close
Rti Thaiดาวน์โหลด Rti App
Open
:::

สโมสรผู้ฟัง วันเสาร์ที่ 4 มกราคม 2567

  • 05 January, 2025
สโมสรผู้ฟัง
1 ม.ค. 68 เป็นต้นไป พกบัตรประกันสุขภาพไปรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีได้ตามสถานพยาบาลต่าง ๆ

1. ไข้หวัดใหญ่ระบาดต่อเนื่อง ไต้หวันเปิดให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรี ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป (รวมแรงงานต่างชาติด้วย)

          ผ่านพ้นปี 2567 ย่างก้าวเข้าสู่ปี 2568 กันแล้วนะคะ ในไต้หวันอากาศยังคงหนาวเย็นและโรคไข้หวัดใหญ่ยังคงระบาดต่อเนื่อง รัฐบาลไต้หวันจึงเปิดให้ประชาชนที่อายุตั้งแต่ 6 เดือนไปรับการฉีดวัคซีนได้ฟรี โดยก่อนหน้านี้เปิดให้กลุ่มเสี่ยงสูงคือผู้สูงวัยอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป ไปรับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้ฟรีตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว ต่อมาเดือนพฤศจิกายนเปิดให้ผู้ที่อายุ 55 ปีขึ้นไปรับการฉีดวัคซีนฟรี ณ วันที่ 2 มกราคม 2568 มีคนเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่แล้ว 5,804,120 คน สำหรับเพื่อนชาวไทยมาทำงานหรือศึกษาต่อในไต้หวัน ก็ได้รับสิทธิ์ให้เข้ารับการฉีดวัคซีนฟรีด้วยเช่นกัน สามารถไปรับการฉีดวัคซีนฟรี ได้ตามสถานพยาบาล ทั้งโรงพยาบาลและคลินิกใกล้ที่พัก เพียงแค่แสดงบัตรประกันสุขภาพเท่านั้น

ไข้หวัดใหญ่ระบาด ไต้หวันเปิดให้ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ฟรีตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป รวมชาวต่างชาติด้วย(ภาพจาก cw.com.tw)

2. ปี 2567 ไต้หวันมีอุณหภูมิเฉลี่ย 24.97°c  ทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ ฤดูใบไม้ร่วงมีไต้ฝุ่นก่อตัว 15 ลูก มากเป็นอันดับ 3

          ภาวะโลกร้อนกำลังคุกคามทั่วโลก ไต้หวันเองก็หนีไม่พ้น ปี 2567 ไต้หวันมีอุณหภูมิเฉลี่ย 24.97°c เพิ่มขึ้นจากอุณหภูมิเฉลี่ยในรอบ 100 ปี ถึง 1.66°c ทำสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำลายสถิติในปี 2563 ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 24.91 โดยพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงที่สุดอยู่ที่ ตั้นสุ่ย ซินจู๋ ไทจง ทะเลสาบสุริยันจันทรา ไถหนาน ตำบลเฉิงกงและต้าอู่ในเมืองไถตง 

ปี 2567 ไต้หวันมีอุณหภูมิเฉลี่ย 24.97°c เพิ่มขึ้นจากอุณหภูมิเฉลี่ยในรอบ 100 ปี ถึง 1.66°c ทำสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์

          ในขณะที่มีพายุไต้ฝุ่นก่อตัว 26 ลูก มากกว่าค่าเฉลี่ยที่ 25.4 ลูกเล็กน้อย ในจำนวนนี้พัดกระหน่ำไต้หวันโดยตรง 3 ลูก คือไต้ฝุ่นแคมี กระท้อนและกองเร็ย แต่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยมีพายุไต้ฝุ่นเกิดขึ้น สำหรับฤดูใบไม้ร่วงปี 2567 มีพายุไต้ฝุ่นก่อตัวถึง 15 ลูกทำสถิติสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ รองจากปี 2507 และ 2556

