close
Rti Thaiดาวน์โหลด Rti App
Open
:::

ขุนพลแรงงานไทย วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม 2565

  • 09 December, 2022
ขุนพล แรงงานไทย
กระทรวงแรงงานแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการที่แรงงานต่างชาติซื้อรถจักรยานไฟฟ้าต้องได้รับอนุญาตจากนายจ้าง

1. แรงงานเวียดนามหลงเชื่อคนบ้านเดียวกัน หลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย แต่งานไม่มั่นคง คนแนะนำก็ตกงาน ทั้งคู่ถูกจับในร้านอาหาร กระซิบตำรวจจ่ายเงินแทนการจับได้ไหม? เกือบโดนข้อหาติดสินบนอีก 1 กระทง

         นายเว แรงงานเวียดนามอายุ 24 ปี เดินทางมาทำงานที่เมืองจางฮั่ว หลงเชื่อคำชักชวนของนายลี่ อายุ 34 ปี เพื่อนรุ่นพี่คนบ้านเดียวกัน ซึ่งหลบหนีออกจากโรงงานไปทำงานรับจ้างรายวันบอกว่า รับสดวันละ 1,500 เหรียญ หากทำงานทุกวันครบเดือน จะได้ 45,000 เหรียญ มากกว่าทำงานในโรงงาน แถมยังไม่ต้องจ่ายค่าล่าม ไม่ถูกหักภาษีด้วย เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จึงตัดสินใจหลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมายบ้าง แต่เมื่อออกไปแล้วถึงรู้ว่า หางานทำลำบากมาก ไปสมัครตามไซต์งานก่อสร้าง ส่วนใหญ่ไม่กล้ารับ วันไหนโชคดีมีงานทำก็มีเงินซื้ออาหารลงท้อง ไหนต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ซื้ออาหารกินเอง วันไหนไม่มีงานทำจะไม่มีรายได้ ผิดกับอยู่ในโรงงาน ไม่ต้องกังวล แม้จะไม่มีโอที เมื่อถึงสิ้นเดือนจะได้รับค่าจ้างแน่นอน

นายเวกับนายลี่ เพื่อนรุ่นพี่นัดแนะเจอกันที่ร้านอาหารเวียดนามหลังสถานีรถไฟเถาหยวน เพื่อหารือการหางานทำในเถาหยวน แต่ยังไม่ทันสั่งอาหารก็มีตำรวจเข้ามาตรวจในร้าน ถูกจับทั้งคู่

         นายเว จึงโทรหานายลี่ เพื่อนรุ่นพี่รายเดิม ขอคำปรึกษา นายลี่เองก็ยอมรับว่าตนก็กำลังตกงานเหมือนกัน ทั้งสองนัดแนะเจอกันที่ร้านอาหารเวียดนามหลังสถานีรถไฟเถาหยวน เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพื่อหารือการหางานทำในเถาหยวน แต่ยังไม่ทันสั่งอาหารก็มีตำรวจเข้ามาตรวจในร้าน ถูกจับทั้งคู่

นายเวกับนายลี่ เพื่อนรุ่นพี่นัดแนะเจอกันที่ร้านอาหารเวียดนามหลังสถานีรถไฟเถาหยวน เพื่อหารือการหางานทำในเถาหยวน แต่ยังไม่ทันสั่งอาหารก็มีตำรวจเข้ามาตรวจในร้าน ถูกจับทั้งคู่

         ขณะสอบปากคำ นายลี่ให้การว่า เนื่องจากในโรงงานไม่มีโอทีทำ รายได้ไม่พอใช้หนี้ตัดดอก จึงหลบหนีไปทำงานอย่างผิดกฎหมาย และมีโอกาสพบกับนายเวในงานสังสรรค์คนบ้านเดียวกันเมื่อ 2 เดือนก่อน นายเวสอบถามตนว่าทำงานที่ไหน เงินดีไหม? จึงเล่าให้ฟังว่า หลบหนีจากนายจ้างออกมาทำงานอิสระ รายได้คิดเป็นรายวันและรับสดวันละ 1,500 เหรียญ ไม่ต้องเสียค่าล่ามและไม่ถูกหักเบี้ยประกันและภาษี ส่วนนายเวให้การว่า ตนได้ยินข้อมูลจากเพื่อนรุ่นพี่แล้ว รู้สึกอิจฉามากอยากหนีไปทำงานอิสระบ้าง ตัดสินใจหลบหนีนายจ้างออกมาหางานทำอย่างผิดกฎหมายเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แต่ที่ไหนได้ ไม่ง่ายอย่างคิด หางานทำลำบากมาก นายจ้างส่วนใหญ่ไม่กล้ารับ ทั้งเดือนมีงานทำเพียงไม่กี่วัน รายได้ไม่พอยาไส้ ยังดีที่พอมีเงินติดตัวอยู่บ้าง มิเช่นจะต้องอดตายแน่นอน จึงหาทางติดต่อกับนายลี่ เพื่อนรุ่นพี่ ทราบว่าตกงานเช่นกัน ทั้งสองจึงนัดแนะขึ้นเหนือ ไปเจอกันที่ร้านอาหารดังกล่าว เพื่อหารือเรื่องการหางานทำในเถาหยวน แต่ยังไม่ทันจะสั่งอาหารหรือคุยกัน ก็ถูกตำรวจจับเสียก่อน

นายเวกับนายลี่ เพื่อนรุ่นพี่นัดแนะเจอกันที่ร้านอาหารเวียดนามหลังสถานีรถไฟเถาหยวน เพื่อหารือการหางานทำในเถาหยวน แต่ยังไม่ทันสั่งอาหารก็มีตำรวจเข้ามาตรวจในร้าน ถูกจับทั้งคู่

        ระหว่างสอบปากคำ นายเวกระซิบถามตำรวจที่บันทึกปากคำว่า แก้ปัญหาด้วยเงินได้ไหม ตำรวจกล่าวเตือนทันทีว่า พฤติกรรมดังกล่าวผิดทางกฎหมาย ข้อหาติดสินบนเจ้าพนักงาน มีโทษถึงจำคุก แต่คำนึงถึงนายเว อาจไม่ทราบระเบียบกฎหมายของไต้หวัน ได้แต่เตือนว่า ทำเช่นนั้นไม่ได้ หลังสอบปากคำ ควบคุมตัวทั้งสองไปยังสถานกักกันของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองรอการส่งกลับประเทศ

2. สาวอินโดฯ สุดแสบ ขโมยเงินเถ้าแก่เนี้ยต่อเนื่อง 74 ครั้ง สะสม 5.29 ล้านเหรียญ ถูกจับคืนแค่ 5.5 แสน ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 2 เดือน

       แรงงานหญิงอินโดนีเซียรายหนึ่ง เดินทางมาทำงานในโรงงานผลิตเครื่องจักรกลที่นครไทจง เนื่องจากเอาใจเก่งได้รับความไว้วางใจจากภรรยาเจ้าของโรงงาน สามารถเข้าออกห้องนอนเถ้าแก่เนี้ยได้ ถือโอกาสที่เจ้าของเผลอ ขโมยบัตร ATM ไปถอนเงินในร้านสะดวกซื้อเป็นประจำ เบิกเงินเสร็จรีบมาวางไว้ที่เดิม ทำแบบนี้มาเป็นเวลา 2 ปี รวมสะสมแล้วแอบถอนเงิน 74 ครั้ง เถ้าแก่เนี้ยจึงเอะใจเข้าแจ้งความ รวมเงินที่แอบถอนไป 5,291,000 เหรียญไต้หวัน มีการคืนเงินเพียง 550,000 เหรียญ ถูกสั่งฟ้องข้อหาแอบถอนเงินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต 74 ครั้งและลักทรัพย์อีก 1 กระทง เนื่องจากรับสารภาพและให้ความร่วมมือโดยดี ศาลตัดสินจำคุก 2 ปี 2 เดือน

อาคารที่ทำการของศาลท้องถิ่นไทจง

       นางสาวซานี่ (นามสมมุติ) แรงงานหญิงอินโดนีเซียเดินทางมาทำงานที่โรงงานผลิตเครื่องจักรกลแห่งหนึ่งในนครไทจง ปกติจะเอาใจและตีสนิทกับภรรยาเถ้าแก่ ทำให้ได้รับความไว้วางใจ รู้เลขบัญชี รหัสธนาคารและที่เก็บบัตร ATM ของเถ้าแก่เนี้ย นางสาวซานี่ถือโอกาสที่เจ้าของไม่อยู่ ย่องเข้าห้องนอนและแอบขโมยบัตร ATM ของเถ้าแก่เนี้ยไปถอนเงินที่ตู้ ATM ในร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 4 กันยายน 2563 เป็นต้นมา เริ่มจากแอบถอนครั้งละ 1,000 เหรียญ เสร็จแล้วรีบนำกลับวางไว้ที่เดิม เมื่อมั่นใจว่าเถ้าแก่เนี้ยไม่รู้ ก็แอบถอนจำนวนเงินเพิ่มขึ้นเป็นครั้งละ 20,000-30,000 เหรียญ บางครั้งเป็นครั้งละ 100,000 เหรียญ และถี่ครั้งมากขึ้น ทำแบบนี้มาเป็นเวลา 2 ปี จนเถ้าแก่เนี้ยเอะใจว่า บัญชีการเงินของโรงงานมีเงินหายไปโดยไม่รู้สาเหตุ จากการตรวจสอบพบว่านางสาวซานี่เป็นผู้ขโมยจึงเข้าแจ้งความ รวมเงินสะสมที่แอบขโมยถอนเงิน 74 ครั้ง 5,269,000 เหรียญ ตำรวจยังตรวจพบว่า ก่อนหน้าขโมย ATM ไปกดเงินที่ร้านสะดวกซื้อ นางสาวซานี่ยังเคยขโมยเงินสดของนายจ้าง 22,000 เหรียญ หลังสอบปากคำนางสาวซานี เอาเงินสดที่ยังเหลือจากการโอนกลับบ้านมาคืนให้นายจ้างจำนวน 550,000 เหรียญ

