อาหารเช้าถือเป็นมื้ออาหารสำหรับการเริ่มต้นวันใหม่ที่มีความสำคัญ โดยในไต้หวันมีร้านขายอาหารเช้าและร้านสะดวกซื้อ ที่จำหน่ายอาหารเช้าทั้งในสไตล์จีนและตะวันตกอยู่อย่างหนาแน่น ให้ผู้บริโภคได้เลือกรับประทานกันอย่างอิสระ ซึ่งหากเลือกอย่างไม่ระมัดระวังอาจทำให้คุณค่าทางโภชนาการไม่สมดุลได้ โดยเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางมูลนิธิ Formosa Cancer Foundation ของไต้หวัน ก็ได้เปิดเผยผลสำรวจการเลือกรับประทานอาหารเช้ากับสุขภาพร่างกาย จากกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุระหว่าง 20-65 ปี พบว่า ประชาชนกว่าร้อยละ 30 รับประทานอาหารเช้านอกบ้าน เพราะคนทั่วไปคิดว่าการรับประทานอาหารเช้านอกบ้านสะดวกสบายและรวดเร็ว แต่มีเพียงร้อยละ 20 ที่คำนึงถึงความสำคัญของสุขภาพและคุณค่าทางโภชนาการในอาหารเช้า ขณะที่มีประชาชนไม่ถึงร้อยละ 10 รับประทานผักผลไม้ในมื้อเช้าด้วย
ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจเมนูอาหารเช้าที่คนไต้หวันนิยมจับคู่รับประทานด้วยกันบ่อยที่สุดได้แก่ “ขนมปัง แซนด์วิช แพนเค้กไข่สไตล์ หมั่นโถว ซาลาเปา และข้าวปั้น” คู่กับ “นมถั่วเหลือง กาแฟ นม ชานม ชานมสด น้ำลูกเดือย และน้ำอัลมอนด์” ซึ่งคุณสวี่กุ้ยถิง (徐桂婷) นักโภชนาการของมูลนิธิ Formosa Cancer Foundation ชี้ว่า เมนูอาหารเช้ายอดนิยมของไต้หวันที่ได้กล่าวถึงข้างต้น ส่วนใหญ่จะเป็นจับคู่ที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง ซึ่งไม่เพียงเป็นแป้งขัดสีเท่านั้น แต่ยังขาดผักผลไม้และไฟเบอร์อย่างชัดเจน ดังนั้นเมื่อรับประทานเข้าไปอาจทำให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ อย่างรวดเร็ว จนทำให้รู้สึกอ่อนเพลียง่วงซึมได้
คุณสวี่กุ้ยถิง แนะนำว่า ประชาชนควรให้ความสำคัญกับการเลือกอาหารเช้าที่เพิ่มปริมาณกากใยไฟเบอร์และมีค่าดัชนีน้ำตาลต่ำ (GI) อาทิ ธัญพืช ผัก และผลไม้ เป็นต้น หรือเลือกอาหารต้นแบบคุณค่าทางโภชนาการสูง เช่น ผักและผลไม้สด ไข่ มันเทศ เป็นต้น โดยควรปรุงด้วยกรรมวิธีที่ยังสามารถคงคุณค่าของสารอาหารอันอุดมสมบูรณ์ดั้งเดิมไว้ได้ เพราะนั่นจะทำให้รู้สึกอิ่มมากขึ้นและช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่รวมไปถึงการหลีกเลี่ยงอาหารแปรรูปที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้
