RTI Radio Taiwan International 
RTI Radio Taiwan International 
1. โอมิครอนมาแรง แรงงานไทยรอบินกลัวเข้าไต้หวันไม่ได้ ยืนยันไม่ต้องกังวล แรงงานอินโดฯ และไทย ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษเดินทางเข้าไต้หวันได้ตามปกติ
หลังจากสถานการณ์โควิดสายพันธุ์โอมิครอนแพร่ระบาดในต่างประเทศอย่างรวดเร็ว ในไต้หวันเองก็เกิดการระบาดรอบใหม่ ปรากฏคลัสเตอร์ติดเชื้อโอมิครอนภายในประเทศเช่นกัน และดูเหมือนสถานการณ์จะมีแนวโน้มรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะที่นครเถาหยวนและนครเกาสง จึงหวั่นเกรงว่า จะมีการประกาศยกระดับมาตรการป้องกันโรคเป็นระดับ 3 หรืออาจถึงขั้นเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมพรมแดนอีกครั้งหรือไม่ ทำให้แรงงานไทยที่รอบิน ซึ่งกระทรวงแรงงานประกาศเปิดให้นำเข้าได้เป็นกรณีพิเศษเป็นชาติที่ 2 ถัดจากอินโดนีเซีย ตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย. 64 แต่เนื่องจากใกล้ตรุษจีน ห้องกักตัวไม่เพียงพอ ดังนั้น จะสามารถเดินทางได้จริงหลังวันที่ 15 ก.พ. ไปแล้ว เกรงว่าสถานการณ์โควิดในไต้หวันทวีความรุนแรงขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางเข้าไต้หวันของแรงงานไทยได้
แรงงานไทยกำลังนั่งรอขอวีซ่าที่สนง.เศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเปประจำประเทศไทย (ภาพโดย บจง.เอส.พี.ที. บิ๊กวัน อินเตอร์เนชั่นแนล)
ขอเรียนให้ทราบว่า สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองประกาศเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2565 ชาวต่างชาติที่สามารถเดินทางเข้าสู่ไต้หวันได้ มีดังนี้
1. ผู้มีบัตร ARC ที่ยังไม่หมดอายุ จะต้องมีใบอนุญาตกลับเข้ามาในไต้หวัน หรือ Re-Entry จาก สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง
2. ผู้ไม่มีบัตร ARC ไม่สามารถเดินทางเข้าไต้หวันได้ ยกเว้นกรณีเร่งด่วนและคำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ซึ่งต้องได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ และบุตรที่มีอายุไม่บรรลุนิติภาวะของผู้ตั้งถิ่นฐานใหม่
3. นักศึกษาที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการ
4. แรงงานต่างชาติที่ได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจากกระทรวงแรงงาน ซึ่งปัจจุบันมีแรงงานจากอินโดนีเซียและไทย
ปัจจุบัน มีแรงงานเพียง 2 ชาติเท่านั้น ได้แก่อินโดนีเซียและไทย ได้รับอนุญาตเดินทางมาทำงานที่ไต้หวันได้เป็นกรณีพิเศษ
ผู้ที่เดินทางเข้าไต้หวันจะต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคที่ประเทศต้นทาง อาทิ แสดงผลการตรวจโควิดเป็นลบ ด้วยวิธี PCR ก่อนการเดินทางภายใน 2 วัน (ไม่นับวันเดินทาง) หลังตรวจ PCR ต้องพักในห้องพัก 1 คนต่อ 1 ห้อง ฯลฯ และหลังเดินทางเข้าสู่ไต้หวันแล้วต้องกักตัว 14 วัน
2. ระวัง! หญิงไต้หวันได้รับน้ำมันกัญชาที่ส่งมาจากเพื่อนในไทยถูกจับ
หลังจากที่ประเทศไทยปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และอนุญาตให้นำไปใช้ในทางการแพทย์ น้ำมันกัญชาได้กลายเป็นรูปแบบยาประเภทหนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจ เนื่องจากมีประโยชน์และสรรพคุณที่ช่วยรักษาโรคบางชนิดได้ แต่ในไต้หวันยังถือกัญชาเป็นยาเสพติดประเภทสอง การนำเข้ากัญชาและผลิตภัณฑ์ อาทิ น้ำมันกัญชา ฯลฯ ถือว่าผิดกฎหมาย
หญิงไต้หวันถูกจับ ขณะแกะกล่องพัสดุที่เพื่อนในไทยหวังดีส่งน้ำมันกัญชามาให้
นางหลัว หญิงไต้หวันอายุ 65 ปี มีบ้านอยู่ที่เมืองหนานโถว เนื่องจากมีอาการกระสับกระส่ายและนอนไม่หลับมาเป็นเวลานาน เพื่อนที่อยู่เมืองไทยหวังดี ส่งน้ำมันกัญชามาให้ 2 ขวดเล็ก น้ำหนัก 15.9 กรัม และเขียนบอกมาไลน์ด้วยว่า ให้นำไปหยดลงในน้ำดื่ม 2-3 หยด แก้ปัญหาโรคนอนไม่หลับ พร้อมส่งครีมทาบรรเทาปวดและผลไม้อบแห้งจำนวนหนึ่ง แต่ขณะที่พัสดุส่งมาถึงบ้าน กำลังจะแกะกล่อง ถูกตำรวจนับสิบนายที่มาดักรออยู่แล้วกรูกันเข้ามาจับกุม ข้อหานำเข้ายาเสพติด
นางหลัวถูกฟ้องข้อหานำเข้าน้ำมันกัญชา ซึ่งเป็นยาเสพติดประเภท 2
คดีนี้หลังจากอัยการศาลท้องถิ่นเมืองหนานโถวตรวจสอบนานเป็นเดือน ทราบว่า เป็นความหวังดีของเพื่อนที่เมืองไทย ส่งมาให้บรรเทาอาการนอนไม่หลับ โดยที่ผู้ต้องหาไม่ได้สั่งซื้อ อีกทั้งผู้รับเป็นชื่อและที่อยู่ของผู้ต้องหา หากเป็นผู้สั่งซื้อคงเลี่ยงใช้ชื่อตัวเอง จึงยกฟ้อง นางหลัวกล่าวหลังรอดคดีว่า ตลอดระยะเวลาที่ต้องคดี ทำให้ตนกินไม่ได้ อาการนอนไม่หลับยิ่งรุนแรงขึ้น ต่อไปไม่กล้ารับของจากต่างประเทศอีกแล้ว
ยังดีที่มีหลักฐานเป็นข้อความในไลน์แสดงถึงเพื่อนในไทยเป็นคนส่งมาให้เพื่อใช้บรรเทาอาการนอนไม่หลับ อัยการจึงยกฟ้อง
ขอเตือนแรงงานไทย ในไต้หวัน กัญชาเป็นยาเสพติดประเภท 2 ห้ามปลูกหรือนำเข้ากัญชาและผลิตภัณฑ์กัญชา ผู้ฝ่าฝืน มีโทษจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุก 7 ปีขึ้นไป (ปรับไม่เกิน 7 ล้าน TWD.)