อาคารที่ทำการของศาลท้องถิ่นไทจง

      หลังเกิดเหตุ นางสาวซานี่รับสารภาพแต่โดยดี คำให้การตรงกับที่ผู้เสียหายแจ้งความ รวมทั้งตรวจพบของกลางเป็นสลิปรายการถอนเงินจากตู้ ATM ที่ยังเก็บไว้และภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดในร้านสะดวกซื้อ อัยการสั่งฟ้องในข้อหาขโมย ATM ถอนเงินของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต 74 ครั้ง และลักทรัพย์ 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ศาลชั้นต้นไทจงพิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นแรงงานต่างชาติ มีความสำนึกผิดและมีท่าทีที่ดีให้ความร่วมมือ ตัดสินจำคุกนางสาวซานี่ 2 ปี 2 เดือน

3. ยกเลิกแน่นอนแล้ว? กระทรวงแรงงานแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการที่แรงงานต่างชาติซื้อรถจักรยานไฟฟ้าต้องได้รับอนุญาตจากนายจ้าง กรมการขนส่งทางบกรับทบทวนใหม่

            กรณีที่กรมการขนส่งทางบกประกาศ ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายนเป็นต้นมา รถจักรยานไฟฟ้าซื้อใหม่ทุกคันจะต้องยื่นขอติดแผ่นป้ายทะเบียนและต้องซื้อประกันภัยภาคบังคับ จึงจะอนุญาตให้ขับขี่บนท้องถนนได้ ซึ่งเป็นการจัดระเบียบใหม่สำหรับรถจักรยานไฟฟ้าที่นับวันจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นและเกิดอุบัติเหตุสูงตามไปด้วย ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ แต่มีมาตรการหนึ่งที่ทำให้หลายฝ่ายออกมาวิพากษ์วิจารณ์ นั่นคือ แรงงานต่างชาติซื้อรถจักรยานไฟฟ้าคันใหม่ต้องมีหนังสืออนุญาตจากนายจ้าง จึงจะขึ้นทะเบียนยื่นขอแผ่นป้ายได้ นอกจาก ส.ส. ทนายความและองค์กร NGO ต่อต้านแล้ว ล่าสุดกระทรวงแรงงานก็แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าวเช่นกัน

กระทรวงแรงงานแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการที่แรงงานต่างชาติซื้อรถจักรยานไฟฟ้าต้องได้รับอนุญาตจากนายจ้าง

          กระทรวงแรงงานกล่าวว่า แรงงานต่างชาติซื้อรถจักรยานไฟฟ้าควรจะได้รับอนุญาตจากนายจ้างหรือไม่? ไม่อยู่ในอำนาจหรือขอบข่ายการบังคับของกฎหมายการจ้างงาน และก่อนที่กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคมจะประกาศกฎระเบียบดังกล่าว ไม่มีการหารือหรือขอความเห็นจากกระทรวงแรงงานมาก่อน แต่กระทรวงแรงงานเห็นว่า การซื้อรถจักรยานไฟฟ้าของแรงงานต่างชาติและชาวต่างชาติอื่น ๆ ไม่ควรจะเลือกปฏิบัติหรือใช้สองมาตรฐาน และการที่บังคับให้แรงงานต่างชาติซื้อรถจักรยานไฟฟ้าต้องได้รับอนุญาตจากนายจ้างนั้น เข้าข่ายฝ่าฝืนหลักการไม่มีกฎหมายไม่มีอํานาจและขัดกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง รวมทั้งละเมิดอนุสัญญาว่าด้วยการคุ้มครองสิทธิแรงงานย้ายถิ่น กระทรวงแรงงานจึงไม่สนับสนุนมาตรการดังกล่าว

30 พ.ย. 65 เป็นต้นมา รถจักรยานไฟฟ้าซื้อใหม่ทุกคันจะต้องยื่นขอติดแผ่นป้ายทะเบียนและต้องซื้อประกันภัยภาคบังคับ จึงจะอนุญาตให้ขับขี่บนท้องถนนได้

          เมื่อเสียงต่อต้านมากขึ้น กรมการขนส่งทางบกออกมาชี้แจงว่า จะทบทวนนโยบายดังกล่าว โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือ เพื่อหามาตรการทดแทนในเร็ว ๆ นี้ เป้าหมายคือไม่กระทบสิทธิมนุษยชนและสามารถบริหารควบคุมความเป็นระเบียบและความปลอดภัยด้านการจราจร

ผู้จัดรายการ

ความคิดเห็นที่เกี่ยวข้อง