เช้าวันนี้ (6 พฤษภาคม 2567) กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันจัดแถลงข่าวชี้แจ้งต่อกรณีการตั้งคำถามของ สส. สวี่เฉี่ยวซิน (徐巧芯) ถึงความโปร่งใสของการร่วมมือกับสาธารณรัฐเช็กในการช่วยเหลือยูเครน พร้อมเปิดเผยเอกสารลับซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิด โดยกระทรวงการต่างประเทศเผยว่า การกระทำของสวี่เฉี่ยวซินเป็นการหาแสงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของสื่อ ซึ่งจะมีการดำเนินการทางกฎหมายต่อไป ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศเชื่อว่าจีนอาจมีการชักใยอยู่เบื้องหลัง
ไต้หวันและสาธารณรัฐเช็กได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจ 3 ฉบับเกี่ยวกับระบบการบำบัดน้ำ การผลิตพลังงานไฟฟ้าร่วมกับพลังงานความร้อน (Combined Heat and Power,CHP) และ ระบบบริการทางการแพทย์ปฐมภูมิ (Primary care) ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมของปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองประเทศอาศัยแผนความร่วมมือนี้ ในการให้ความช่วยเหลือยูเครน ขณะที่สวี่เฉี่ยวซินตั้งขอสงสัยต่อเนื้อหาในบันทึกความร่วมมือ พร้อมนำเอกสารลับที่กระทรวงการต่างประเทศเตรียมส่งให้สภานิติบัญญัติตรวจสอบ ออกมาเปิดเผยทางสื่ออินเทอร์เน็ต
กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า ความร่วมมือระหว่างไต้หวันและสาธารณรัฐเช็กดำเนินบนหลักการที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งร่างงบประมาณต่างๆได้ผ่านการพิจารณาจากสภานิติบัญญัติ นอกจากนี้ รัฐบาลเช็กยังได้กล่าวด้วยว่า ความช่วยเหลือเหล่านี้จะส่งตรงไปยังพื้นที่ประสบภัยสงครามในยูเครนตะวันออก เพียงแต่ไต้หวันมีสถานการณ์ทางการฑูตที่ค่อนข้างจะพิเศษ เกรงว่าความร่วมมือระหว่างไต้หวันกับประเทศที่มีอุดมการณ์ร่วมกันอาจถูกขัดขวางหรือทำลายได้ ดังนั้นบันทึกความร่วมมือดังกล่าวจึงไม่ถูกเปิดเผยเป็นวงกว้างต่อสาธารณะชน อย่างไรก็ตามบันทึกทึกความร่วมมือฉบับนี้ ได้มีการส่งไปยังสภานิติบัญญัติเพื่อทำการตรวจสอบตามขั้นตอนทางกฎหมาย ดังนั้นจึงไม่ใช้ข้อตกลงลับตามคำกล่าวอ้าง
เนื่องจากไต้หวันและยูเครนไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางการทูต ดังนั้นการให้ความช่วยเหลือ จึงต้องผ่านประเทศพันธมิตรที่ตั้งอยู่ใกล้เคียง ขณะที่บางโครงการไต้หวันได้ร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นหรือองค์กรเอกชนในยูเครนโดยตรง นอกจากนี้ หลายประเทศในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกมีประสบการณ์ในการช่วยเหลือยูเครนอยู่แล้ว ดังนั้นการร่วมมือประเทศเหล่านี้จึงเป็นการเพิ่มหลักประกันมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็สามารถกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับประเทศเหล่านี้ได้อีกด้วย ดังนั้นความร่วมมือลักษณะนี้จึงเปรียบเสมือนการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึง 3 ตัว ช่วยให้ผู้ประกอบการไต้หวันสามารถเข้าถึงตลาดยูเครนในยุคหลังสงครามได้
ด้านนายกรัฐมนตรีเฉินเจี้ยนเหริน (陳建仁) ชี้แจงเพิ่มเติมว่า บัดนี้กระทรวงการต่างประเทศได้ออกมาชี้แจงต่อกรณีดังกล่าวแล้ว หวังว่าทุกคนคงตระหนักถึงสถานการณ์ทางการทูตของไต้หวัน การส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการทูตจึงต้องดำเนินอย่างระมัดระวัง ทั้งนี้เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากมือที่สาม พร้อมกันนี้ยังเผยว่า ตนรู้สึกผิดหวังต่อการกระทำของสวี่เฉี่ยวซินเป็นอย่างยิ่ง การกระทำดังกล่าวนี้จะทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวันกับนานาประเทศ สมาชิกสภานิติบัญญัติทุกคนควรอุทิศตนเพื่อประเทศชาติ ไม่ควรแบ่งพรรคแบ่งฝ่าย