เฉินอี๋เหลียง ผอ. ศูนย์พยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยาแถลงว่า ปี 2567 ไต้หวันมีอุณหภูมิเฉลี่ย 24.97°c  ทำสถิติสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ (ภาพจาก CNA)

3. ฮือฮา! ธุรกิจขนส่งทางเรือ สายการบินและธนาคารกิจการดีใจป้ำโบนัสฉ่ำ Evergreen Marine Corp. จ่าย 20 เดือนบวกเงินปันผล ไทเกอร์แอร์ไลน์ 12 เดือน

          ปีใหม่สากลผ่านไปแล้ว อีกไม่นานจะถึงเทศกาลตรุษจีน ช่วงระหว่างนี้ ตามธรรมเนียม ผู้ประกอบการธุรกิจต่าง ๆ ในไต้หวัน นอกจากเตรียมจัดงานเลี้ยงขอบคุณพนักงานประจำปีแล้ว สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนสนใจและอยากทราบมากที่สุดคือ ปีนี้บริษัทของตนจะประกาศจ่ายเงินโบนัสเท่าไหร่? เงินโบนัสสิ้นปีหรือภาษาจีนเรียกว่า เนี๋ยนจงเจี่ยงจิน (年終獎金) ซึ่งนายจ้างจะจ่ายให้พนักงานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานก่อนตรุษจีน ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของธุรกิจทุกประเภท รวมถึงหน่วยงานราชการของไต้หวันด้วย อย่างไรก็ตาม กฎหมายมาตรฐานแรงงานไม่ได้มีการกำหนดให้นายจ้างต้องจ่ายเงินโบนัสสิ้นปีให้แก่พนักงาน ระบุแต่เพียงว่า ธุรกิจที่มีกำไรควรจ่ายเงินโบนัสเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่พนักงาน

สิ่งที่มนุษย์เงินเดือนรอคอยและอยากทราบในช่วงปลายปีคือ บริษัทของตนจะประกาศจ่ายเงินโบนัสเท่าไหร่? (ภาพจาก cardu.com.tw)

          จากการสำรวจของ 104 เว็บไซต์หางานชื่อดังของไต้หวันปรากฏว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา มีหลากหลายกิจการที่ทำกำไร เช่น ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางเรือและสายการบิน กิจการค่อนข้างดี จ่ายเงินโบนัสมากกว่าธุรกิจอื่น ๆ นอกจากนี้ สถาบันการเงินอย่างธนาคารต่าง ๆ กำไรมากกว่าปีก่อน ๆ และเตรียมจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงาน 8-12 เดือน ขณะที่อุตสาหกรรมดั้งเดิมและธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวค่อนข้างแย่ แต่ก็ประกาศจะจ่ายเงินโบนัสเช่นกัน เพียงแต่ว่าน้อยกว่า สรุปแล้ว ผู้ประกอบการในไต้หวันเกือบทั้งหมดหรือ 99.5% มีแผนการจ่ายเงินโบนัส เฉลี่ย 1.12 เดือน และ 13% ของธุรกิจที่จะจ่ายเงินโบนัสกล่าวว่า เงินโบนัสในปีนี้จะมากกว่าปีที่แล้ว ขณะที่ 11.2% บอกว่า น้อยกว่าปีที่แล้ว

ผลการสำรวจของเว็บไซต์หางานพบว่า ปีนี้มีบริษัท 99.5% จะจ่ายโบนัสสิ้นปี เฉลี่ย 1.12 เดือน (ภาพจาก ETtoday)

          หากมองในแง่ของธุรกิจโดยรวม ภาคการเงินและธนาคาร ยังคงครองแชมป์จ่ายโบนัสมากกว่าธุรกิจอื่น และปี 2567 ผลประกอบการดีกว่าทุกปีที่ผ่านมา ดังนั้นพนักงานธนาคารเตรียมรับเงินโบนัสน้อยสุดเริ่มต้นกันที่ 6-8 เดือน สูงสุด 13 เดือน นอกจากนี้หลายธนาคารยังประกาศขึ้นเงินเดือนให้พนักงาน 3-5% ขึ้นไป ธุรกิจที่จ่ายเงินโบนัสสูงรองลงมาได้แก่การขนส่งสินค้าทางทะเล กิจการกลับมาคึกคักอีกครั้งในปี 2567 หลังจากที่ทำกำไรสูงสุดเมื่อปี 2564 เป็นเหตุให้ Evergreen Marine Corp. บริษัทขนส่งสินค้าทางเรือชื่อดังระดับโลกของไต้หวันจ่ายเงินโบนัสปลายปีแก่พนักงาน 40 เดือน และจ่ายเพิ่มเงินโบนัสกลางปีอีก 10 เดือน ในปีนี้จ่ายโบนัส 20 เดือน บวกเงินปันผลอีกคนละ 190,000 เหรียญ รวม 4 ปีที่ผ่านมา จ่ายเงินโบนัสแล้ว 120 เดือน เป็นที่อิจฉาของมนุษย์เงินเดือนในธุรกิจอื่น ๆ ขณะที่ Yang Ming Marine Transport Corporation บริษัทขนส่งสินค้าทางเรืออีกรายที่มีรัฐบาลไต้หวันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ก็ประกาศจ่ายเงินโบนัสแก่พนักงาน 13 เดือนและปรับขึ้นเงินเดือนอีก 3% รวม 4 ปีที่ผ่านมา จ่ายโบนัสไปแล้วรวม 100 เดือน

ปีนี้ธุรกิจขนส่งทางทะเลทำไรสูงขึ้น EVERGREEN MARINE CORP ประกาศจ่ายโบนัส 20 เดือน บวกเงินปันผลอีก 190,000 เหรียญไต้หวัน (ภาพจาก english.cw.com.tw)

          นอกจากธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือแล้ว ปีที่ผ่านมา สายการบินต่าง ๆ ก็ทำกำไรเพิ่มขึ้นอย่างมาก ในจำนวนนี้ Tigerair Taiwan ประกาศจ่ายโบนัสสิ้นปี 12 เดือน มากว่าปี 2566 ที่จ่าย 10.8 เดือน กลายเป็นสายการบินที่จ่ายโบนัสมากที่สุดในวงการธุรกิจสายการบินของไต้หวัน ส่วนสายการบิน EVA Air จ่ายโบนัสสิ้นปีจำนวน 7 เดือน สายการบิน China Airlines จ่ายโบนัส 6 เดือน มากกว่าปีก่อน

Tigerair Taiwan สายการโลว์คอสต์ เตรียมจ่ายโบนัสเฉลี่ย 12 เดือน กลายเป็นสายการบินที่จ่ายโบนัสมากที่สุดในวงการธุรกิจการบินของไต้หวัน (ภาพจาก LTN)

          ธุรกิจอื่น ๆ ที่มีการจ่ายโบนัสรองลงมา ได้แก่อุตสาหกรรมผลิตคอมพิวเตอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้า จ่ายเงินโบนัสเฉลี่ย 1.5 เดือน อุตสาหกรรมด้านทัศนศาสตร์ 1.37 เดือน อุตสาหกรรมดั้งเดิมเฉลี่ย 1.28 เดือน ส่วนธุรกิจที่จ่ายเงินโบนัสน้อยสุดคือ ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมที่พัก เฉลี่ย 0.69 เดือน

          นอกจากธุรกิจภาคเอกชนแล้ว หน่วยงานรัฐบาล ทุกปีจะจ่ายเงินโบนัสสิ้นปี 1.5 เดือน บวกเงินรางวัลตามผลงานอีก 0.5-1 เดือน เพื่อนแรงงานไทยล่ะครับ ทราบว่า มีหลายโรงงานที่จ่ายเงินโบนัสแก่แรงงานต่างชาติเช่นเดียวกับแรงงานท้องถิ่น โรงงานท่านได้หรือไม่? เท่าไหร่?

4. ต้อนรับปีแห่งการลดขยะพลาสติก กระทรวงสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวร่วมผลักดันธุรกิจที่พักแรมปรับเปลี่ยนแชมพูและครีมอาบน้ำมาเป็นแบบขวดใหญ่

       เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2567 กระทรวงสิ่งแวดล้อมไต้หวันประกาศ นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เป็นต้นไป มาตรการควบคุมการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งภายในห้องพัก จะมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ พร้อมกันนี้ได้เสนอมาตรการให้เงินอุดหนุนแก่ผู้ประกอบการทยอยลดการใช้น้ำที่บรรจุในขวดพลาสติก โดยหวังการใช้ขวดพลาสติกและพิชิตเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์

1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจที่พักแรมจัดวางของใช้ในห้องน้ำแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งภายในห้องพัก 

          กระทรวงสิ่งแวดล้อมแถลงว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจที่พักแรมจัดวางของใช้ในห้องน้ำแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งภายในห้องพัก และต้องปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและบำรุงผิว 4 รายการ ซึ่งประกอบด้วย แชมพู ครีมนวดผม สบู่เหลว และโลชั่นบำรุงผิว มาเป็นแบบขวดใหญ่ นอกจากนี้ ของใช้ส่วนตัว 6 อย่าง ได้แก่ หวี แปรงสีฟัน มีดโกนหนวด ครีมโกนหนวด และหมวกคลุมผม ห้ามมิให้จัดวางไว้ในห้องพัก เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้าพักจัดเตรียมมาเอง

1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ห้ามผู้ประกอบการธุรกิจที่พักแรมจัดวางของใช้ในห้องน้ำแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งภายในห้องพัก  (ภาพจาก LTN)

          นายเผิงฉี่หมิง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมเน้นย้ำว่า นโยบายข้างต้นนอกจากจะเป็นการขานรับกระแสการลดก๊าซเรือนกระจกของทั่วโลกและความต้องการด้านการลดขยะพลาสติกแล้ว ยังสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย และเพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าพักจัดเตรียมของใช้ส่วนตัวมาเอง กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้จัดการประชุมผู้ประกอบการเพื่อประชาสัมพันธ์ มากกว่า 50 รอบ รวมถึงจัดกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคทำความเข้าใจกับนโยบายการลดการใช้พลาสติก นอกจากนี้ยังได้จัดทำโฆษณา ผ่านสื่อโซเชียล วิทยุกระจายเสียง สถานีรถไฟฟ้า ท่าอากาศยาน รถไฟ รถไฟความเร็วสูงและรถไฟฟ้าใต้ดิน สื่อวีดิทัศน์บนรถแท็กซี่ ซึ่งคาดว่า ในอนาคตจะสามารถลดปริมาณขยะบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กของผลิตภัณฑ์ที่เป็นของใช้ในห้องน้ำและของใช้ส่วนตัว ในจำนวน 460 ล้านชิ้นต่อปี หรือประมาณ 2,100 ตันต่อปี ซึ่งเท่ากับสามารถลดก๊าซเรือนกระจกได้ 2,500 ตันต่อปี

ผลิตภัณฑ์อาบน้ำและบำรุงผิวที่มีปริมาตรต่ำกว่า 180  มิลลิลิตรหรือซีซี ให้เปลี่ยนมาใช้แบบขวดใหญ่แทน (ภาพจาก LTN)

          นอกจากนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมได้ออกมาตรการให้เงินอุดหนุนผู้ประกอบการที่สามารถบรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณขวดพลาสติกบรรจุน้ำตามที่กำหนด รายละ 30,000 เหรียญไต้หวัน คาดว่าจะช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง