลต่างชาติเหล่านี้กับผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ถูกดูแล มีความไว้วางใจและมีความผูกพันซึ่งกันและกัน กฎหมายกลับบังคับให้พวกเขาอยู่ทำงานในไต้หวันต่อไปไม่ได้ เป็นเรื่องที่ไร้เหตุผล ทำไมไม่ให้แรงงานต่างชาติในภาคการผลิตและภาคสวัสดิการสังคมซึ่งไต้หวันมีความต้องการเป็นอย่างมาก ยกระดับเป็นแรงงานกึ่งฝีมือ อยู่ทำงานในไต้หวันต่อไปได้ ซึ่งไม่เพียงแต่จะถูกหลักสิทธิมนุษชน ยังสอดคล้องกับความต้องการของชาวไต้หวันและอุตสาหกรรมการผลิตของไต้หวันด้วย

         อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน ระยะเวลาทำงานในไต้หวันของแรงงานต่างชาติยังเหมือนเดิม ภาคการผลิต รวมสะสมแล้วไม่เกิน 12 ปี ภาคสวัสดิการสังคมไม่เกิน 14 ปี

ปัจจุบัน ระยะเวลาทำงานในไต้หวันของแรงงานต่างชาติภาคการผลิต รวมสะสมแล้วไม่เกิน 12 ปี ภาคสวัสดิการสังคมไม่เกิน 14 ปี

4. ค่าหัวคิวสูงถึง 210,000 เหรียญ มากว่าแรงงานไทย 2-3 เท่า 1 ในต้นเหตุสำคัญการหลบหนีของแรงงานเวียดนาม

         ตั้งแต่เกิดการระบาดโควิด-19 เวียดนามมีการปิดประเทศตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา ทำให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันไม่สามารถส่งกลับแรงงานเวียดนามผิดกฎหมายตามปกติได้ สถานกักกันทุกแห่งอยู่ในสภาพเต็ม เพราะแรงงานเวียดนามผิดกฎหมายที่ถูกตรวจพบ มีแต่เข้าไม่มีการระบายออก สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองไต้หวันต้องประสานเจรจากับรัฐบาลเวียดนาม จัดส่งเที่ยวบินพิเศษของสายการบินเวียดนามแอร์ไลน์ ลำเลียงแรงงานเวียดนามผิดกฎหมายจำนวน 289 คนเดินทางกลับบ้านเมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมานี้   นอกจากใส่กุญแจมือเป็นคู่ๆ แล้ว ยังมีตำรวจนอกเครื่องแบบประกบแรงงานเวียดนามผิดกฎหมายทั้ง 298 คนถึง 500 นาย

ส่งกลับแรงงานเวียดนามผิดกฎหมาย 289 คน นอกจากต้องล็อคกุญแจมือเป็นคู่ๆ แล้ว ยังต้องใช้ตำรวจคุมเข้มถึง 500 นาย

         สาเหตุที่แรงงานเวียดนามมีอัตราการหลบหนีสูงอย่างต่อเนื่อง มาจากแรงกดดันด้านหนี้สิน ซึ่งเกิดจากการกู้ยืมเพื่อนำมาจ่ายเป็นค่าบริการจัดหางาน หรือที่เรียกกันว่าค่าหัวคิวแก่บริษัทจัดหางาน รัฐบาลเวียดนามอนุญาตให้บริษัทจัดหางานเก็บค่าหัวคิวได้ไม่เกิน 4,000 USD แต่ราคาท้องตลาดเก็บกัน 6,000-7,000 USD ตกประมาณ 180,000-210,000 เหรียญไต้หวัน เมื่อเดินทางมาทำงานที่ไต้หวันครบสัญญา 3 ปี หนี้ยังไม่ทันจะหมด แทนที่จะได้ต่อสัญญาใหม่ทำงานหาเงินต่อไป ตามที่กฎหมายกำหนด กลับถูกบริษัทจัดหางานเรียกเก็บค่าต่อสัญญา หรือบังคับให้เดินทางกลับประเทศไปเสียค่าหัวคิวมารอบใหม่ ทำให้แรงงานเวียดนามจำนวนมากเลือกใช้วิธีแก้ปัญหาด้วยการหลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย

ส่งกลับแรงงานเวียดนามผิดกฎหมาย 289 คน นอกจากต้องล็อคกุญแจมือเป็นคู่ๆ แล้ว ยังต้องใช้ตำรวจคุมเข้มถึง 500 นาย

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง