ในช่วงที่ผ่านมาทั้งกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้ออกมาขู่สำทับห้ามนางแนนซี่ เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร สหรัฐฯ เยือนไต้หวัน ตามที่่เป็นข่าวว่า นางฯ จะเยือนไต้หวันในราวกลางเดือน ส.ค. ศกนี้ ซูมิย่วน หมายเลข 10 หนังสือพิมพ์ลูกของ Global Times ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของจีน รายงานด้านการทหารโดยเฉพาะ ได้รายงานว่า หากนางแนนซีฯ เยือนไต้หวันจริง จีนก็จะส่งเครื่องบินรบ J16 J16D และ J20 ขึ้นสกัดบนน่านฟ้าทะเลจีนตะวันออก โดยจะมีเครื่องบินรบอิเล็กทรอนิกส์ J16D คอยให้การสนับสนุน
“ซูมิย่วน 10” รายงานว่า กองทัพจีนได้วิเคราะห์การรับมือในรูปแบบต่าง ๆ หากนางแนนซีฯ เยือนไต้หวัน หนึ่งในแผนการนั้นก็คือมีความเป็นไปได้สูงมากที่สุดที่กองทัพจีนจะส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัดเครื่องบินที่นางแนนซีฯ โดยสารมาเยือนไต้หวัน ซึ่งกองทัพจีนได้วิเคราะห์อย่างละเอียดถึงเส้นทางบิน เครื่องบินรบจะสกัดตรงจุดไหน และสกัดอย่างไร
รายงานข่าวระบุว่า วอชิงตัน ดีซี - ไทเป มีระยะทาง 7850 ไมล์ หรือประมาณ 12633 กม. หากบินด้วยเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ ก็จะต้องใช้เครื่องบินขนส่ง C-17 ซึ่งมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ครบครัน สามารถป้องกันตัวเองได้เป็นอย่างดี หากถูกโจมตี ก็จะไม่อยู่นิ่ง ๆ แต่ C-17 บินจากวอชิงตันไปสนามบินซงซาน ไทเป จะต้องแวะเติมน้ำมัน ซึ่ง C-17 สามารถเติมน้ำมันกลางอากาศได้ แต่หากมีบุคคลสำคัญโดยสารมาด้วย แล้วเติมน้ำมันกลางอากาศก็จะมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง
อีกรูปแบบหนึ่งก็คือนางแนนซีฯ อาจแวะเยือนญี่ปุ่นหรือเกาหลีใต้ก่อน แล้วค่อยบินมาไทเป เช่นเดียวกับ 3 วุฒิสมาชิก และ 10 วุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต สหรัฐฯ ที่เยือนไต้หวันเพียง 3 ชม. ตอนนั้นก็ใช้เครื่องบินขนส่ง C-17 บินจากฐานทัพในเกาหลีใต้มายังสนามบินซงซาน ไทเป ส่วนอีกครั้งเมื่อวันที่ 15 ก.ค. บินจากฐานทัพในโอกินาวา ญี่ปุ่น ด้วยเครื่องบินขนส่ง C-146A มายังสนามบินซงซาน ไทเป แต่ไม่ว่าจะบินมาจากทางไหน ก็ต้องบินผ่านทะเลจีนตะวันออก ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เครื่องบินรบจีนจะบินขึ้นสกัดเครื่องบินที่นางแนนซีฯ โดยสารมายังไต้หวัน เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีส่วนที่เป็นเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศหรือ ADIZ ของจีน
กรอบเส้นแดงเป็นเขต ADIZ ของจีน
