1. ปีใหม่นี้มีแนวโน้มจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต่อเนื่อง รอลุ้นผลมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำในเดือนสิงหาคมศกนี้
ปัญหาควรปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปีใหม่นี้หรือไม่ กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมของไต้หวันอีกครั้ง มีสื่อรายงานว่า รัฐบาลจะมีแนวโน้มจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในปีใหม่นี้ หลังจากที่ปรับขึ้นต่อเนื่องมาแล้ว 6 ปี โดยจะปรับขึ้นในอัตรา 4% หรือ 1,010 เหรียญ เป็น 26,260 เหรียญ เกี่ยวกับเรื่องนี้ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินเคยกล่าวขณะปราศรัยในพิธีเปิดการประชุมสามัญประจำปีของสมาพันธ์สหภาพแรงงาน ซึ่งเป็นองค์กรลูกจ้างใหญ่สุดของไต้หวันเมื่อวันที่ 7 มิ.ย. ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลมีนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต่อเนื่องทุกปี ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง หากมีความลำบากจากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ รัฐบาลจะให้ความช่วยเหลือ ผู้นำไต้หวันกล่าวย้ำว่า รัฐบาลจะขจัดอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง เพื่อให้มีการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำอย่างต่อเนื่องทุกปี
ปีใหม่นี้ มีหวังได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำต่อเนื่อง (ในภาพเป็นแรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว นครเถาหยวน)
ขณะที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่คัดค้าน พวกเขาเห็นว่า ไต้หวันส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ค่อนข้างรุนแรง ส่งให้ภาวะเศรษฐกิจซบเซา มีเพียงอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์เป็นต้นเท่านั้น ที่เติบโตการสวนกระแส การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำในสภาวการณ์เช่นนั้น จึงทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยิ่งประสบปัญหา
6 ปีที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือนไปแล้ว 6 ครั้ง จาก 20,008 เหรียญ ปัจจุบันอยู่ที่ 25,250 เหรียญไต้หวัน ปรับขึ้นแล้ว 26.2%
ส่วนพรรคฝ่ายค้านกล่าวว่า ไม่คัดค้านการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ แต่นั่นเป็นเพียง 1 ในวิธีแก้ปัญหาค่าจ้างตกต่ำเท่านั้น กลุ่มผู้ใช้แรงงานส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลประโยชน์จากการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ รัฐบาลจึงควรหาทางแก้ปัญหาด้วยการใช้มาตรการจูงใจให้นายจ้างยินยอมปรับขึ้นค่าจ้างแก่ลูกจ้าง อย่างเช่นการลดภาษีให้นายจ้างเป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้แรงงานได้รับผลประโยชน์ถ้วนหน้า นอกจากนี้ ยังควรผลักดันให้ผ่านร่างกฎหมายค่าจ้างขั้นต่ำ นอกจากเป็นการคุ้มครองแรงงานแล้ว แต่ละปี ไม่ต้องมาปวดหัวและทะเลาะกันในเรื่องนี้ ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้างและรัฐบาล
แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างในไทเป
ด้านกระทรวงแรงงานกล่าวว่า ต้องให้ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาค่าจ้างขั้นต่ำเป็นผู้ตัดสิน ซึ่งมีกำหนดจัดการประชุมทุกไตรมาสที่ 3 ในเดือนสิงหาคมของปี เพื่อพิจารณาการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในปีถัดไป โดยพิจารณาจากดัชนีผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และอัตรkการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นต้น
2. นายจ้างหลายรายเริ่มสอบถามวิธีนำเข้าแรงงานเก่าในฐานะแรงงานกึ่งฝีมือ ตัดปัญหาต้องแนบหลักฐานทักษะฝีมือ ยอมจ่ายค่าจ้าง 35,000 เหรียญ
แรงงานไทยจำนวนไม่น้อยที่ทำงานดี เป็นที่ชื่นชมของนายจ้าง แต่ต้องเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากทำงานครบ 12 หรือ 14 ปี ตามที่กฎหมายการจ้างงานกำหนด หลังจากกระทรวงแรงงานไต้หวันประกาศให้นายจ้างสามารถยื่นขอว่าจ้างแรงงานต่างชาติเป็นแรงงานกึ่งฝีมือได้ เงื่อนไขคือต้องมีอายุการทำงานต่อเนื่องครบ 6 ปีขึ้นไป หรือมีอายุงานสะสมครบตามระยะเวลาที่กฎหมายการจ้างงานกำหนด 12 ปี หรือ 14 ปี มีทักษะฝีมือ และนายจ้างยินยอมจ่ายค่าจ้างตามเกณฑ์กำหนด โดยจะไม่ถูกจำกัดระยะเวลาทำงานเหมือนแรงงานต่างชาติทั่วไป เมื่อทำงานในสถานะแรงงานกึ่งฝีมือต่อเนื่องครบ 5 ปีแล้ว สามารถขอถิ่นที่อยู่ถาวรได้ และให้มีผลตั้งแต่ 30 เมษายนเป็นต้นมา นอกจากมีแรงงานไทยให้ความสนใจในเรื่องนี้แล้ว นายจ้างจำนวนไม่น้อยมีการสอบถามขั้นตอนการนำเข้าแรงงานเก่าที่เดินทางกลับประเทศแล้ว กลับมาทำงานใหม่ในฐานะแรงงานกึ่งฝีมือ
นายจ้างไต้หวันหลายรายต้องการนำเข้าคนงานไทยเก่า ในภาพเป็นแรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าเมื่อหลายปีก่อน
กระทรวงแรงงานกล่าวว่า แรงงานต่างชาติที่เคยทำงานในไต้หวันครบ 12/14 ปี และเดินทางกลับประเทศแล้ว หากนายจ้างเก่ารายใดรายหนึ่งประสงค์จะว่าจ้างเป็นแรงงานกึ่งฝีมือ โดยทำตามเงื่อนไข คือจ่ายค่าจ้าง (รวมเงินรางวัลประจำ แต่ไม่รวมค่าโอที) 35,000 เหรียญไต้หวันต่อเดือน ไม่ต้องแสดงหลักฐานทางด้านทักษะฝีมือใด ๆ สามารถนำเข้ามาทำงานที่ไต้หวันใหม่ได้ โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นงานประเภทเดิม ส่วนขั้นตอนและวิธีการนำเข้า รวมทั้งระหว่างที่ทำงานอยู่ในไต้หวัน ให้ปฏิบัติตามการนำเข้าแรงงานต่างชาติทั่วไปทุกประการ เช่น ต้องตรวจสุขภาพตามกำหนด ทำสัญญาครั้งละ 3 ปี แต่ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
แรงงานต่างชาติที่ทำงานครบ 12/14 ปี เดินทางกลับประเทศไปแล้ว นายจ้างสามารถว่าจ้างมาทำงานที่ไต้หวันได้ในฐานะแรงงานกึ่งฝีมือ โดยจ่ายค่าจ้าง 35,000 เหรียญต่อเดือน
แรงงานไทยที่ทำงานครบ 12/14 ปีและเดินทางกลับไปแล้ว หากสนใจติดต่อกับนายจ้างเดิมได้ เท่าที่ทราบ มีนายจ้างหลายรายได้เก็บข้อมูลการติดต่อเอาไว้ แต่บางรายอาจไม่สามารถติดต่อได้ โดยในช่วงนี้ มีนายจ้างจำนวนไม่น้อย ติดต่อเองหรือให้บริษัทจัดหางานสอบถามวิธีและขั้นตอนการนำเข้าแรงงานไทยคนเก่า โดยบอกว่ายินยอมจ่ายค่าจ้าง 35,000 เหรียญต่อเดือน เพื่อตัดปัญหาต้องแนบหลักฐานแสดงทักษะฝีมือ
แรงงานไทยในไซต์งานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียวในนครเถาหยวน
ส่วนแรงงานไทยทำงานไม่ครบ 6 ปี เดินทางกลับประเทศและกลับเข้ามาทำงานที่ไต้หวันต่อ จะต้องทำงานต่อเนื่องจนครบ 6 ปี จึงจะมีสิทธิ์ยื่นขอยกระดับเป็นแรงงานกึ่งฝีมือได้ สำหรับคนที่เคยทำงานครบ 6 ปีแล้วเดินทางกลับประเทศ และกลับเข้ามาทำงานที่ไต้หวันต่อ จะต้องเดินทางมาทำงานเป็นแรงงานต่างชาติทั่วไป จนมีอายุงานสะสมครบ 12 ปี จึงจะมีสิทธิ์ยื่นขอยกระดับเป็นแรงงานกึ่งฝีมือได้
3. นครนิวไทเป เปิดสอนภาษาจีนฟรี ผลการเรียนดี 30% แรก ช่วยออกค่าลงทะเบียนสมัครสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนหรือ TOCFL ใครสนใจสมัครเรียนด่วน เปิดเรียน 3 ก.ค. นี้
เพื่อช่วยให้แรงงานต่างชาติปรับตัวและหลอมรวมกับสังคมไต้หวันได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งช่วยให้การยกระดับเป็นแรงงานกึ่งฝีมือราบรื่นขึ้น กองแรงงานนครนิวไทเป ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหมิงจื้อ (Ming Chi University of Technology : MCUT) จัดหลักสูตรฝึกอบรมภาษาจีนฟรีสำหรับแรงงานต่างชาติที่ทำงานอยู่ในนครนิวไทเป
ภาพบรรยากาศในห้องเรียนภาษาจีนสำหรับแรงงานต่างชาติจัดโดยนครนิวไทเป เมื่อปี 2562
หลักสูตรอบรมภาษาจีนดังกล่าว เปิดให้เรียนฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย โดยแบ่งเป็นชั้นเรียนภาษาจีนขั้นพื้นฐานและชั้นเรียนขั้นสูง โดยชั้นเรียนขั้นพื้นฐาน จะเปิด 4 ห้องเรียน ชาติละ 1 ห้องเรียน ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคมนี้ เรียนทุกวันอาทิตย์ติดต่อกัน 7 สัปดาห์ ส่วนชั้นเรียนขั้นสูงเรียนรวมกันทั้ง 4 ชาติ เริ่มวันอาทิตย์ที่ 6 กันยายน 2565 ส่วนสถานที่เรียน อยู่ที่ศูนย์กิจกรรมแรงงานนครนิวไทเป ที่เขตอู๋กู่ นครนิวไทเป
ภาพบรรยากาศในห้องเรียนภาษาจีนสำหรับแรงงานต่างชาติจัดโดยนครนิวไทเป ในปีก่อน ๆ
นายเฉิน รุ่ยเจีย ผอ. กองแรงงาน นครนิวไทเปกล่าวว่า โครงการแรงงานกึ่งฝีมือ เริ่มมีผลตั้งแต่ 30 เมษายนเป็นต้นมา แรงงานต่างชาติโดยเฉพาะตำแหน่งผู้อนุบาลที่ประสงค์จะยกระดับเป็นแรงงานกึ่งฝีมือ จะต้องผ่านการฝึกอบรมเสริมทักษะการทำงาน 20 ชั่วโมง และต้องผ่านการสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีน เพื่อช่วยให้ผู้อนุบาลต่างชาติได้รับประกาศนียบัตรความรู้ภาษาจีน กองแรงงานจะช่วยออกค่าลงทะเบียนสมัครสอบวัดระดับความรู้ภาษาจีนหรือ TOCFL ให้แก่ผู้ที่มีผลการเรียนดีอยู่ใน 30% แรกของผู้เข้ารับการอบรมทั้งหมด
แรงงานต่างชาติที่ทำงานอยู่ในนครนิวไทเป หากสนใจรีบสมัครเรียนได้ที่ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหมิงจื้อ โทรศัพท์ 02-2908-9899 เบอร์ภายใน 4933 และ 4224 หรือสมัครผ่านระบบออนไลน์ สแกน QRCode ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์
สมัครเรียนผ่านระบบออนไลน์ โดยสแกน QRCode ภาพแรกในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์